“ดร.โอฬาร” ชี้ชัดภท.ถอนตัวร่วมรัฐบาล ทำเสียงปริ่มน้ำ ไร้เสถียรภาพ “เพื่อไทย” โดนลดอำนาจต่อรอง

“โอฬาร” ชี้ รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพแน่ หลังไร้ภูมิใจไทย เกมต่อรองใหม่ พร้อมระเบิดศึก ลุ้นหนักถึงขั้น “พังกลางทาง”

“ดร.โอฬาร” ชี้ชัดภท.ถอนตัวร่วมรัฐบาล ทำเสียงปริ่มน้ำ ไร้เสถียรภาพ “เพื่อไทย” โดนลดอำนาจต่อรอง – Top News รายงาน

 

 

ดร.โอฬาร

 

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ การเมือง ณ ขณะนี้ ที่พรรคภูมิใจไทย จะถูกปรับเป็นฝ่ายค้าน ว่า

พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล ต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ การเปลี่ยนสถานะจาก “รัฐบาลเสียงข้างมากที่มั่นคง” สู่การเป็น “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ” จากนี้ไป เสียงในสภาผู้แทนราษฎรของฝั่งรัฐบาลกับฝ่ายค้านในขณะนี้ มีจำนวนที่ใกล้เคียงกันอย่างน่าตกใจ ความแตกต่างของจำนวน ส.ส. อาจเหลือเพียงหลักหน่วย หรืออาจไม่มีความได้เปรียบเลยหากมีการงดออกเสียง หรือขาดประชุมของสมาชิกบางคน นั่นหมายความว่า ทุกการขับเคลื่อนนโยบาย หรือการผลักดันกฎหมายสำคัญ ๆ จะไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกต่อไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี หรือแม้แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ กฎหมายกาสิโน ล้วนต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสภาในระดับที่มีความชัดเจนและมั่นคง ซึ่งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำย่อมขาดความสามารถในการควบคุมเสียงเหล่านี้ได้แบบเบ็ดเสร็จอย่างที่เคยเป็นมา

ในสภาพเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยจะต้องประเมิน ควบคุม และบริหารจัดการ “เสียง” ในสภาอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น การประชุมสภาแต่ละครั้งจะกลายเป็นเกมที่ต้องวางหมากเดินอย่างแม่นยำ ต้องมีการเช็คชื่อ เช็คคิว เช็ครายงานตัวของ ส.ส. แทบทุกนาที เพราะแม้แต่การขาดประชุมเพียงหนึ่งเสียง ก็อาจทำให้ร่างกฎหมายสำคัญต้องตกอย่างน่าเสียดาย

ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ “พรรคร่วมรัฐบาล” จะกลายเป็นผู้เล่นที่ทรงอำนาจมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่มีความได้เปรียบด้านเสียงเด็ดขาดอีกต่อไป การดำรงอยู่ของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค จะกลายเป็นตัวแปรที่สามารถต่อรอง เรียกร้อง และ “ต่อราคา” ได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี การขอจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งการขอผลักดันนโยบายเฉพาะพรรคเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาล

 

ภายใต้สถานการณ์นี้ พรรคเพื่อไทยจะต้องเดินเกมการเมืองอย่างระมัดระวังทุกก้าว ทุกการเจรจา ทุกการจัดสรรผลประโยชน์ ล้วนต้องแลกกับเสียงในสภา ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติศรัทธาทางการเมือง และเพื่อให้รัฐบาลยังสามารถบริหารประเทศได้ต่อไป แต่หากขยับเกมพลาดแม้เพียงนิดเดียว รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนี้ พังกลางทางแน่นอน เพราะมีปัจจัยลบเยอะมาก โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาภายในรัฐบาลเท่านั้น เพราะการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำย่อมเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านใช้จังหวะนี้ขยายพื้นที่ทางการเมือง สร้างความกดดัน และยกระดับการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ในบางกรณีอาจถึงขั้นยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างอำนาจ สุดท้าย ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งประชาชนและนักลงทุน เพราะรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพทางเสียงในสภา ก็อาจไม่มีเสถียรภาพในการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมั่นคง แล้วคนที่ทนทุกข์ ก็คือประชาชนนี่เอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รอง ผบ.ตร." เปิดปฏิบัติการกวาดล้าง "พระนอกรีต" จับแล้ว 154 ราย บางรูปไม่ยอมสึก สำนักพุทธฯ ยันให้ความร่วมมือตำรวจ 100%
"กองทัพบก" ส่งคลิปรถแทรกเตอร์ไทย เดินหน้าลุยล้างป่าช่องอานม้าแล้ว เร่งเคลียร์หน้าดินเก็บกู้ทุ่นระเบิด
สภ.ถลาง จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ยึดของกลาง 6,000 เม็ด ไอซ์กว่า 300 กรัม
ภาคท่องเที่ยวพัทยา ระบุ ภาษีใหม่สหรัฐฯ 19% ไม่น่าห่วงเท่าสถานการณ์ปะทะชายแดนไทยกัมพูชา ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว
ครม.ไฟเขียว "กองทัพเรือ" เดินหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ อนุมัติเปลี่ยนใช้เครื่องยนต์จีน CHD620
ครม.เห็นชอบ "ภูมิธรรม" โยกย้ายอธิบดีกรมที่ดิน-กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​