“ฮุนเซน” ปลุกกระแสคลั่งชาติ มามุกเดิม หนุนแบนบันเทิง สินค้าไทย เมินขู่ตัดไฟ อินเตอร์เน็ต

"ฮุนเซน" ปลุกกระแสคลั่งชาติ มามุกเดิม หนุนแบนบันเทิง สินค้าไทย เมินขู่ตัดไฟ อินเตอร์เน็ต

สำนักข่าวทางการกัมพูชา AKP รายงานว่า ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียด หลังจากพวกกลุ่มหัวรุนแรงในไทย ขู่จะตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในกัมพูชา โดยเมื่อค่ำวานนี้ (12 มิ.ย.) นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก ที่เวลานี้ปิดกั้นการมองเห็นในไทย ว่า ที่ผ่านมา กลุ่มหัวรุนแรงในไทยที่ได้รับการสนับสนุนจาก “กลุ่มทหารสนับสนุนสงคราม” ขู่กัมพูชาว่าจะตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ว่าแต่พวกเขากำลังหมายถึงอำนาจอะไร ในเมื่อกัมพูชาไม่ได้พึ่งพาไฟฟ้าจากไทยด้วยซ้ำ และอินเทอร์เน็ตอะไร ในเมื่อกัมพูชาก็เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เพียงพอแล้ว

บิดานายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า เขาเรียกร้องมาตลอดว่า ความตึงเครียดทางทหารในพื้นที่หนึ่ง ไม่ควรลุกลามไปยังพื้นที่อื่น หรือภาคส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่เวลานี้ ชัดเจนแล้วว่า ปัญหาลุกลามใหญ่โต ตัวอย่างเช่น การปิดพรมแดนฝ่ายเดียว ลดระยะ
เวลาวีซ่าชาวกัมพูชา ขู่ตัดไฟฟ้าและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงการรุกล้ำจุดผ่านแดนบางแห่งโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตัดสินใจตามอำเภอใจ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้วยเหตุนี้ นอกจากการยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ แล้ว เขาจึงขอเสนอให้รัฐบาลกัมพูชา พิจารณาระงับการแพร่ภาพออกอากาศหนังไทยทางสถานีโทรทัศน์กัมพูชาทุกช่อง และอาจพิจารณาระงับการนำเข้าสินค้าไทยไปพร้อมกันด้วย

ฮุน เซน ยังกล่าวว่า กัมพูชาไม่ควรหวาดกลัวว่าไทยจะส่งกลับแรงงานชาวกัมพูชา เพราะ ไทยเองก็จะเดือดร้อนด้วยเช่นกัน บริษัทในไทยกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจไทยไปบ้างแล้ว อดีตผู้นำกัมพูชา ย้ำว่า ทั้งหมดนี้เป็นข้อเสนอแนะให้พิจารณา แต่มาตรการที่ควรทำทันที คือหยุดออกอากาศหนังไทยละครไทยบนหน้าจอทีวีกัมพูชา

คัมโบเดียเนสส์ ( cambodianess ) เวบไซต์สื่อกัมพูชา รายงานว่า หลังจากฮุน เซน โพสต์เฟซบุ๊กราว 1 ชั่วโมง กระทรวงข่าวสารกัมพูชาออกแถลงการณ์ แจ้งเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องว่า นับจากเที่ยงคืนวันที่ 12 มิถุนายน 2568 (เข้าสู่วันที่ 13 มิ.ย.) สถานีโทรทัศน์ทุกช่องในกัมพูชา จะต้องหยุดแพร่ภาพออกอากาศภาพยนตร์ไทย ละครไทย ทุกชนิด

คัมโบเดียเนสส์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องแรงงานกัมพูชาในไทย อ้างอิงจากกระทรวงแรงงานและฝึกอาชีพ ว่า ถึงปี 2567 มีชาวกัมพูชาทำงานอยู่ในไทย ประมาณ 1 ล้าน 2 แสนคน ทำให้ไทยเป็นประเทศที่คนกัมพูชาไปทำงานมากที่สุด

ส่วนการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชา ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่ากว่า 1,870 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6 หมื่น 570 ล้านบาท (60,570) เพิ่มขึ้น 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว / กัมพูชาส่งออก 395 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1 หมื่น 2 พัน 800 ล้านบาท) ขณะไทยส่งออก 1,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4 หมื่น 5 พัน 353 ล้านบาท) ในปี 2567 มูลค่าการค้าไทย-กัมพูชา อยู่ที่ 4,280 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 1 แสน 4 หมื่นล้านบาท ) เพิ่มขึ้น 15.5% จากปี 2566 ทำให้ไทย เป็นคู่ค้าอาเซียนรายใหญ่อันดับสองของกัมพูชา และอันดับ 4 ของคู่ค้าทั่วโลก

 

ทางด้านกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ของกัมพูชา ได้ออกประกาศแจ้งให้บรรดาผู้ประกอบการ เจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกสถานีทราบว่า ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป สถานีโทรทัศน์ทุกสถานีในประเทศกัมพูชาจะงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทบนจอโทรทัศน์ของตน

จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ขอให้บรรดาผู้ประกอบการทุกท่านที่เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ในกัมพูชา ร่วมมือกันดำเนินการตามนี้ด้วยความรับผิดชอบสูง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" นำมวลชนรำลึก 15 ทหารกล้าพลีชีพ พร้อมรวมสิ่งของบริจาคส่งชายแดน "เสรีพิศุทธ์" แนะไม้เด็ด วิธียึดปราสาทตาควายให้ได้ 100%
เครือซีพี ส่งมอบถุงกำลังใจ 1,000 ชุด พร้อมระดม "ซีพีอาสา" ลงพื้นที่ฟื้นฟูจังหวัดน่านหลังน้ำลด
"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​