“ทนายวิญญัติ” ชี้มติแพทยสภาไม่เกี่ยวไต่สวนทักษิณ ยันป่วยแทรกซ้อนต้องใช้ยาหมอจากตปท.

"ทนายวิญญัติ" เผย ศาลนัดไต่สวนพยานอีกหลายนัด ถือเป็นแนวทางชัดเจน ชี้ "ทักษิณ" เป็นนักโทษเด็ดขาด มีคุณสมบัติครบถ้วน จึงได้รับการอภัยโทษ บอก คดีนี้ไม่เกี่ยวมติแพทยสภา ยัน ทักษิณไม่ได้หลบหนีตปท.

“ทนายวิญญัติ” ชี้มติแพทยสภาไม่เกี่ยวไต่สวนทักษิณ ยันป่วยแทรกซ้อนต้องใช้ยาหมอจากตปท. – Top News รายงาน

 

ทนายวิญญัติ

 

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่ศาลฎีกา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังศาลฎีกานัดไต่สวนนัดแรก ถึงการรักษาตัวชั้น 14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า วันนี้เป็นวันที่พวกเราในฐานะที่เป็นฝ่ายจำเลย ที่ศาลได้มีหมายนัดแจ้งมาเพื่อที่นัดพร้อมหรือนัดไต่สวน จากเดิมที่เราไม่รู้ และไม่ทราบว่าจะดำเนินการพิจารณาอย่างไร วันนี้มีความชัดเจนขึ้นในหลาย ๆ ส่วน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีผู้ที่ออกให้ความเห็นต่อสาธารณะ และมีการคาดการณ์คาดคะเนต่าง ๆ ก็เป็นคำถามของหลายฝ่าย วันนี้ศาลได้กรุณากำหนดแนวทางที่เป็นรูปแบบและชัดเจนว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร

นายวิญญัติ กล่าวต่อว่า วันนี้ศาลได้ไต่สวนพยาน 1 ปาก คือ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ คนปัจจุบันเสร็จแล้ว หลังจากนั้นตนเองได้ซักถาม เป็นกระบวนการปกติของทางศาลคดีการเมือง อย่างไรก็ดี ศาลเห็นว่ายังมีข้อเท็จจริงจำนวนพอสมควรที่ศาลจะต้องแสวงหาความจริง และหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเข้ามาประกอบการวินิจฉัยในคดี โดยพยานบุคคล 20 ปากที่ศาลมีหมายเรียกให้มาให้การไต่สวนต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกรอบระยะเวลา และศาลได้ให้โอกาสจำเลย ซึ่งตนเองได้ยื่นแถลงขอเสนอพยานบุคคล เพื่อประกอบการชี้แจงต่อศาล ซึ่งเบื้องต้นศาลให้เขียนคำแถลงเข้าไป ซึ่งก็จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากว่าศาลได้พูดชัดเจนว่าให้โอกาสจำเลยอยู่แล้วในการใช้สิทธิ์เต็มที่

ส่วนศาลให้ความชัดเจนอย่างไร นายวิญญัติ กล่าวว่า เดิมตนเองเหมือนคนตาบอดคลำช้าง ไม่รู้เลยว่าศาลจะมีพิจารณาอย่างไร แต่ก่อนหน้านี้ มีการเรียกพยานหนึ่งปาก คือ ผบ.เรือนจำ และคาดว่าคงไต่สวน ผบ. เรือนจำ แต่หลังจากนั้นศาลให้โอกาสในการไต่สวน หรือไต่สวนพยานบุคคลอื่น ๆ หรือไม่ ดังนั้น การที่มีการไต่สวนหลายนัดพร้อมกัน เป็นเรื่องที่ศาลกำลังแสวงหาความจริงไม่ได้รับฟังกระแสสังคม ตนเองก็เชื่อว่าศาลเห็นว่ากระแสสังคมก็วิพากษ์วิจารณ์กัน แต่ศาลก็พยามหาความจริงหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ว่าเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างไร ไม่ใช่ว่าวันนี้มาฟังแล้วตัดสินเลย แต่หลายคนว่าต้องกลับไปติดคุก นั่นก็เป็นเรื่องที่คาดคะเนกัน

ส่วนการนัดไต่สวนหลายนัด ประเด็นที่ศาลให้น้ำหนักดูเป็นคุณกับจำเลยหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นคนหรือเป็นโทษแต่สิ่งที่ตนเองยืนยันได้วันนี้คือ ความจริงคือท่านป่วย และได้รับการบังคับโทษตามหมายของศาลครบถ้วนแล้ว และถูกปล่อยตัวออกมาแล้วทั้งหมด คือกระบวนการที่เกิดขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทย

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวิญญัติ อธิบายถึงกระบวนการที่นายทักษิณผ่านมา ว่า ตั้งแต่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ได้มอบตัว และส่งไปราชทัณฑ์ เข้าเรือนจำแล้ว อยู่ในกระบวนการการบังคับโทษเบื้องต้นแล้ว หลังจากนั้นมีอาการป่วยแทรกซ้อนขึ้นมาจากอาการป่วยเดิมและเกิดหลังจากภาวะที่เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่ถูกจำกัดเกิดอาการเครียดทางร่างกาย และมีปฏิกิริยาเกิดขึ้นก็ได้รับการตรวจอย่างน้อยสามเวลา ซึ่งไม่ใช่เรื่องไม่ปกติ หรือถูกเตรียมการไว้ แต่เป็นมาตรฐานทั่วไป หลังจากนั้นเมื่อถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลก็มีการรับตัว และกระบวนการหลังจากนี้ เป็นการจำคุกตามมาตรา 55 ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ขอพระราชทานอภัยโทษ และระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็พักรักษาตัว และตลอดเวลามีการควบคุมตัวโดยเรือนจำ และเมื่อถึงเวลาที่มีอนุกรรมการพิจารณาการพักโทษ ซึ่งต้องเป็นผู้ถูกคุมขังเป็นนักโทษเด็ดขาด ซึ่งผ่านกระบวนการของรัฐมาหมด ซึ่งก็ได้พักโทษและออกไป ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 67 โดยยังเป็นนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการพักโทษซึ่งต้องรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติ ถ้าผิดระเบียบหรือผิดวินัยก็อาจถูกส่งเข้าเรือนจำเหมือนเดิม นายทักษิณ ในฐานะที่เป็นผู้ต้องขังดี ได้รับการจำคุกมาแล้ว

“ตนเองขอขีดเส้นใต้ว่า นายทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนถึงผ่านการพิจารณาแล้ว ว่าได้รับการอภัยโทษ จึงได้รับการพิจารณาปล่อยตัว”

นอกจากนี้หากศาลสงสัยหรือมีข้อเท็จจริงใดการป่วยส่งตัวอย่างไร เป็นเรื่องที่ศาลจะใช้ดุลยพินิจในการไต่สวนอีกครั้ง

เมื่อถามว่าได้ติดต่อกับนายทักษิณแล้วหรือไม่ ภายหลังผ่านการไต่สวนนัดแรก และจะมีการนำตัวนายทักษิณมาเบิกความที่ศาลฎีกาเองหรือไม่ นายวิญญัติ ปฏิเสธการตอบคำถาม

 

 

ส่วนที่ศาลเรียกมติของแพทยสภาเมื่อวานนี้ จะส่งผลต่อคดีนี้หรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า คนละประเด็นกับที่ศาลไต่สวน แพทยสภา เป็นเรื่องของหมอกับหมอ แพทยสภาก็เป็นหมอ ใช้กระบวนการตามข้อบังคับของตน และมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมต่าง ๆ แต่จะมีชัดเจน หรือความเคลือบแคลง ไม่เป็นกลางหรือไม่ ตนเองไม่มีความเห็น ทุกท่านไปหาความเห็นเอง แต่ยืนยันว่าเป็นคนละกรณีกับที่ศาลไต่สวน ซึ่งแพทยสภาไม่เคยปฏิเสธว่านายทักษิณ ไม่ได้ป่วย เพียงแต่มีคำว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤต ซึ่งไม่ใช่ประเด็น ในทางกฏหมายก็ไม่มีคำนี้ และเป็นดุลย์พินิจของแพทย์แต่ละคนในการวินิจฉัยส่งตัวหากผิดจริยธรรมต่อไปแพทย์สภาก็ต้องระวังตัวว่าการใช้มติแบบนี้จะเป็นมาตรฐานใหม่หรือไม่ และแพทย์สามท่านก็ยังต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมได้คือการยื่นศาลปกครอง

ส่วนการเบิกความพยานบุคคลนั้น ตนว่าเป็นคำถามที่ดีแต่อยากขอสงวนไว้ ซึ่งตนเองเห็นรายชื่อที่ศาลขอมาวันนี้แล้วซึ่งตนเองต้องอ้างบุคคลที่ไม่ซ้ำกับที่ศาลเรียกมาแน่นอนแต่จะเป็นใครบ้างขอไม่เปิดเผยเวลานี้ และการที่เราขอศาลมาก็ไม่ได้หมายความว่าจะอนุญาตทุกคน ต้องดูว่าศาลอยากรู้อยากทราบหรือไม่ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะมีกี่ปาก ซึ่งต้องตอบประเด็นถึงกรณีที่บอกว่าไม่ป่วย และเรื่องในทางปฏิบัติทั้งการใช้ดุลพินิจของแพทย์ การใช้อำนาจในการส่งตัวมา

ส่วนเอกสารการรับรองการรักษาตัวที่ต่างประเทศทำไมไม่แนบมาตั้งแต่แรก นายวิญญัติ กล่าวว่า ประวัติการรักษาตัวของผู้ป่วย ถือเป็นข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล ถือว่าสำคัญ จำเป็นที่ได้รับความคุ้มครองตามกฏหมาย ไม่ใช่ใครก็ ขอเปิดเผยและดำเนินการได้ยืนยันว่าอย่างแน่นอน และมีการยื่นให้กับแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์และผู้ตรวจร่างกาย เชื่อว่าที่เรือนจำไม่มียื่นก่อนหน้านี้ เป็นเพราะ เป็นข้อมูลที่ต้องได้รับการคุ้มครองและท่านก็ไม่ยินดีที่จะเปิดเผยหรือคัดลอกสำเนาไป และทำไมถึงไม่ยื่นนั้น เมื่อศาลอยากได้ประวัติ และรอให้ราชทัณฑ์ส่ง ซึ่งก็รอให้ทางราชทัณฑ์ตอบว่ามีบันทึกข้อมูลหรือไม่ ก็เป็นกระบวนการไป

 

 

นายวิญญัติ กล่าวต่อว่า หากศาลเรียกเอกสารรับรองการรักษาตัวที่ต่างประเทศ เราก็ต้องส่ง แต่หากไม่ได้เรียกก็เป็นเรื่องที่สงวนสิทธิ์ได้ที่จะไม่ส่ง ส่วนเรื่องใบเสร็จต้องถามนายชาญชัย กับพวก ว่าได้มาได้อย่างไร หากเป็นข้อมูลของราชการข้อมูลปกปิด ก็ขอให้มีการตรวจสอบ โดยเฉพาะโรงพยาบาลตำรวจว่า ได้ข้อมูลเหล่านี้มาได้อย่างไร แต่ข้อเท็จจริงคือใบเสร็จ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมน้อย ไม่มีค่ายา โรคของนายทักษิณ เป็นโรคที่เฉพาะด้าน ต้องมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการดูเรื่องรักษาตัวอยู่ต่างประเทศแล้ว ซึ่งไม่มีกฎหมายใด ห้ามใช้ยาของต่างประเทศ หรือหมอข้างนอก

ส่วนจะมีการส่งเรื่องยื่นต่อศาลธรรมนูญหรือไม่นั้น หากมีการกระทำใดที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ เราอาจใช้สิทธิ์ แต่ขณะนี้ยังไม่มีมีการคิด

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่า นายทักษิณได้หลบหนีไปแล้วหรือไม่ ซึ่งนายวิญญัติตอบว่า “ผมไม่ใช่คุณทักษิณ” ก่อนจะยืนยันอีกว่า ทักษิณไม่ได้หลบหนี ยังอยู่ในประเทศไทย

ส่วนที่เมื่อคืนปรากฏรายงานข่าวว่า นายทักษิณไปรับประทานอาหาร ที่ท่าเตียนนั้น นายวิญญัติระบุว่า “ท่านก็เป็นปุถุชนคนหนึ่ง และเป็นประชาชนคนไทย อย่าเอาประเด็นของท่านมาเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลเลย มองเรื่องอื่นบ้างเถอะ ท่านก็เข้ามาตั้งใจช่วยทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ ตามที่มีพระราชหัตถเลขา ท่านมีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านต้องทำเพื่อประเทศชาติบ้าง อย่าเอาแต่เรื่องการเมืองมาทำให้ท่านเป็นเหยื่อทางการเมืองเลย”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โฆษกทบ. ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาติดอาวุธ ปิดถนนขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอประชาชนฟังข้อมูลหน่วยงานราชการ
โซเชียลสุดทน "ใบตองแห้ง" โชว์เก๋า หยันทหารไม่มีอำนาจกำหนดเส้นแดน มีหน้าที่แค่ตายตามคำสั่ง
“ปืนใหญ่เขมร” ไร้น้ำยา! ไทยได้เปรียบ “สัตตะโสม” สูงกว่า บึ้มเดียวเละทั้งฐาน
"แม่ทัพภาคที่ 4" เยี่ยมให้กำลังใจ "ทหารพราน" ได้รับบาดเจ็บ เหตุลอบวางระเบิดนราธิวาส ชื่นชมความกล้าหาญ พร้อมเร่งล่าตัวคนร้ายดำเนินคดี
ตึกกรุงปอยเปต กัมพูชาถล่ม ทับรถพังเสียหายยับ "เทศบาลปอยเปต" รีบแก้ข่าว แค่รื้อถอนผิดพลาด
‘พิชัย’ เผยเริ่มประสาน ‘ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ’ ตั้งแต่ปลายปี 67 เตรียมเปิดเจรจาปมภาษี เชิงเทคนิคเร็วที่สุด
วันหยุดสายมูยังแห่ไปเจิมมือที่วัดเขาไม้แดงกันอย่างแน่นขนัดเพราะมาที่เดียวจบครบทุกอย่าง
ตำรวจสหรัฐไล่ล่าคนร้ายบุกยิงสองนักการเมืองดับคาบ้าน
อิหร่านรัวขีปนาวุธถล่มอิสราเอลหลังเตหะรานถูกโจมตี
เนทันยาฮูขู่โจมตีเป้าหมายทุกแห่งของรัฐบาลอิหร่าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น