“ทรัมป์” แจ้งข่าว สหรัฐฯบอมบ์โรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน

"ทรัมป์" แจ้งข่าว สหรัฐฯบอมบ์โรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน

“ทรัมป์” แจ้งข่าว สหรัฐฯบอมบ์โรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเช้านี้ (22 มิ.ย.) ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ระเบิดทำลายโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน รวมถึงโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมฟอร์โดว์จนหมดสิ้นแล้ว สื่อสหรัฐฯเผยใช้ระเบิดทำลายบังเกอร์ 6 ลูก กับจรวดโทมาฮอว์ค 30 ลูกจากเรือดำน้ำ ผู้นำอิสราเอลยกสหรัฐฯไร้เทียมทาน อิหร่านประกาศจากนี้ไปอเมริกันชนทุกคนคือเป้าหมายชอบธรรม

ศึกอิสราเอล-อิหร่านทวีความตึงเครียดอีกหลายระดับ เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯที่เพิ่งประกาศว่าจะตัดสินใจใน 2 สัปดาห์ว่า จะร่วมกับอิสราเอลถล่มอิหร่านหรือไม่ ปรากฏว่า ผ่านไปแค่สองวันเท่านั้น ก็ไฟเขียวใช้ปฏิบัติการทหาร ระเบิดทำลายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน โดยเฉพาะโรงงานลับเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมฟอร์โดว์ ที่อยู่ลึกลงไปในอุโมงค์ใต้ดิน กับอีกสองแห่งคือ ที่เมืองนาทานซ์ กับ อิสฟาฮาน

ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลงอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 22 นาฬิกา วันเสาร์ที่ 21 มิถนายนตามเวลาสหรัฐฯ ตรงกับเวลา 9 นาฬิกา วันนี้ (22 มิ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย ว่า การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมของอิหร่านจนหมดสิ้น หลังจากนี้ สันติภาพจะเกิดขึ้นในอิหร่าน หรือไม่ อิหร่านก็อาจจะเผชิญโศกนาฏกรรมยิ่งกว่า 8 วันที่ผ่านมา จงจำไว้ว่ายังมีเป้าหมายอีกมากมายยังเหลืออยู่ในอิหร่าน

ทรัมป์ กล่าวว่า คืนนี้เป็นคืนยากลำบากที่สุดสำหรับอิหร่าน และบางที อาจเป็นคืนอันตรายที่สุดด้วย หากสันติภาพยังไม่บังเกิดโดยเร็ว สหรัฐฯจะจัดการกับเป้าหมายอื่น ๆ อย่างแม่นยำ รวดเร็วและด้วยความชำนาญ ส่วนใหญ่เป็นเป้าหมายที่สามารถกำจัดได้ในเวลาไม่กี่นาที ไม่มีกองทัพใดในโลกใบนี้ที่โจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่านอย่างที่สหรัฐฯทำได้

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวต่อว่า อิหร่านตะโกนมา 40 ปีว่า อเมริกาจงพินาศ อิสราเอลจงพินาศ และอิหร่านยังสังหารชาวอเมริกันและผู้คนอื่น ๆ ในภูมิภาคหลายพันคน เขาตัดสินใจมานานแล้วว่าจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก และจะทำต่อไป พร้อมกันนี้ ได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู โดยบอกว่าเราทำงานเป็นทีม ในการเดินหน้ากำจัดภัยคุกคามต่ออิสราเอลมาอย่างยาวนาน ทั้งยังขอบคุณกองทัพอิสราเอลที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ตลอดจนชื่นชมทหารอเมริกันที่มีส่วนร่วมปฏิบัติการโจมตีอิหร่านในคืนนี้ และหวังว่าจะไม่ต้องใช้บริการของพวกเขาในระดับนี้อีก

ด้านนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู แสดงความยินดีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ถล่มโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน ด้วยพละกำลังยิ่งใหญ่และชอบธรรม ปฏิบัติการของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงความไร้เทียมทานของกองทัพสหรัฐอย่างแท้จริง และทรัมป์ได้สร้างหมุดหมายใหม่ทางประวัติศาสตร์ อันจะช่วยนำพาตะวันออกกลาง เดินทางสู่อนาคตแห่งความรุ่งเรืองและสันติ

ที่กรุงเตหะราน ผู้ประกาศข่าว IRIB สื่อกระจายเสียงทางการอิหร่าน ประกาศว่า พลเมืองอเมริกันและทหารสหรัฐฯ ทุกคนในภูมิภาค เวลานี้คือเป้าหมายอันชอบธรรม หลังสหรัฐฯถล่มโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมขึ้นภาพแผนที่ที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯในภูมิภาค ผู้ประกาศระบุว่า เมื่อท่านเริ่มไว้ เราจะจบทุกอย่างเอง

ทั้งนี้มีสัญญาณตั้งแต่เมื่อวาน (21 มิ.ย.) แล้วว่า สหรัฐฯตัดสินใจเข้าร่วมศึกอิสราเอล-อิหร่านโดยตรง ด้วยการถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ในอิหร่าน หลังจากมีรายงานเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-2 สปิริตของสหรัฐฯ บรรทุกระเบิดทำลายบังเกอร์ หรือ บังเกอร์ บัสเตอร์ ***ขึ้นบินจากสหรัฐฯมุ่งหน้าไปเกาะกวม

ก่อนแถลงอย่างเป็นทางการ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ทรูธ โซเชียล ประกาศความสำเร็จในการโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่าน 3 แห่ง โดยระบุว่า ระเบิดเต็มอัตราถูกทิ้งลงที่ตั้งนิวเคลียร์สำคัญอย่างฟอร์โดว์ เครื่องบินสหรัฐฯทุกลำเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ขอแสดงความยินดีกับนักรบอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่สามารถทำเช่นนี้ได้ เวลานี้ คือเวลาแห่งสันติภาพเท่านั้น

ฟอร์โดว์ เป็นโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน และมีความสำคัญมากที่สุดของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน อิสราเอลพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐฯร่วมถล่มตลอดมา เพราะสหรัฐฯเป็นประเทศเดียวที่มีระเบิดทำลายที่ตั้งใต้ดินลึกได้ และตั้งเป้าไว้ว่าศึกครั้งนี้จะสำเร็จได้เมื่อโรงงานฟอร์โดว์ถูกทำลายเท่านั้น

ทรัมป์ไม่ได้ลงรายละเอียดในโพสต์สื่อสังคมออนไลน์ และในระหว่างการแถลงว่า ใช้เครื่องบิน หรือระเบิดชนิดใดที่ใช้ในปฏิบัติการครั้งนี้ แต่บอกว่า พีท เฮกเสธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และ พลโท แดน เคน ประธานเสนาธิการร่วม จะแถลงที่กระทรวงกลาโหม เพื่อให้ข้อมูลการโจมตีเพิ่มเติมในเวลา 8 นาฬิกาของวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ( ช่วงค่ำตามเวลาในบ้านเรา )

ขณะที่ ฌอน ฮันนิตี้ ผู้ประกาศข่าวฟ็อกส์นิวส์ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์บอกกับเขา ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ ใช้ระเบิดทำลายบังเกอร์ 6 ลูก แต่ละลูกหนัก 3 หมื่นปอนด์ หรือเกือบ 14 ตัน หย่อนทำลายโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินฟอร์โดว์ และใช้มิสไซล์โทมาฮอว์ค TLAM จำนวน 30 ลูก ยิงจากเรือดำน้ำสหรัฐฯที่อยู่ห่างจากเป้าหมายกว่า 600 กิโลเมตร ในการถล่มที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์นาทานซ์ และ อิสฟาฮาน ที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่านทั้ง 3 แห่งถูกทำลายหมดสิ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ณพล บริบูรณ์ ดูงานแก้ปัญหาขยะแบบยั่งยืน นิคมอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน Shenyang Laohuchong
ธรรมนัส ควงรมต.กล้าธรรม ลุย พิจิตร เร่งช่วยน้ำท่วม จ่อ คัมแบ๊กโครงการชะลอขายข้าว
ก้องสนั่น! รือเสาะจัดศึกนกเขาชวาเสียงชิงถ้วยพระราชทานฯ ครั้งที่ 10 สุดยิ่งใหญ่
อุทัยธานีชู “ส้มซ่า–วิหาร 500 ปี” ดึงนักท่องเที่ยว ชม–ชิม–ชอป สร้างรายได้ชุมชน
อบต.แม่สามแลบ ร่อนหนังสือขอเครื่องจักร อบจ.แม่ฮ่องสอน ซ่อมแซมทาง หลังเสียหายหนักจากน้ำป่า
ทนายไพศาลช่วยสาว 17 ถูกหญิงอ้างเป็นทนายทำร้าย-ไลฟ์สดประจาน ทนายไพศาล ลงพื้นที่ช่วยเหลือ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​