“ฮุน มาเนต” เล่นใหญ่ กล่าวหาไทยรุกราน สั่งทีมเจรจา แจ้ง JBC พร้อมนำปม “ตาเมือนธม” ยื่นศาลโลกตัดสิน
นายกฯกัมพูชาสั่ง JBC เตรียมส่งเรื่องปราสาทตาเมือนธม -ตาเมือนโต๊ด-ตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต ฟ้องศาลโลก พร้อมออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของกองทัพไทย ว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยกัมพูชาด้วย
ข่าวที่น่าสนใจ
1 มิ.ย.2568 เมื่อเวลา 21.30 น. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นรูปตัวเองในเครื่องแบบชุดทหาร พร้อมข้อความภาษาเขมรที่ระบุว่า หลังจากกลับจากภารกิจต่างประเทศ วันนี้ตนได้พบกับผู้นำทหารที่ชายแดน เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์จริงที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ซึ่งตามที่ตนได้ระบุไว้แล้วว่า กัมพูชายืนหยัดเพื่อแก้ปัญหาชายแดนอย่างสงบ ผ่านการใช้กลไกและกฎหมายระหว่างประเทศเป็นเป้าหมาย โดยในความหมายนี้ ตนได้สั่งให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ฝ่ายกัมพูชา ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1. เตรียมจัดการประชุม JBC กับฝ่ายไทยทันที เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดน พร้อมดำเนินการรังวัด และปักเสาเขตแดนระหว่างสองประเทศต่อไป
2. เตรียมพร้อมบรรจุวาระการประชุม JBC เพื่อนำเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ (สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
เนื่องจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ในพื้นที่มุมไบ (สามเหลี่ยมมรกต) ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ด้วยเพราะกิจกรรมที่ดำเนินการโดยกลุ่มหัวรุนแรงไม่กี่กลุ่ม ได้ไปปลุกปั่นขบวนการที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับชาตินิยมในทั้งสองประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ ตนจึงหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกัน เพื่อหาข้อยุติข้อพิพาทในพื้นที่อ่อนไหวเหล่านี้ รวมถึงดำเนินการสำรวจ รังวัด และปักเสาเขตแดนในพื้นที่ที่ยังตกลงกันไม่ได้นี้ ด้วยแนวทางที่สันติ ที่อิงตามกฎหมายทางเทคนิค และระหว่างประเทศ
ตนขอย้ำว่า แม้กัมพูชาจะพยายามแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติ ตามกลไกเทคนิคและกฎหมายระหว่างประเทศ แต่กัมพูชายังคงขอสงวนสิทธิที่จะปกป้องดินแดนของตนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้กำลังทหาร ในกรณีที่มีความพยายามรุกรานดินแดนของกัมพูชา โดยใช้กองกำลังทหารมาบังคับ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชา ก็ได้ออกแถลงการณ์เรื่องส่งคณะผู้แทนไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ เพื่อยื่นเอกสารประท้วงและประณามรัฐบาลไทย โดยเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยเหตุการณ์สู้รบติดอาวุธที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 จึงขอแจ้งข่าวให้ฝ่ายไทยทราบดังนี้
1. เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. กองกำลังทหารไทยได้เปิดฉากยิงอย่างผิดกฎหมายในสนามเพลาะ ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเตโชโมโรโกต ตำบลโมโรโกต อำเภอโจมคซาน จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตอย่างไม่มีเหตุอันควร
2. รัฐบาลกัมพูชาขอเน้นย้ำว่า กองกำลังชายแดนกัมพูชาได้ประจำการอยู่ที่บริเวณนี้มาอย่างต่อเนื่องและสันติ มาเป็นเวลานาน แม้กระทั่งก่อนการลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการสำรวจและกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ในปี พ.ศ. 2543
3. รัฐบาลกัมพูชาขอแสดงการประท้วงอย่างแข็งกร้าว ต่อการโจมตีด้วยอาวุธของกองทัพไทย โดยที่ไม่มีการยั่วยุ ซึ่งถือเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา รวมถึงเป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของมิตรภาพและความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ตามที่สะท้อนให้เห็นในบันทึกความเข้าใจปี 2543
4. รัฐบาลกัมพูชาขอเรียกร้องให้มีการสืบสวนเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้โดยทันทีและทั่วถึง และให้นำตัวผู้ที่รับผิดชอบต่อการกระทำอันร้ายแรงและผิดกฎหมายนี้ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
5. อย่างไรก็ดี กัมพูชายังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ ที่จะใช้ความยับยั้งชั่งใจให้อยู่ในระดับสูงสุด และแก้ไขปัญหานี้รวมถึงปัญหาชายแดนทั้งหมด ด้วยวิธีการสันติและทางการทูต โดยใช้กลไกที่มีอยู่ รวมทั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เพื่อสร้างชายแดนแห่งสันติภาพ ความร่วมมือ และมิตรภาพกับประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆจต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ขอใช้โอกาสนี้ เพื่อย้ำคำมั่นต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
