ครม.ไฟเขียว “ยกเว้นภาษี” จากกำไรขายสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 68-72 พร้อมส่งเสริมไทยเป็นฮับการเงินโลก

ครม.ไฟเขียว “ยกเว้นภาษี” จากกำไรขายสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 68-72 พร้อมส่งเสริมไทยเป็นฮับการเงินโลก

ครม.ไฟเขียว “ยกเว้นภาษี” จากกำไรขายสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 68-72 พร้อมส่งเสริมไทยเป็นฮับการเงินโลก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

17 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 อนุมัติหลักการมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ของโลกตามร่างกฎกระทรวง ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ที่กระทรวงการคลังเสนอ

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริม การเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลของโลกเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรส่วนทุน (Capital Gains) จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (เอ็กซ์เช้นจ์) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (โบลกเกอร์) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (ดีลเลอร์) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงิน (ไฟแนนเชียล ฮับ ) ของโลก

 

 

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่มีกฎหมายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และกฎหมายภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล และต่อมาได้มีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษี จากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อส่งเสริมให้มีการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัล และส่งเสริมให้การซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลเกิดขึ้นผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลในคราวนี้ จะทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย รวมถึงธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และธุรกิจเกี่ยวเนื่องในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้น ตลอดจนการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และนวัตกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อันจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น และรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นในระยะปานกลาง ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท”

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มาตรการภาษีนี้เป็นการสนับสนุน การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งมีการดำเนินการตามข้อแนะนำ ของคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force (FATF)) จึงเชื่อมั่นได้ว่า จะมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างดำเนินการ ตามกรอบการรายงานข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัลแบบอัตโนมัติ (Crypto-Asset Reporting Framework: CARF) ของ โออีซีดี ซึ่งเป็นการเเลกเปลี่ยนข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัล กับประเทศทั่วโลก อันจะทำให้การทำธุรกรรมทางสินทรัพย์ดิจิทัล มีความโปร่งใสเพิ่มขึ้นอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทต.เกล็ดแก้วเปิดการประชุมสภาครั้งแรก พร้อมประดับเครื่องหมายอินทรธนูให้กับนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาฯ
ด่วน! "พรรคภูมิใจไทย" แถลงการณ์ ขอถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล มีผล19 มิ.ย. ชี้คลิปเสียงนายกฯ กระทบอธิปไตยแผ่นดิน
ฮือฮา! ครูสอนดำน้ำบางเสร่เผยคลิปฉลามวาฬว่ายน้ำเคียงข้างเรือกลางทะเลสัตหีบ
Taiwan Excellence มุ่งมั่นนำโซลูชันอัตโนมัติอัจฉริยะ พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย
คาเมเนอีเตือนสหรัฐจะพังพินาศหากช่วยอิสราเอลโจมตีอิหร่าน
อิหร่านขู่จัดหนักสหรัฐถ้าทรัมป์จับมืออิสราเอลถล่มอิหร่าน
ภาพ "แม่ทัพภาค 2" ขึ้นโชว์จอ LED หน้าสโมสรทหารบก พร้อมข้อความให้กำลังใจ
ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา แถลงผลการจับต่างด้าว ช่วยเด็ก 9 ราย ป้องปรามขบวนการค้ามนุษย์
ผวจ.ชลบุรี ประดับเครื่องหมายอินธนู นายกฯ และ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสัตหีบ
หลุดคลิปเต็ม 17 นาที "นายกฯอิ๊งค์" ห่วงขัดแย้งไทย-กัมพูชา บานปลาย ยอมอ่อนข้อ ถึงขั้นเสนอจะเอาอะไรให้บอก แจ้งโพสต์ "ฮุน เซน" สั่นคลอนรัฐบาล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น