No data was found

ชัยวุฒิ-สตช.ลุยปราบมิจฉาชีพออนไลน์

กดติดตาม TOP NEWS

กรุงเทพฯ 6 ต.ค.- ดีอีเอส ร่วม ตำรวจไซเบอร์ รับลูกสั่งการนายกฯ เร่งป้องปราบมิจฉาชีพออนไลน์ ยกระดับศูนย์รับเรื่องร้องเรียน OCC 1212 ดึงผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ร่วมแก้ปัญหา พบ "คิง ก่อนบ่าย" พาแม่และญาติหอบหลักฐานร้องเรียน ถูกมิจฉาชีพส่ง SMS หลอกกู้เงิน 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) และพล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) แถลงการหารือแนวทางป้องปราบมิจฉาชีพออนไลน์ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการสืบสวนรวบรวมหลักฐาน และความเข้มข้นในการดำเนินคดีกับมิจฉาชีพและผู้กระทำผิด ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมาเป็นช่องทางหลอกลวง ฉ้อโกง ซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะในท่ามกลางความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 โดยวันนี้มีนายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือ คิง ก่อนบ่าย พร้อมคุณแม่และญาติซึ่งเป็นผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพส่ง SMS หลอกให้กู้เงิน โดยใช้กลอุบายหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีไปกว่า 60,000 บาท ได้หอบหลักฐานเดินทางจากจ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าร้องเรียนเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประชาชนที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพทางออนไลน์ จนตกเป็นเหยื่อกลโกงรูปแบบต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นตามเทคโนโลยีการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เอสเอ็มเอส ไลน์ เฟซบุ๊ก แอปเงินกู้ และโทรศัพท์หลอกลวง โดยกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด หากพบหลักฐานกระทำความผิด เพราะถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

รัฐมนตรีดิจิทัลฯ กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งวันนี้ได้มีการประชุมหารือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก กูเกิล ไลน์ ช้อปปี้ Tiktok เจดีเซ็นทรัล และลาซาด้า เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่เกิดขึ้น ในการวางแนวทางการการป้องกัน ปราบปราม และให้ความรู้แก่ประชาชน พร้อมยกระดับการให้บริการประชาชนผ่านสายด่วน 1212 เว็บไซต์ https://www.1212occ.com หรือ email: [email protected] ดำเนินการการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายจากภัยออนไลน์

สำหรับข้อกำหนดลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีฉ้อโกงต่อประชาชนจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษสูงขึ้นจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย

ทั้งนี้ จากสถิติการรับแจ้งปัญหาการซื้อขายออนไลน์ ผ่านสายด่วน 1212 พบว่าแต่ละปีมีปริมาณร้องเรียนเพิ่มมากขึ้น สำหรับช่องทางการซื้อขายที่มีสถิติการร้องเรียนจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์มากสุด ได้แก่ การซื้อผ่าน เฟซบุ๊ก คิดเป็นสัดส่วนถึง 82.4% จำนวนการร้องเรียน 19,296 ครั้ง ตามมาด้วย เว็บไซต์ 4.6% และอินสตาแกรม 4.3%

ด้านพล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) กล่าวว่า ล่าสุด บช.สอท. ยังได้ร่วมกับสำนักงาน กสทช. และค่ายมือถือต่างๆ วางแนวทางจัดการปัญหา SMS และโทรศัพท์หลอกลวงประชาชน โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกราย จะทำการบล็อก SMS ที่มีเนื้อหาชัดเจนว่าเป็นการหลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจารทันที และเร่งตรวจสอบ กำกับดูแลกันเองอย่างเคร่งครัด และให้ทุกค่ายเริ่มทำการ Backlist ผู้ส่งที่ส่งข้อความหลอกลวง หลังจากที่ได้การแชร์ข้อมูล SMS หลอกลวงระหว่างกันแล้วพบว่ามาจากผู้ส่งรายเดียวกัน

สำหรับกรณีการโทรหลอกลวงประชาชนโดยตรง ผู้ให้บริการมือถือทุกราย สามารถตรวจสอบการกระทำความผิดได้ชัดเจนเนื่องจากเบอร์โทรศัพท์มือถือที่มิจฉาชีพใช้สามารถตรวจสอบจากการลงทะเบียนได้ว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์นั้น ถือเป็นหลักฐานที่ระบุต้นทางที่มา ประกอบกับข้อมูลที่ประชาชนให้ข้อมูลการหลอกลวง ส่งคลิป หรือแจ้งเบอร์โทรศัพท์เข้ามาเพื่อเป็นข้อมูล บช.สอท.จะตรวจสอบกับค่ายมือถือ และ สำนักงาน กสทช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในการดำเนินคดีเอาผิดกับมิจฉาชีพต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อุปนายก "สมาคมคนพิการฯ" เสียงแข็งโควต้าสลากฯส่งแค่สมาชิก แจงละเอียด ทำไม "หวย" บางล็อต หลุดโผล่ยี่ปั๊ว นายทุนออนไลน์
ว่อนโซเชียล ! พระสงฆ์ใช้บาตรฟาดหัวโยม ล่าสุดเจ้าอาวาสสั่งให้ออกจากวัดแต่พระรูปดังกล่าวไม่ยอมชี้หน้าด่ากราดเจ้าอาวาสวัด
พัทยา ร้อนจัด ส่งผลกระทบ 2 อ่างหลักเก็บน้ำดิบ แห้งขอด หากฝนยังไม่ตก หวั่นกระทบต่อประชาชนและภาคท่องเที่ยว
อย่าเพิ่งรีบเติม พรุ่งนี้ “น้ำมันลดราคา” เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับลง 0.50 บาทต่อลิตร
เปิดรายชื่อ 15 องค์กรหลัก รับโควต้าสลากฯ แค่ขายให้หมด กินส่วนต่าง 1.60 บาท/ใบ รายได้รวมเกือบ 30 ล้านต่อเดือน
จีน แก๊ง ‘โลมาหัวบาตรหลังเรียบแยงซี’ ว่ายน้ำเล่น
"สรรเพชญ" สวน "อุ๊งอิ๊ง" วิจารณ์แบงก์ชาติ ชี้ดื้อรั้นแจกเงินดิจิทัล กระทบการคลังปท.
กัมพูชาเตือนประชาชนเลี่ยง ‘แดด’ หลังอุณหภูมิพุ่ง 43°C
เกาหลีใต้ เตือนภัยสถานทูตใน 5 ประเทศ
หลายชาติส่ง 'ทุเรียน' ตีตลาดจีน ทุเรียนไทยเสี่ยงไม่ได้ 'ยืนหนึ่ง' ต่อ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น