“อ.คมสัน” กางข้อกม.มัดรวมผิด “ทักษิณ” เชื่อหนีแน่ไม่เสี่ยงโดนขังคุก

"อ.คมสัน" กางข้อกม.มัดรวมผิด "ทักษิณ" เชื่อหนีแน่ไม่เสี่ยงโดนขังคุก

“อ.คมสัน” กางข้อกม.มัดรวมผิด “ทักษิณ” เชื่อหนีแน่ไม่เสี่ยงโดนขังคุก

 

20 พฤษภาคม 2568 นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านนิติศาสตร์โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า หนีแน่ ๆ ตอนนี้มีแต่ข่าวลือและมีการพนันขันต่อกันว่า ถ้าศาลฎีกาพิจารณาเอกสารของทักษิณและหน่วยงานต่าง ๆ แล้วมีคำสั่งว่าที่ผ่านมาทักษิณยังไม่เคยรับโทษจำคุกตามหมายบังคับโทษของศาล ทักษิณจะหนีหรือเปล่า พรรคพวกส่วนใหญ่ต่อให้หนี ไม่มีใครรองว่าอยู่ ผมไม่พนันต่อรองกับใคร แต่รอมั่วรับไปทานเลี้ยงของคนชนะ โดยส่วนตัวของผมด้วยเหตุแห่งมนุษยธรรม(อ้างไปงั้นแหล่ะ)ผมวิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทักษิณคงหนีแน่ๆ เพราะถ้าอยู่ติดคุกน่าจะอยู่จนตายไม่ได้ออก เนื่องจากทักษิณต้องกลับไปจำคุกในเบื้องต้นเสียก่อนเป็นเวลา 1 ปีตามประกาศพระบรมราชโองการให้ลดโทษ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ที่ให้ลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี แต่ผลพวงที่ตามมานี่สิ มันน่ากลัวมาก มีอะไรบ้างมาดูกัน

 

1. ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 วรรคท้าย ระบุว่า “ในกรณีที่ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำตามวรรคสอง มิให้ถือว่าผู้ต้องขังนั้นพ้นจากการคุมขัง และถ้าผู้ต้องขังไปเสียจากสถานที่ที่รับผู้ต้องขังไว้รักษาตัว ให้ถือว่ามีความผิดฐานหลบหนีที่คุมขังตามประมวลกฎหมายอาญา” หากศาลระบุว่า ทักษิณไม่ได้รับโทษจำคุกเลย คดีที่ตามต่อมาก็คือ คดีนักโทษหนีจากที่คุมขัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190 ที่บัญญัติไว้ว่า

 

“มาตรา 190 ผู้ใดหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรกได้กระทำโดยแหกที่คุมขัง โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าความผิดตามมาตรานี้ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ในสองวรรคก่อนกึ่งหนึ่ง

นอกจากทักษิณจะต้องติดคุกตามประกาศพระบรมราชโองการให้ลดโทษ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566เป็นเวลา 1 ปีแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีต่อตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190 ประกอบกับพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ฯ มาตรา 55 วรรคท้าย ซึ่งหากศาลว่าผิดจริง(คุณเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กับสุรเชษฐ์ หักพาลน่าจะเป็นพยานปากสำคัญ) คงต้องโทษจำคุกเพิ่มอีกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งโดยพฤติกรรมถ้าศาลเห็นว่าร้ายแรงต่อกระบวนการยุติธรรม(ผมเห็นว่าร้ายแรงเพราะทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณที่มีอิทธิพลทางความคิดเหนือรัฐบาล) ศาลอาจลงเต็มถึง 5 ปีเลยก็ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

2. ทักษิณอาจต้องร่วมกันรับผิดในฐานเป็นผู้ใช้หรือเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวทักษิณไปนอกเรือนจำ รวมทั้งแพทย์ในโรงพยาบาลตำรวจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องอาจถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 184 มาตรา 203 และมาตรา 204 ซึ่งอาจต้องรับโทษต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่งต้องรับโทษรายกระทง และอาจต้องรับโทษตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และอาจต้องรับโทษฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนในความผิดที่ทักษิณจะต้องได้รับตาม 1 ด้วย ส่วนทักษิณที่ต้องรับผิดฐานเป็นในฐานเป็นผู้ใช้หรือเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ซึ่งต้องรับโทษเพิ่มเติมจาก 1. เท่าบุคคลเหล่านั้นหรือย่างน้อยสองในสามของโทษที่บุคคลเหล่านั้นได้รับ

3. การขอรับพระราชทานอภัยโทษตามประกาศพระบรมราชโองการให้ลดโทษ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 มีข้อความระบุว่าทักษิณได้รับโทษมาแล้ว 10 วัน และนายทักฺษิณได้สำนึกผิดในความผิดที่ตนกระทำ ซึ่งเป็นการบังคมทูลด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ถึงแม้จะไม่มีโทษของการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการในกฎหมายใดๆ ก็ตาม แต่โดยส่วนตัวผมเห็นว่า ผู้กระทำการจนเป็นเหตุให้มีการทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ทำการที่เป็นการแสดงออกในลักษณธหลอกลวงไม่แสดงความเคารพต่อพระราชสถานะของพระมหากษัตริย์ที่ทรงอยู่เหนือการเมือง ทำการหลอกลวงอันเป็นเท็จเพื่อให้ทรงมีพระบรมราชโองการอภัยโทษ ซึ่งเป็นการกระทำที่เข้าลักษณะการดูหมิ่นไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต้องระวางโทษตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ทักษิณซึ่งมีส่วนร่วมอาจต้องถูกดำเนินคดีในความผิดดังกล่าวด้วยในฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวด้วย

4. ทักษิณยังมีคดีค้างอยู่ในศาลอาญา คดีการกระทำความผิดที่กล่าวดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ที่กล่าวกับช่องโทรทัศน์ของเกาหลี อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต้องระวางโทษตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ซึ่งโดยสถานะของทักษิณที่ผ่านมาและการต่อสู้คดีที่แสดงว่าไม่สำนึกผิดในการกระทำ อาจถูกลงโทษเต็มระวางความผิดก็ได้
เมื่อรวมๆความผิดและระวางโทษที่จะได้รับในคดีต่างๆ ที่วิเคราะห์มาแล้ว เผลอๆอาจต้องติดคุกเพิ่มขั้นต่ำประมาณ 6-8 ปี หรือขั้นสูงถึง 40-48 ปี ตอนนี้ทักฺษิณอายุ 75 ปีแล้ว ถ้ารับโทษเต็ม ๆ ตามการวิเคราะห์ จะออกจากเรือนจำอย่างเร็วสุดตอนอายุ 83 ปี อย่างช้าสุด 113 ปี

แค่นี้ยังไม่รวมถึงที่มีผู้อื่นต้องรับผิดอีกนะ เช่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือนายกรัฐมนตรี ที่เข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้มีความผิดฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนนะ เมื่อวิเคราะห์แบบนี้ผมเลยไม่พนันกับใคร เพราะถ้าพนันกันผมได้กินแน่ๆ เพราะทักษิณคงไม่อยู่ติดคุกแน่ ตามที่จตุพร พรหมพันธ์ กล่าวไว้กันว่าทักษิณจะไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
หนีแน่เลยครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดร.สามารถ" ย้ำภัยดิจิทัลรุนแรง เตือนระวังตกเป็นเหยื่อสแกมเมอร์ แนะรัฐตั้งศูนย์บัญชาการ NASC จัดการจบในจุดเดียว
"บิ๊กเล็ก" แจงปล่อยเชลยศึก 12 พ.ย. เป็นแค่คาดการณ์ ต้องยึดหลักเขมร ทำตามเงื่อนไขครบหรือไม่ ยันไม่มีเปิดด่านจนกว่าเรื่องจบทุกอย่าง
"กรมชลฯ" เตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง หลังเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที
“พล.ท.นันทเดช” แนะทำ 3 ข้อ ก่อนถึงวันปล่อยตัว "18 เชลยศึก" เตือนเขมรไว้ใจได้ยาก ต้องคิดทำรอบคอบ ไม่ให้ไทยเสียเปรียบ
ชายวัย 56 คลุ้มคลั่ง ขับรถพุ่งชนกำแพงบ้าน อ.บ้านหลวง – ไร้เจ็บ
สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนภูมิพล เตรียมตั้งรับพายุ “คัลแมกี”

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​