เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงกล่าวสุนทรพจน์และตอบคำถามในงานสัมมนาที่จัดโดยวุฒิสภาของไทย

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ "ภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลก และบทบาทของจีน: โอกาสและความท้าทายสำหรับประเทศไทย" ซึ่งจัดโดยวุฒิสภาไทย ท่านได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยเป็นต้นพร้อมได้ตอบคำถามจากสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีข้อความดังนี้:

สวัสดีทุกท่านครับ ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมสัมมนาในวันนี้ ทุกท่านให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์ระหว่างประเทศและการพัฒนาของประเทศไทย และความสัมพันธ์จีน-ไทยมาโดยตลอด ผมยินดีที่จะแบ่งปันทัศนะมุมมองของผมกับท่านทั้งหลายและหวังว่าจะได้รับรู้ความคิดเห็นเชิงลึกเพิ่มเติมจากท่านด้วย หากท่านถามว่าปัญหาอะไรที่น่ากังวลที่สุดในโลกขณะนี้ ปัญหาที่กำลังทำให้เกิดความไม่สงบไปทั่วโลก ผมคิดว่าผู้คนร้อยละร้อยจะให้คำตอบเดียวกัน นั่นก็คือ การใช้มาตรการภาษีศุลกากรในทางที่ผิดของรัฐบาลทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา สิ่งที่ทุกคนอยากฟังอยากรู้จากผมมากที่สุดคือจีนคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้? นี่เป็นโอกาสที่ดีที่ผมอยากจะพูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับท่านทั้งหลายในประเด็นนี้พอดี
สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองเป็นเป้าหมายร่วมกันที่มนุษยชาติที่แสวงหามาตลอดประวัติศาสตร์อารยธรรมหลายพันปี ปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้ว่าสงครามและความขัดแย้งจะไม่เคยหายไปจากโลกใบนี้ในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา แต่มนุษยชาติก็ไม่ได้ประสบกับสงครามโลกอีกเลย ในแง่นี้เราทุกคนโชคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตสิ้นสุดลงในทศวรรษ 1990 กระบวนการก่อตั้งตลาดโลกแบบรวมเป็นหนึ่งเดียวกันก็เร่งตัวขึ้น และปัจจัยการผลิตก็ไหลเวียนไปทั่วโลกอย่างอิสระ ก่อให้เกิดคลื่นโลกาภิวัตน์และส่งเสริมให้เศรษฐกิจโลกพัฒนาอย่างรวดเร็ว และ 30 ปีที่ผ่านมานี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นช่วงเวลาทองของการพัฒนาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
การพัฒนาเศรษฐกิจมีกฎของมันเอง กล่าวคือ ความไม่สมดุลของการพัฒนา ประการแรกคือความไม่สมดุลระหว่างประเทศ แม้ว่าการพัฒนาโดยรวมจะดี แต่ก็ยังมีบางประเทศที่พัฒนาเร็วกว่าและบางประเทศที่พัฒนาช้ากว่าอยู่เสมอ ประเทศที่พัฒนาแล้วได้รับผลประโยชน์จากโลกาภิวัตน์มากขึ้นโดยอาศัยเงินทุนและข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยี และประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศซึ่งเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาที่ดีขึ้นเช่นกันโดยมีส่วนร่วมเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ยังมีประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศที่ได้รับประโยชน์จากโลกาภิวัตน์เพียงเล็กน้อย และบางประเทศยังเสี่ยงต่อการเป็นประเทศชายขอบอีกด้วย ประการที่สองคือความไม่สมดุลระหว่างกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศ ลองยกตัวอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในคลื่นโลกาภิวัตน์ ทุนทางการเงินของอเมริกาและอุตสาหกรรมข้อมูลสมัยใหม่สร้างมูลค่ามหาศาล แต่ภาคการผลิตแบบดั้งเดิมจำนวนมากกลับหดตัวอย่างรุนแรงเนื่องจากเงินทุนไหลออก ส่งผลให้เกิดเขตอุตสาหกรรมถดถอยที่เรียกกว่า “เขตขึ้นสนิม”และความยากจนของชนชั้นแรงงานจำนวนมาก และความมั่งคั่งทางสังคมก็กระจุกตัวอยู่ในมือของคนเพียงไม่กี่คนเป็นอย่างมาก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการทบทวนความคิดในระดับโลกเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์ โดยทั่วไป ผู้คนคาดหวังที่จะแก้ไขทิศทางของโลกาภิวัตน์และช่วยให้สามารถพัฒนาต่อไปในลักษณะที่มีเสถียรภาพและมั่นคงตามหลักการของการเปิดกว้าง ความครอบคลุม และผลประโยชน์ร่วม อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกา ซึ่งสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุนมาโดยตลอด ได้เปลี่ยนแปลงไป 180 องศา “Make America Great Again (MAGA)” คือสโลแกนหาเสียงของนายทรัมป์ ซึ่งสะท้อนความรู้สึกชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก คำกล่าวนี้ดูเหมือนจะดี เนื่องจากทุกประเทศมีสิทธิที่จะยิ่งใหญ่ แต่ปัญหามีอยู่ที่ประเทศเหล่านั้นกำลังพยายามบรรลุความยิ่งใหญ่ของตนเองโดยทำร้ายผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เมื่อเกิดปัญหาในการพัฒนาประเทศ เรามักจะมองหาปัญหาของตนเองก่อน จากนั้นพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกให้ดีขึ้น การพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศจีนเกิดขึ้นได้จากการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง
แต่เราพบว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้เป็นแบบนี้อย่างที่เราเข้าใจกัน แทนที่จะแก้ไขปัญหาของตัวเอง สหรัฐฯ กลับกล่าวโทษทั้งโลก โดยอ้างว่าโลกเอาเปรียบสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ปล้นเทคโนโลยีและทุนของสหรัฐฯ ไป รวมทั้งงานของประชาชนชาวอเมริกันไปด้วย ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้โดยสิ้นเชิงและได้เปิดสงครามภาษีกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก สาระสำคัญของการละเมิดระบบภาษีนี้คืออะไร? มันคือการเก็บภาษีอย่างหนักกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกผ่านทางภาษีศุลกากร และใช้ภาษีศุลกากรเป็นอาวุธในการแบล็กเมล์ประเทศต่างๆ ทั่วโลก นักวิจารณ์ระหว่างประเทศบางรายชี้ให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาเองก็ป่วย แต่กลับให้ประเทศอื่นรับประทานยาด้วย ผมขอพูดว่านี่เป็นรูปแบบการครอบงำทางเศรษฐกิจและการกลั่นแกล้งที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง
การแบ่งงานกันทำระหว่างประเทศและการค้าเสรีเป็นรากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจโลก การค้าระหว่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับทรัพยากรธรรมชาติและข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของแต่ละประเทศ และความสมัครใจและผลประโยชน์ร่วมกันถือเป็นคุณลักษณะพื้นฐาน หากการเกินดุลการค้าสินค้าของต่างประเทศกับสหรัฐฯ เป็นการเอาเปรียบสหรัฐฯ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในด้านการค้าบริการ สหรัฐฯ จะมีดุลการค้ากับพันธมิตรการค้าโลกมูลค่า 295,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ถือเป็นการทำลายหุ้นส่วนการค้าโลกหรือไม่ หุ้นส่วนการค้าโลกควรลงโทษสหรัฐฯ หรือไม่? สิ่งที่เรียกกันว่า “ภาษีศุลกากรตอบโต้” ของสหรัฐฯ นั้นขัดกับหลักตรรกะทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
สหรัฐอเมริกาคือผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบการค้าเสรีโลก ผู้บริโภคชาวอเมริกันพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพสูงและราคาถูกจากทั่วโลก บริษัทข้ามชาติของอเมริกาถ่ายโอนกำลังการผลิตระดับล่างไปยังประเทศกำลังพัฒนาเพื่อสร้างกำไรสูง สหรัฐอเมริกาเน้นความพยายามในด้านการเงิน เทคโนโลยีขั้นสูง และด้านอื่นๆ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการผูกขาด นาย Ngozi Okonjo-Iweala ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) เคยเขียนบทวิจารณ์ต่อสาธารณะว่า ”สหรัฐอเมริกาคือผู้ชนะรายใหญ่ในด้านการค้า” สหรัฐอเมริกาเพิกเฉยต่อตรรกะและข้อเท็จจริงพื้นฐานเหล่านี้ และก่อสงครามภาษี ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้อื่นแต่ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง
การที่สหรัฐฯ ก่อสงครามภาษีศุลกากรได้คุกคามระบบการค้าเสรีของโลกอย่างร้ายแรง ทำลายความสงบเรียบร้อยทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่ออำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ซึ่งถูกต่อต้านอย่างหนักและถูกประณามอย่างรุนแรงจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงต่อสาธารณะว่านโยบาย ”ภาษีศุลกากรตอบโต้” ของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของผู้บริโภคทั่วโลก นายกรัฐมนตรีคาร์นีย์ของแคนาดาเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น “โศกนาฏกรรมของการค้าโลก” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ เรียกร้องให้ประเทศอาเซียนอย่าประมาทเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง แห่งสิงคโปร์ เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ จะผลักดันให้โลกเข้าสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการใช้อำนาจตามอำเภอใจ กีดกันทางการค้า และอันตรายมากขึ้น จีนเป็นเป้าหมายหลักของสงครามภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ โดยอัตราภาษีสูงถึงระดับที่น่าตกใจถึง 145% เมื่อเผชิญกับการจัดการแบบไร้ยางอายและการกลั่นแกล้งของสหรัฐฯ จีนตระหนักได้ว่าการประนีประนอมและการยอมจำนนจะไม่ทำให้เกิดการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน แต่จะทำให้ผู้รังแกก้าวร้าวมากขึ้นแทน จีนได้ใช้มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งต่อการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลของสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นการปกป้องระบบการค้าเสรีของโลกและรักษาความยุติธรรมให้กับมวลมนุษยชาติด้วย
เป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนว่าเขาจะเรียกเก็บ ”ภาษีศุลกากรตอบโต้” อันไร้สาระจากทั่วโลก สหรัฐอเมริกายังคงติดอยู่กับปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ขณะที่ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากกลุ่มเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงสหภาพยุโรป แคนาดา และญี่ปุ่น แถมมีการร้องเรียนเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา ในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ติดลบ 0.4% และการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกัน 70% เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย นักเศรษฐศาสตร์กว่า 1,200 คนร่วมกันออก ”ปฏิญาณต่อต้านภาษีศุลกากร” ผู้ว่าการรัฐ 13 รัฐฟ้องร้องทรัมป์ต่อศาล โดยอ้างว่านโยบายภาษีศุลกากรของเขานั้นผิดกฎหมาย และคะแนนความนิยมของรัฐบาลทรัมป์ก็ลดลงเหลือ 36% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ มีคำพูดโบราณของจีนกล่าวไว้ว่า “ยกหินขึ้นมาขว้างทับเท้าตัวเอง” การกำหนดภาษีศุลกากรในทางที่ผิดกำลังส่งผลเสียร้ายแรงต่อประเทศสหรัฐอเมริกาเอง
ระหว่างวันที่ 10 ถึง 11 พฤษภาคม ตัวแทนของจีนและสหรัฐฯ ได้จัดการเจรจาด้านเศรษฐกิจและการค้าที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้บรรลุฉันทามติที่สำคัญ และออก ”แถลงการณ์ร่วม” ฉันทามติที่สำคัญที่สุดที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุได้คือ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม เป็นต้นไป สหรัฐฯ จะยกเลิกการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสามรอบที่เรียกเก็บจากจีนตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนปีนี้ โดยคงอัตราภาษีไว้ 10% และระงับการเรียกเก็บอัตราภาษีอีก 24% เป็นเวลา 90 วัน จีนจะปรับภาษีตอบโต้ต่อสหรัฐฯ เช่นกัน และทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งกลไกในการดำเนินการเจรจาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าต่อไป ถือเป็นความก้าวหน้าเชิงบวกที่เกิดขึ้นจากการปรึกษาหารือบนพื้นฐานของความเท่าเทียม ความร่วมมือ และความเคารพซึ่งกันและกัน และเป็นผลจากการต่อสู้ การกระทำครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของโลกด้วย เราหวังว่าสหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับจีนต่อไป แก้ไขปัญหาการขึ้นภาษีศุลกากรฝ่ายเดียวตามใจชอบ รักษาการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯให้แข็งแกร่งและร่วมกันสร้างความแน่นอนและเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ในช่วงเริ่มต้นของสงครามการค้ารอบนี้ จีนประกาศชัดเจนว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า หากสหรัฐฯต้องการพูดคุย ประตูของจีนเปิดอยู่เสมอ หากสหรัฐฯต้องการต่อสู้ เราพร้อมจะสู้จนถึงที่สุด เราจะทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ ในโลกต่อไปเพื่อรักษาความยุติธรรมและความเป็นธรรมในระดับโลก ปกป้องระบบการค้าเสรีของโลกและระเบียบเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ต่อต้านลัทธิฝ่ายเดียวและอนุรักษ์นิยม และต่อต้านการใช้อำนาจบาตรใหญ่และการกลั่นแกล้งในทุกรูปแบบ
ในช่วง 3 ปีกว่าที่ผมทำงานในประเทศไทย ผมรู้สึกด้วยตัวเองว่าประเทศจีนและประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมโยงกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นญาติที่ดีที่มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือด และเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่มีชะตากรรมร่วมกัน เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมไปถึงความเสี่ยงและความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ จีนและไทยควรสืบสานประเพณีอันดีของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อกัน และตอบสนองต่อความท้าทายร่วมกัน ประเทศจีนยึดมั่นในการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและเปิดกว้าง และยินดีที่จะแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย จีนไม่เพียงแต่เป็นประเทศผู้ผลิตหลักเท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดหลักด้วย โดยมีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่เกือบ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีโอกาสการลงทุนและความร่วมมือทางการค้าระหว่างจีนและไทยมากมาย และมีแนวโน้มที่กว้างขวาง ปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยได้เดินทางไปเยือนประเทศจีนและได้บรรลุฉันทามติที่สำคัญกับผู้นำจีนเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนระดับสูงระหว่างจีนและไทยที่สำคัญยิ่งขึ้น จะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของความสัมพันธ์ฉันท์มิตรอันดีระหว่างจีนและไทย บนพื้นฐานการเยือนประเทศไทยอย่างประสบความสำเร็จของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในปี 2022 และทั้งสองฝ่ายได้กำหนดเป้าหมายของการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับไทยเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์มากขึ้น และเพื่อเติมพลังบวกให้กับสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลกและภูมิภาค ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและความวุ่นวาย
ถาม: การเจรจาด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเมื่อเร็วๆ นี้ประสบความคืบหน้าไปในทางบวก ประเทศไทยสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้างจากเรื่องนี้ในการรับมือกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ?
ตอบ: จีนและสหรัฐฯ บรรลุฉันทามติที่สำคัญในการเจรจาด้านเศรษฐกิจและการค้า ต่อไปนี้ทั้งสองฝ่ายจะยังคงแก้ไขความขัดแย้งระหว่างกันโดยการปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียมกัน ผมขอเสนอให้เพื่อนๆ ชาวไทยให้ความสำคัญสามประเด็นต่อไปนี้ ประการแรก เมื่อเผชิญหน้ากับการกลั่นแกล้งเรื่องภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จีนยืนหยัดอยู่แถวหน้าอย่างกล้าหาญและตอบโต้การกระทำของสหรัฐฯ อย่างเด็ดขาด ประการที่สอง สหรัฐฯ ได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติและแนวทางปฏิบัติ ประการที่สาม ภาษีศุลกากรบางส่วนที่สหรัฐฯ กำหนดกับจีนหลังวันที่ 2 เมษายน ยังคงอยู่ เมื่อรวมกับภาษีศุลกากรที่บังคับใช้ก่อนหน้านี้ ภาระภาษียังคงเป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก โดยสรุป นโยบายภาษีศุลกากรที่สูงของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการโจมตีจากทุกด้านและไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ประเทศต่างๆ ทั่วโลกควรเสริมสร้างความเชื่อมั่นและต่อต้านอย่างเด็ดขาด ในที่สุดความยุติธรรมต้องชนะ
ถาม: เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะกดดันประเทศอื่นๆ ในการเจรจาภาษีศุลกากรและขอให้จำกัดการค้ากับจีนนั้น จีนระบุว่าจีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อฝ่ายใดๆ ที่บรรลุข้อตกลงโดยเสียสละผลประโยชน์ของจีน หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จีนจะมีมาตรการรับมืออย่างไร?
ตอบ: จีนเชื่อว่าแต่ละประเทศมีเงื่อนไขของชาติที่แตกต่างกัน เมื่อเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงในปัจจุบัน เราต้องรักษาจุดยืนร่วมกันและมีผลประโยชน์ร่วมกันที่ต้องปกป้อง ในขณะเดียวกัน เรายังเข้าใจว่าประเทศต่างๆ ก็ได้ดำเนินมาตรการตอบสนองผลประโยชน์ของตนเองโดยพิจารณาจากเงื่อนไขที่แท้จริงของตนเองด้วย เนื่องจากเป็นประเทศหลัก จีนจึงมีความรับผิดชอบในการรักษาการพัฒนาเศรษฐกิจโลกให้แข็งแรงและมั่นคง พูดตรงๆ ก็คือ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช่มาตรการ ”ภาษีศุลกากรตอบโต้” รัฐบาลสหรัฐฯยังได้กำหนดช่วงเวลาพิจารณา 90 วันด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งมาจาก มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาดของจีน ผู้นำจีนเคยบอกผู้นำไทยว่าจีนยินดีที่จะเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้และไว้ใจได้ของไทยอยู่เสมอ เราพูดอย่างนี้และเราทำอย่างนี้ นี่คือสิ่งที่จีนทำระหว่างวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียเมื่อปี 1997 และจะทำแบบเดียวกันเพื่อตอบสนองต่อนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในปี 2025 จีนยืนหยัดอย่างกล้าหาญอยู่แนวหน้าในการต่อต้านการกลั่นแกล้งทางภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ไม่เพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์ของส่วนอื่น ๆ ของโลกด้วย เรายังเชื่อว่าเพื่อนของเราจะไม่แทงเราจากด้านหลัง เราเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่และภูมิปัญญาเพียงพอที่จะรับมือกับปัญหาซับซ้อนที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม
ถาม: โปรดแนะนำผลเชิงบวกที่เกิดจากความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนและไทยซึ่งนำมาสู่ประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ไหมครับ?
ตอบ: ความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างจีนและไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและรักษาโมเมนตัมการพัฒนาที่ดีไว้ได้ ทั้งนี้เกิดจากนโยบายที่มีประสิทธิผลของทั้งสองรัฐบาล และไม่อาจแยกจากการมีส่วนร่วมเชิงบวกของสังคมทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจ ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศนั้นมีหลายมิติ และผลลัพธ์ของความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ประเทศไทยเป็นประเทศอาเซียนประเทศแรกที่นำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งได้ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทยมีความก้าวหน้าในเชิงบวกในด้านต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ บริษัทจีน เช่น Huawei ได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและมีส่วนสนับสนุนอย่างสำคัญในเรื่องนี้ ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสีเขียว ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจีนได้มาลงทุนและเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในประเทศไทยแล้วและกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือที่ดีกับซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน บริษัทผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของจีนกำลังลงทุนอย่างแข็งขันในประเทศไทยเพื่อช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของไทย นอกจากนี้ จีนยังมีความก้าวหน้าเชิงบวกในสาขาปฏิกิริยาฟิวชันนิวเคลียร์แบบควบคุมอีกด้วย ตามคำร้องขอของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จีนได้มอบอุปกรณ์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ฟิวชันนิวเคลียร์แบบควบคุม ”โทคาแมก” ให้แก่ไทย ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เป็นเจ้าของอุปกรณ์วิจัยทางวิทยาศาสตร์นี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ นางสาวแพทองธาน ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย เยือนจีนอย่างเป็นทางการ และทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือหลายฉบับครอบคลุมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาสีเขียว และสาขาอื่นๆ ในปี 2024 ประเทศจีนได้มีกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนใหม่ที่เป็นครึ่งหนึ่งของโลก และครึ่งหนึ่งของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมใหม่ของโลกได้อยู่ที่ประเทศจีน ความร่วมมือระหว่างจีนและไทยในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นอนาคตยังมีโอกาสอีกมาก ความร่วมมือครั้งนี้ซึ่งเป็นกำลังหลักความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนและไทย จะส่งเสริมการพัฒนาของไทยได้อย่างมีประสิทธิผลและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก ในช่วงอันใกล้นี้ มีรายงานเชิงลบเกี่ยวกับทุนและสินค้าจีนเป็นจำนวนไม่น้อย ผมเชื่อว่าสำหรับปัญหาที่มีอยู่ การกำกับดูแลควรได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ในขณะเดียวกันเราควรตระหนักว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่กระแสหลักของความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ความร่วมมือระหว่างจีนและไทยมีความเข้มแข็งและเกิดประโยชน์ร่วมกัน เราควรเสริมสร้างความเชื่อมั่นของเรา ขยายความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง และรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศอย่างมีสติ
ถาม: หากการเจรจาด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เจนีวาไม่สามารถบรรลุฉันทามติตามที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จีนจะทำอย่างไร
ตอบ: ท่านได้ตั้งคำถามเชิงสมมติฐานแต่ก็เป็นคำถามเชิงปฏิบัติเช่นกัน จีนเชื่อเสมอมาว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามภาษีและสงครามการค้า หากสหรัฐฯ ริเริ่มสงครามการค้า ประเทศต่างๆ ทั้งหมดจะได้รับผลกระทบ รวมถึงสหรัฐฯ เองด้วย ในความเป็นจริงความเจ็บปวดที่ต้องทนทุกข์ของสหรัฐฯ อาจยิ่งใหญ่มากขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไป เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าสงครามการค้าที่ริเริ่มโดยสหรัฐฯ จะอยู่ไม่ได้นาน ดังนั้น หากสามารถบรรลุ “การลงจอดอย่างนุ่มนวล” หรือ ( soft-landing ) ผ่านการเจรจาได้ ก็จะถือเป็นผลลัพธ์ที่ดี หากไม่สามารถ “ลงจอดอย่างนุ่มนวล” ได้ ก็คงไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร เราจะต้องทนทุกข์ทรมานกับช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ผลกระทบตอบโต้จากสงครามการค้าที่ริเริ่มโดยสหรัฐฯ จะสร้างอันตรายให้กับสหรัฐฯ มากขึ้น  ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีและเชื่อว่าโลกยังคงหมุนไปข้างหน้าเสมอ และสิ่งผิดพลาดใดๆก็ตามจะไม่คงอยู่ยาวนาน แน่นอนว่าเราต้องสามัคคีกันมากขึ้น ช่วยเหลือกันและกัน และเอาชนะความยากลำบากไปด้วยกัน ประเทศจีนกำลังดำเนินการขยายตลาดเปิดกว้างไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งประเทศไทย และให้ความสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับสินค้าจากประเทศต่างๆ เพื่อเข้าสู่ตลาดจีน นี้เป็นการดำเนินการโดยคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ในไตรมาสแรกของปีนี้ ปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างจีนและไทยอยู่ที่ 37,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการส่งออกของจีนไปไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ตัวเลขนี้มีความหมายมากและสามารถอธิบายปัญหาต่างๆ ได้มากมาย
ถาม: ประเทศสมาชิกอาเซียนยังได้รับผลกระทบเชิงลบต่อกันเนื่องจากการใช้นโยบายรับมือกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?
ตอบ: ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มักถูกเรียกเก็บ ”ภาษีศุลกากรตอบโต้” ในอัตราสูงจากสหรัฐอเมริกา และแต่ละประเทศก็มีสถานการณ์ของตนเอง ในขณะที่ประเทศต่างๆ กำลังนำมาตรการตอบโต้ต่อนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ตามสถานการณ์ของตนเอง ประเทศต่างๆ ควรเสริมสร้างการสื่อสารและการประสานงานระหว่างกัน เราได้ทราบแล้วว่าก่อนหน้านี้อาเซียนเคยจัดการประชุมฉุกเฉินของรัฐมนตรีเศรษฐกิจและได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันแล้ว ในอนาคตอาเซียนยังอาจมีการประชุมระดับรัฐมนตรีหรือระดับผู้นำอีกด้วย เราเชื่อว่าอาเซียนจะเสริมสร้างการสื่อสารและการประสานงานภายในอีก ผมเชื่อว่าในช่วงเวลาพิเศษนี้ อาเซียนในฐานะองค์กรที่ประกอบด้วยเศรษฐกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 10 ประเทศในภูมิภาค สามารถสร้างเวทีสำหรับการสื่อสารและการประสานงานระหว่างประเทศสมาชิก และเป็นกำแพงป้องกันประเทศสมาชิกจากคลื่นลมและฝนได้ ชาวตะวันออกทุกคนเชื่อว่าความแข็งแกร่งร่วมกันเป็นสิ่งที่ทรงพลัง เมื่อเกิดพายุ เราต้องสามัคคีกันเพื่อความอยู่รอด
ถาม: จีนจะขยายตลาดให้กับสินค้าส่งออกของประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางเช่นไทย เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสงครามการค้าหรือไม่?
ตอบ: นี่เป็นนโยบายและการกระทำที่จีนกำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จีนเน้นย้ำเสมอมาถึงความเต็มใจที่จะแบ่งปันโอกาสการพัฒนาของจีนให้กับประเทศอื่นๆ และปรับปรุงระบบเศรษฐกิจที่เปิดสู่ภายนอกระดับสูงอย่างจริงจัง ระดับภาษีศุลกากรของจีนถือเป็นระดับต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และใกล้เคียงกับระดับภาษีศุลกากรเฉลี่ยของประเทศพัฒนาแล้ว งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีนหรือ China International Import Expo ได้กลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์จากทั่วโลกที่จะเข้าสู่ตลาดจีน และจัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ทุกปี มณฑลไหหลำของจีนจะสร้างเกาะทั้งเกาะให้เป็นเกาะการค้าเสรีภายในปีนี้ คาดว่าจะมีการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 ภายในปีนี้ ประเทศจีนมีคนรายได้ปานกลาง 500 ล้านคน และตลาดผู้บริโภคมีมูลค่าเกือบ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เรายินดีต้อนรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงจากประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งประเทศไทยเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุพรรณบุรี///ผวจ.สุพรรณฯ ร่วมหอการค้าฯ ประชุมคณะกรรมการฯ ย้ำนโยบาย PPP ดันศักยภาพเกษตร สร้างความร่วมมือรัฐ-เอกชน
"โฆษกทบ." แจ้งด่วน! กำลังพลรบ บุกปะทะปราสาทตาควาย-เนิน 350 หาย 2 นาย เร่งระดมค้นหานำกลับมาให้ได้
นายกเหล่ากาชาดกาญจน์ ส่งมอบรถยนต์ 'โตโยต้า ยาริส' รางวัลใหญ่สลากกาชาด ให้ผู้โชคดีชาวด่านมะขามเตี้ย
"คณะผู้แทนไทย" ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรี กางหลักฐานแหกยับ "กัมพูชา" โกหกกลางเวที UN ทหารเขมรสาดยิงมั่ว โรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือน ละเมิดมนุษยธรรม
ยิ่งใหญ่! สุพรรณฯ จัด "นาวาบูชาธรรม" อัญเชิญเครื่องสักการะ 'หลวงปู่สด' ริมคลองสองพี่น้อง สืบสานวิถีท้องถิ่น
เปิดภาพบังเกอร์ใต้ดิน ป้อมปืนกล "ทหารกัมพูชา" รอบตาควาย เตรียมการมาหลายปี ทำ "ทหารไทย" ต้องโจมตีไม่จบไม่สิ้น

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​