“ภูมิธรรม” โอ่ใช้ปชต.แก้ปัญหาดีกว่ารัฐประหาร เชื่อความคิดผู้นำเหล่าทัพ แต่ไม่มีหลักประกันจะไม่เกิดซ้ำ

"บิ๊กอ้วน" เผยครบรอบ 11 ปี 22 พ.ค. ไม่มีใครกล้ารับประกันรัฐประหารเกิดหรือไม่เกิดขึ้นอีก แต่เชื่อใจผู้นำเหล่าทัพหัวก้าวหน้า เปลี่ยนมุมมอง คำนึงผลกระทบมากขึ้น แนะทุกฝ่ายอดกลั้น ให้ประชาธิปไตยมีพัฒนาการของมันเอง

“ภูมิธรรม” โอ่ใช้ปชต.แก้ปัญหาดีกว่ารัฐประหาร เชื่อความคิดผู้นำเหล่าทัพ แต่ไม่มีหลักประกันจะไม่เกิดซ้ำ – Top News รายงาน

ภูมิธรรม

 

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00น.ที่อาคารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วันนี้ เมื่อ 11 ปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ว่า ทหารคือกลุ่มคนที่มีหน้าที่ในการดูแลประเทศ และเป็นกลุ่มบุคคลที่ห่วงใยประเทศชาติ แต่วิธีการแก้ไขปัญหามันเป็นฉากทัศน์ที่มองอาจจะต่างกัน เช่น เขามองว่าการรัฐประหารที่ผ่านมา เพราะสังคมมีปัญหา ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมันไม่มีทางออก จึงเลือกวิถีทางนี้ แต่ฝ่ายพลเรือนคิดว่า ต้องการให้ประชาธิปไตยมีพัฒนาการของมัน ต้องใช้ความอดทนแล้วค่อยๆให้พัฒนาไป จึงไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร อย่างไรก็ตามตนคิดว่าทุกฝ่ายไม่ว่าจะเลือกทางออกอย่างไร ก็ควรจะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง และยอมรับในหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของคนหมู่มาก จึงมีความยุ่งยากอยู่แล้ว แต่เราต้องอดทน ระบบประชาธิปไตยจึงจะพัฒนาไปสู่หนทางที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นการรัฐประหารครั้งที่ผ่านมาควรจะเป็นบทเรียนของทุกฝ่ายร่วมกันว่า ระบบประชาธิปไตยของสังคม มันมีกฎเกณฑ์กติกา ให้มันค่อยๆแก้ปัญหาไปด้วยตัวของมันเอง ต้องช่วยกัน ใช้ความอดทนอดกลั้น และช่วยกันสร้างความรับรู้สิ่งนี้ให้เกิดขึ้นกับสังคม ตนคิดว่าประชาธิปไตยเป็นวิถีชีวิต ถ้าเราใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ และให้มันไปตามกระบวนการ มันก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นกระบวนการแก้ปัญหาด้วยการรัฐประหารก็จะไม่เกิด

เมื่อถามว่าหลายคนวิเคราะห์ว่าการรัฐประหารปี 57 จะเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อมาใกล้ชิดกับทหาร มองอย่างไร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่มีใครกล้ารับรองว่ามันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่หรือจะไม่เกิดขึ้น แต่ว่าผู้นำเหล่าทัพที่ตนมาทำงานด้วย ตนคิดว่า มุมมองของเขา มีความก้าวหน้าและทันสมัย เขาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ซึ่งเป็นความท้าทายที่มันกระทบอยู่ ฉะนั้นการตัดสินใจแต่ละครั้งในการแก้ปัญหา มันต้องมองผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย ตนจึงคิดว่าไม่เกิดขึ้นง่าย แต่ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิด ซึ่งถ้าไม่อยากให้เกิด เราทุกคนก็ต้องใช้กระบวนการที่มีอยู่แก้ไขปัญหาให้มากขึ้น ส่วนการแสดงออก หรือการเดินขบวนก็ใช้ได้ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ระบบประชาธิปไตยยอมรับในความเห็นที่แตกต่างอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะทำให้สังคมเห็นพ้องกันทั้งหมดอย่างเป็นเอกฉันท์ แต่เราใช้เสียงส่วนใหญ่เป็นกระบวนการในการตัดสิน ถึงแม้เสียงส่วนใหญ่จะมีความผิดพลาดบกพร่อง แต่ระบอบประชาธิปไตยก็มีระบบตรวจสอบที่ดีอยู่แล้ว ดังนั้นเชื่อว่าการที่จะเกิดแบบอดีตคงไม่เกิดแบบนั้นแล้ว แต่มันจะเป็นในรูปแบบไหน ก็ต้องไปช่วยกันดู และแก้ไขปัญหา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'น้ำตกมหัศจรรย์' ฝีมือมนุษย์ ทิ้งมวลน้ำหายลับตาในเจียงซี
มทภ.2 พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล อุปทูตสหรัฐฯ ปราบปรามยาเสพติด 2 ประเทศพร้อมร่วมมือทุกมิติ
พร้อมแล้ว เลือกตั้งกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย ชุดใหม่ เน้น “เป็นกลาง โปร่งใส วิชาชีพการแพทย์แผนไทยยั่งยืน”
กองทัพเรือ เปิดฉาก ฝึกผสม CARAT 2025 7-18 ก.ค.นี้ รองผบ.กองเรือฯหญิง นำทีมทหารสหรัฐฯ พร้อมเรือรบ-อากาศ และนย.ร่วมฝึกทร.ไทย
"สภากรรมการ" มีมติแต่งตั้ง "กฤษฎา จีนะวิจารณะ-พล.ต.อ.วินัย ทองสอง" เป็นกรรมการกลาง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
โปรเดือด 7.7.. เอกนัฏ ส่ง “มอก.วอทช์” AI สแกนสินค้าไม่ได้มาตรฐาน จ่อฟันแพลตฟอร์มออนไลน์ 777 คดี
ไต้ฝุ่นดานัสถล่มไต้หวันอ่วม
"เนวิน" ฟ้องหมิ่นมือโพสต์ใส่ร้าย สมคบ "ฮุน เซน" ล้มกาสิโนเพื่อไทย-เอี่ยวคอลเซ็นเตอร์ ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด
"ตร.ไซเบอร์" เชิญสีกากอล์ฟ คนสนิท "ทิดอาชว์" ให้ข้อมูล หลังเปิดปากติดพนัน พบเคยเล่นได้มากกว่า 10 ล้านบาท
2 วัยรุ่น ดักตบสาวท้องวัย 7 เดือน เหตุไม่พอใจ ที่บีบแตร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น