กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนตามเวลาสหรัฐฯ ว่า สำนักงานอัยการมิชิแกนตะวันออก แจ้งข้อหาเอาผิด เจี้ยน อวินฉิง วัย 33 ปี กับ หลิว จุนหยง วัย 34 ปี ข้อหาสมรู้ร่วมคิด ลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมาย ให้การเท็จ และฉ้อโกงวีซ่า จากการที่ทั้งสองซึ่งเป็นคู่รัก ลอบนำเชื้อราฟิวซาเรียม กรา-มิ-นีรุม ( Fusarium graminearum) เข้าสหรัฐฯ
เชื้อราชนิดนี้ เป็นสาเหตุของโรค เฮ้ด ไบลท์ (head blight) ในข้าวสาลี บาร์เลย์ ข้าวโพด และข้าว ที่ก่อความเสียหายแก่พืชเหล่านี้ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี สำนักงานสืบสวนกลาง หรือ FBI ระบุในเอกสารสนับสนุนคำฟ้องว่า สิ่งพิมพ์งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จัด เชื้อราฟิวซาเรียม กรา-มิ-นีรุม เป็นอาวุธที่มีศักยภาพนำมาใช้ก่อการร้ายทางการเกษตรได้ ซึ่งจะก่อความเสียหายอย่างมหาศาล พิษที่สะสมในอาหาร หากรับประทานเข้าไป ทำให้ผู้บริโภคไม่ปลอดภัย เกิดการอาเจียน ตับเสียหาย และกระทบระบบสืบพันธุ์ของคนและสัตว์
เจี้ยน ปรากฏตัวในศาลเมื่อบายวันอังคาร และกลับเข้าเรือนจำระหว่างรอการไต่สวนคำร้องขอประกันตัวในวันนี้ (พฤหัสบดี 5 มิถุนายน)
เอกสารคำให้การ ระบุว่า นายหลิว เป็นนักวิจัยมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เดินทางถึงสนามบินดีทรอยต์ เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567 เขาแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะไปเยี่ยมแฟนสาว จากนั้นจะเดินทางกลับไปทำงานที่ห้องแลบของตัวเองในจีน และอ้างว่าไม่มีอุปกรณ์สำหรับการทำงาน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสัมภาระครั้งที่สอง พบกระดาษกรองที่มีการเขียนวงกลมไว้หลายวง และถุงพลาสติกใส 4 ใบที่มีเศษพืชสีแดงเล็ก ๆ อยู่ข้างใน ตอนแรก หลิวอ้างว่าไม่รู้ว่าของเหล่านี้เข้าไปในอยู่ในกระเป๋าเป้ได้อย่างไร แต่หลังถูกซักหนัก ก็ยอมรับว่าตั้งใจนำตัวอย่างเชื้อราเข้าไปในสหรัฐฯ เพื่อนำไปวิจัยต่อในห้องแลบมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่เจี้ยนทำงานอยู่ และหลิวก็เคยทำงานที่นั่นด้วยกันมาก่อน
หลิวถือวีซ่าท่องเที่ยว และถูกส่งกลับในวันเดียวกัน สหรัฐฯไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจีน หมายความว่า ไม่มีทางที่จะจับกุมหลิวได้เว้นแต่เขากลับไปสหรัฐฯ
ส่วนเจี้ยน แฟนของหลิว เป็นนักวิจัยหลังปริญญาเอกที่ห้องแลบปฏิสัมพันธ์ของพืชและจุลชีพ มหาวิทยาลัยมิชิแกน และเคยทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส เอฟบีไอพบหลักฐานว่า เจี้ยนเคยได้รับทุนวิจัยจากรัฐบาลจีน ให้ทำการวิจัยเชื้อราชนิดนี้ในจีน และในโทรศัพท์ของหลิวที่ยึดไว้ มีบทความชื่อ “สงครามพืช-จุลชีพก่อโรค ภายใต้เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ” จากข้อความที่ทั้งสองส่งถึงกันในปีที่แล้ว ยังบ่งชี้ว่า เจี้ยนรับรู้เรื่องการลักลอบนำตัวอย่างชีวภาพและวัสดุอื่น ๆ เข้าสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม 2567 แต่ให้การเท็จกับพนักงานสอบสวนว่าไม่รู้เรื่อง
กระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ในโทรศัพท์ของเจี้ยน มีข้อมูลชี้ว่าเธอเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน และภักดีต่อพรรคฯ
แม้ว่าสองนักวิจัยจีนถูกกล่าวหาว่าลับลอบนำเชื้อราอันตรายเข้าไปในสหรัฐฯ แต่เชื้อราตัวนี้มีแพร่หลายในสหรัฐฯอยู่แล้ว โดยเฉพาะทางตะวันออกและมิดเวสต์ และนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯก็พยายามศึกษามานานหลายสิบปี นักวิจัยสามารถนำพืช-สัตว์ต่างถิ่น หรือสายพันธุ์เชื้อราเข้าไปทำการศึกษาในสหรัฐฯได้ แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องก่อน ขณะนี้ ยังไม่รู้ว่าเหตุใดนักวิจัยจีนต้องการนำเชื้อราชนิดนี้เข้าไปในสหรัฐฯ โดยไม่ทำเอกสารให้เรียบร้อยก่อน
ข่าวการจับกุมสองนักวิจัยจีนมีขึ้น หลังจากมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะยกเลิกวีซ่านักเรียนต่างชาติที่มีทัศนคติสวนทางกับนโยบายสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นที่นักศึกษาจีนเป็นหลัก ทำให้จีนออกมาประณามว่า เป็นการเลือกปฏิบัติและไร้เหตุผล
แคช พาเทล ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ FBI โพสต์ X อ้างว่า จีนกำลังทำงานแบบไม่หยุดพักเพื่อส่งนักวิจัยและสายลับแทรกซึมสถาบันอเมริกัน และเล็งเป้าห่วงโซ่อาหารของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงตามมา
ด้าน มหาวิทยาลัยมิชิแกน ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำเพื่อก่ออันตราย คุกคามความมั่นคงของชาติ บั่นทอนภารกิจสาธารณะของมหาวิทยาลัย ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีนให้ทำการวิจัยของผู้ถูกกล่าวหา และจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่