“ดร.ปิติ” ยก 10 ข้อ เตือนสติไทย โดน “กัมพูชา” ปั่นไอโอ เร่งทำเอกสารไม่รับอำนาจศาลโลก ตัดไฟ อินเตอร์เน็ตจริงๆ

"ดร.ปิติ" แนะ10ข้อรับมือกัมพูชา คนไทยควรทำจิตใจให้เข้มแข็ง อย่าให้ลุกลามเกลียดชัง จี้รบ.ตั้งศูนย์เฉพาะกิจความมั่นคง วางยุมธศาสตร์สู้ ยกตัวอย่างยุคแก้โควิด แนะแสดงหลักฐานชัดๆอีกฝ่ายละเมิดMOU43

“ดร.ปิติ” ยก 10 ข้อ เตือนสติไทย โดน “กัมพูชา” ปั่นไอโอ เร่งทำเอกสารไม่รับอำนาจศาลโลก ตัดไฟ อินเตอร์เน็ตจริงๆ – Top News รายงาน

 

ดร.ปิติ

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กกรณีกัมพูชาส่งหนังสือถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

โดยรศ.ดร.ปิติ มีข้อเสนอแนะ ดังนี้

1.คนไทยควรทำจิตใจให้เข้มแข็ง เข้าใจสภาพความเป็นจริงก่อนว่า ชายแดนไทย-กัมพูชา ยาว 798 กิโลเมตร มีความขัดแย้งกัน 4 จุด ดังนั้นอย่าให้ประเด็นขัดแย้ง 4 จุดกลายเป็นความเกลียดชังระหว่างคนไทยและคนเขมร และปัญหาจริงๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาของคนในพื้นที่ แต่เป็นปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนของกลุ่มอำนาจการเมืองในกรุงเทพและพนมเปญ เราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อย่างมีสติ เพราะในความเป็นจริง คนไทยและคนกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีเกื้อกูลซึ่งกันและกันมาตลอดประวัติศาสตร์ เราเรียนรู้จากเขา เอามาพัฒนา เขาเรียนรู้จากเรา เอาไปปรับใช้ ทั้งสองรัฐถึงพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นพันปี

 

2.คนไทยต้องศึกษาข้อมูลให้มาก เอกสารที่สมควรต้องอ่านและทำความเข้าใจด้วยตนเอง อย่าให้ใครมาชี้นำได้คือ MOU2543, MOU2544
เอกสาร 2 ฉบับนี้ยาวรวมกันไม่ถึง 8 หน้ากระดาษ , คำตัดสินกรณีเขาพระวิหาร ทั้ง 2 รอบ, แผนที่ 1:200000 ระวางดงรัก, และ แผนที่ 1:50000 L7017 ของเก่า และ L7018 ของใหม่

3. เป้าหมายสำคัญที่สุดของไทยและกัมพูชา คือ การสร้างชายแดนให้เป็นจุดเชื่อมโยงแห่งโอกาส โอกาสการค้า โอกาสการลงทุน โอกาสการเข้าถึงทรัพยากร โอกาสการเข้าถึงตลาด โอกาสพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน โอกาสสร้างความมั่งคั่งให้คนในพื้นที่ โอกาสพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน โอกาสเชื่อมโยงระบบ Logistics ฯลฯ อย่าละทิ้งโอกาสเพราะนักการเมืองชั่วๆที่เมืองหลวง ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันของเครือญาติครอบครัว แต่ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของชาติทั้งสองมาทำให้เราเสียโอกาส ดังนั้นชายแดน 798 กิโลเมตรต้องเดินหน้าหา solution ที่ยั่งยืนร่วมกัน ถ้าแผนที่มีปัญหาก็ใช้เทคนิคสมัยใหม่ในการจัดทำแผนที่ร่วมกัน Delimitation และเริ่มต้น Demarcation กันใหม่ทั้งหมด โดยยึดเอาประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นหลัก แล้วจริงๆ แผนที่ที่มีปัญหาก็มีไม่กี่ตำแหน่งในระวางเดียว ที่เหลือก็ต้องยึดหลักการสากล ซึ่งก็คือ สันปันน้ำ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

4.ไทยต้องตั้งศูนย์เฉพาะกิจของสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกฯ รองนายกฯ กลาโหม ต่างประเทศ คลัง คมนาคม DE มหาดไทย ยุติธรรม กองบัญชาการกองทัพไทย และเลขาธิการ สมช. เป็นเสมือน War room ติดตามสถานการณ์ วางยุทธศาสตร์ยุทธวิธี และสื่อสารเชิงกลยุทธ์จากจุดเดียวให้ทั้งประชาชนไทย และประชาคมโลกเข้าใจถูกต้องตรงกัน แถลงแบบช่วงการระบาดโควิดเลยในทุกวาระที่มีความตึงเตรียด โดยแถลง 3 ภาษา ไทย อังกฤษ และขแมร์ ผ่านช่องทางที่เป็นทางการ และห้ามคนที่ไม่รู้เรื่อง คนที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องออกมาพูด เพื่อป้องกันความสับสน

5. ไทยต้องยืนยันเป็นเอกสารอย่างชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ แสดงหลักฐานที่มีทั้งหมดที่เราปฏิเสธอำนาจ ICJ ในทุกวาระ

6.ไทยต้องแสดงหลักฐานว่าเรามีกลไกในการจัดการชายแดนและระงับข้อพิพาทอยู่แล้วระหว่าง 2 ประเทศ นั่นคือ MOU2543 ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ ฝ่ายกัมพูชาทำเสียมารยาท เพราะทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพการประชุมJBC ตาม MOU2543อยู่แท้ๆ แต่กัมพูชากลับดำเนินการละเมิดข้อ 8 ของ MOU2543 เสียเองโดยการนำเรื่องขึ้นสู่ ICJ ทั้งที่ MOU2543 ข้อ 8 บัญญัติว่า “ให้ระงับข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดจากการตีความหรือการบังคับใช้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้โดยสันติวิธีด้วยการปรึกษาหารือและการเจรจา”

7.ไทยต้องแสดงหลักฐานทั้งคำให้การ ภาพถ่าย บันทึกต่างๆ ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเขมร ย้ำว่าต้องทำเอกสารและแถลงเป็นภาษาเขมรด้วย ของการละเมิด MOU2543 ข้อ 5 ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยละเมิดมาแล้วกว่า 400 ครั้งในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา

 

 

 

8.Softpower ให้ทุนการศึกษา ให้เด็กนักเรียนที่เก่งที่สุดในทุกระดับจากกัมพูชามาเรียนหนังสือในไทย ให้เงินเดือน ให้ค่าที่อยู่ ให้ค่ารักษาพยาบาล ให้ค่าเทอม ซึ่งเงินทั้งหมดก็ตกอยู่ในประเทศไทย เพราะเขาเข้ามากินมาอยู่ในไทย, สนับสนุนงานวิจัยร่วมไทย-กัมพูชา ได้ประโยชน์ร่วมกัน, ให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนมา, ส่งกองทัพออกไปเก็บกู้วัตถุระเบิด, ทำให้การจ้างแรงงานกัมพูชาสะดวกและถูกกฎหมาย, ให้การสนับสนุน NGOs/CSOs กัมพูชาที่ทำงานด้านการพัฒนาและการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมให้เอกชนไทยไปลงทุนในกัมพูชา เพื่อให้เขาเห็นว่า การเป็น Friend of Thailand ดีกว่าที่เขาจะเกลียดประเทศไทย ศัตรูของเขาไม่ใช่คนไทย แต่เป็นระบบการเมืองที่มีปัญหา

9.ตัดกระแสไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต สำหรับกิจการที่ใช้ไฟฟ้าและอินเตอร์เนตจากไทยในปริมาณมากๆ เพราะส่วนใหญ่คือ กิจกรรมการพนันและ scam center, fraud factory ห้ามบุคคลที่จะเดินทางออกไปเล่นการพนันไม่ให้ข้ามพรมแดน สังเกตจากคนพวกนี้จะมีนายหน้าของบ่อนดำเนินการเรื่อง border pass เพราะบ่อนและ scam center เป็นท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ในขณะที่หากเป็นกิจกรรมปกติ ค้าขาย ข้ามแดนเพื่อท่องเที่ยว ทำงาน ให้อำนวยความสะดวกตามปกติ เพื่อไม่ให้ประชาขนเดือดร้อน รวมทั้งให้กองทัพและ ตชด. ลาดตระเวนให้พื้นที่ช่องทางธรรมชาติให้มีความถี่สูงขึ้น

10.กระทรวงการต่างประเทศต้องเรียกให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยมาชี้แจง และรับนโยบายของฝ่ายไทย รวมทั้งกำหนดว่าหากมีปัญหาอีก คงต้องดำเนินการจากเบาไปหาหนักในสัดส่วนที่เหมาะสม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“โจ มณฑานี” ถึงน้ำตาซึม อ่านอัปเดตชีวิต 15 ทหารกล้า สู้ศึกเขมร แต่ละคำพูดจุกอก ตอกย้ำหัวใจนักรบ เกินอธิบาย พวกชอบถาม ‘มีทหารไว้ทำไม’
คนบึงกาฬรักสุขภาพ ร่วมกิจกรรม “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน–วิ่ง–ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ เมืองไทยไร้สโตรค”
ด่วน!! "ทหารเขมร" เมินข้อตกลง ปรี่ขวางคณะ AOT ตรวจพื้นที่บุรีรัมย์ ดูการเก็บกู้ทุ่ระเบิด ขณะทหารไทย ทภ.1-2 ทยอยถอนอาวุธหนักพ้นชายแดน
ชาวโคราชร่วมแรงศรัทธา ทอดกฐินสามัคคีเตชวโร ประจำปี 2568 บรรยากาศสุดอบอุ่น
ชาวโคราชแตกตื่น ถนนยุบกลางดึก บริเวณหน้าทางเข้าโรงเรียนบุญวัฒนา จนท.เร่งซ่อมก่อนเปิดเทอม
“ทนายเกิดผล” ชี้ชัดการซื้อ "เสื้อเกราะ" บริจาคให้ทหารไม่ผิดกฎหมาย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​