ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมออกเดินทางเยือน 3 ประเทศในตะวันออกกลางสัปดาห์นี้ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งสำคัญครั้งแรก ตั้งแต่กลับมานั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัย เอบีซี นิวส์ เป็นสื่อสำนักแรกที่รายงานว่า ระหว่างเยือนกาตาร์ ประธานาธิบดีทรัมป์มีแผนจะรับเครื่องบินจัมโบ้ โบอิ้ง 747-8 จากราชวงศ์กาตาร์ เป็นของขวัญ เพื่อใช้เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่ง แอร์ ฟอร์ซ วัน ชั่วคราว และจะใช้ต่อไปหลังจากหมดวาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง
ซึ่งหากเป็นจริง ก็จะกลายเป็นของขวัญแพงที่สุดเท่าที่รัฐบาลสหรัฐฯเคยรับจากต่างประเทศ และเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จุดคำถามด้านกฎหมายและจริยธรรม เนื่องจากรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาล รับของขวัญจากกษัตริย์ เจ้าชาย หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ แต่ดูเหมือนรัฐบาลทรัมป์ได้ทำการศึกษาและหลบเลี่ยงไว้แล้ว
CNN อ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลกาตาร์ว่า ในทางเทคนิค เครื่องบินลำนี้จะเป็นของขวัญจากกระทรวงกลาโหมกาตาร์ มอบให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ถือเป็นการส่งมอบระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ไม่ใช่แบบส่วนตัว จากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯก็จะนำไปดัดแปลงและติดตั้งระบบความปลอดภัยสำหรับให้ประธานาธิบดีใช้ ระหว่างที่โบอิ้งยังสร้างเครื่องบิน แอร์ ฟอร์ซ วัน รุ่นใหม่ ไม่แล้วเสร็จ หลังจากล่าช้ามาหลายปีและค่าใช้จ่ายบานปลาย
หลังออกจากตำแหน่ง ทรัมป์มีแผนบริจาคเครื่องบินโบอิ้ง ที่ราคาลำละ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1 หมื่น 3 พันล้านบาท ให้แก่มูลนิธิห้องสมุดประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อใช้ต่อไป
ขณะที่ นายอาลี อัล-อันซารี ผู้ช่วยเลขานุการฝ่ายสื่อของกาตาร์ประจำในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า สื่อสหรัฐฯรายงานเรื่องของขวัญที่กาตาร์จะมอบให้ ระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีทรัมป์ คลาดเคลื่อน และว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงกลาโหมสองฝ่าย ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ
วอลล์ สตรีท เจอร์นัล สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ทรัมป์เคยขึ้นไปยลโฉมเครื่องบินสุดหรูที่เรียกกันว่า “พระราชวังบินได้” มาก่อนแล้ว ระหว่างจอดอยู่ที่สนามบินนานาชาติ เวสต์ ปาล์ม บีช รัฐฟลอริดาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลทรัมป์ได้ทาบทามบริษัท แอลธรีแฮร์ริส (L3Harris ) ปรับแต่งเครื่องบินโบอิ้ง อายุ 10 ปีของราชวงศ์กาตาร์ โดยต้องการให้พร้อมใช้ เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งเร็วสุดในฤดูใบไม้ร่วง (ช่วงกันยายน-พฤศจิกายน)
ทั้งนี้ ในปี 2561 รัฐบาลทรัมป์สมัยแรก ตกลงทำสัญญากับโบอิ้ง มูลค่า 3 พัน 900 ล้านดอลลาร์ จัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 747-8 จำนวน 2 ลำ สำหรับใช้เป็น แอร์ ฟอร์ซ วัน ภายในสิ้นปี 2567 แต่โบอิ้งประเมินปีที่แล้ว ว่าโครงการนี้น่าจะแล้วเสร็จในปี 2572 หลังจากคู่สัญญารายหนึ่งล้มละลายและสะดุดยาวช่วงโควิดระบาด ปัจจุบัน สหรัฐฯมีเครื่องบินโบอิ้ง 747-200B เก่า จำนวน 2 ลำใช้เป็นแอร์ฟอร์ซวัน ซึ่งรัฐบาลทรัมป์ไม่พอใจกับความล่าช้า ทั้งเคยบอกว่ากำลังมองหาทางเลือกใหม่
เครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี จะต้องได้รับการติดตั้งระบบสื่อสาร และระบบความปลอดภัยล้ำสมัย เพื่อปกป้องผู้นำประเทศ ทำให้การสร้างเครื่องบินเพื่อการนี้ มีราคาแพงและซับซ้อน
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯและทำเนียบขาว สรุปว่า การรับของขวัญมูลค่ามหาศาลครั้งนี้ทำได้ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่สินบน เพราะไม่ใช่การแลกเปลี่ยนกับการเอื้อประโยชน์ หรือการออกมาตรการใดตอบแทน และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากจะส่งมอบให้กับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ก่อนส่งต่อให้ห้องสมุดประธานาธิบดี ดังนั้น จึงไม่ถือเป็นของขวัญให้แก่บุคคลใดแบบส่วนตัว