“ทวี” ลงพื้นที่นราธิวาส ประชุมหน่วยความมั่นคง เร่งดับไฟใต้ เยี่ยมผู้บาดเจ็บ ก่อนเป็นประธานรดน้ำศพ “ตำรวจ” เหตุลอบวางบึ้ม

"รมว.ยุติธรรม" ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคงเร่งหาแนวทางดับไฟใต้ ก่อนเป็นประธานรดน้ำศพ "ตร.กล้า" ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดจนเสียชีวิต

“ทวี” ลงพื้นที่นราธิวาส ประชุมหน่วยความมั่นคง เร่งดับไฟใต้ เยี่ยมผู้บาดเจ็บ ก่อนเป็นประธานรดน้ำศพ “ตำรวจ” เหตุลอบวางบึ้ม – Top News รายงาน

 

ทวี

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. มีรายงานว่า พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมหารือร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง 3 ฝ่ายทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมี พล.ท.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชการตำรวจภธรภาค 9, พลตรีณรงค์ ตันติสิทธิพร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15, พลตรีเฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี, นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส, พลตำรวจตรี ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และตัวแทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกว่า 100 นายเข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการชี้แจงจากเจ้าหน้าฝ่ายความมั่นคงทั้ง 3 ฝ่ายเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมสรุปสถานการณ์ด้านการข่าวในช่วงเดือน เม.ย.จนถึงปัจจุบัน พร้อมเปรียบเทียบสถิติเหตุการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2565 จำนวน 44 เหตุการณ์, ปี 2566 จำนวน 38 เหตุการณ์, ปี 2567 จำนวน 39 เหตุการณ์ และปี 2568 จำนวน 38 เหตุการณ์ ซึ่งแนวโน้มสถานการณ์พบการก่อเหตุรุนแรงต่อกลุ่มชาวไทยพุทธ เจ้าหน้าที่รัฐ และฐานปฏิบัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา

ที่ประชุมยังยืนยันว่า จ.นราธิวาส ได้ประกาศยกมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดหลังเกิดการลอยก่อเหตุรุนแรงต่อประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ อ.ตากใบ และ อ.จะแนะ โดยมีคำสั่งให้ทุกอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแลความปลอดภัยของประชาชนและป้องกันการลอบก่อเหตุรุนแรงซ้ำ นอกจากนี้ยังกำชับให้ทุกพื้นที่ดำเนินมาตรการเชิงรุก รวมถึงการจัดชุดลาดตระเวน เพิ่มจุดตรวจจุดสกัด และดูแลพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณที่มีการจัดกิจกรรมสาธารณะ หรือมีประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก พร้อมขอความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนให้ช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยในพื้นที่

ด้าน พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อที่ประชุมว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยมุ่งหวังว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้อย่างเป็นระบบ พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูขวัญและกำลังใจของประชาชน พร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ที่สำคัญคือต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้ตรงจุดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา พันตำรวจเอกทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบจำนวน 6 ราย ซึ่งเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย นายทัศไนย์ ตั้งคง ได้รับบาดเจ็บจากพื้นที่ อ.จะแนะ , ดาบตำรวจสาธิต คำแหง , ดาบตำรวจธีรวัฒน์ จอดนอก , จ่าสิบตรีสาคร รัตนศิริ , สิบตำรวจโทธีปกรณ์ ชูสิงห์ ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดพื้นที่ อ.จะแนะ และ 6. ด.ญ.นัชมีย์ ศรีมารักษ์ อายุ 15 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ สภ.โคกเคียน ทั้งนี้ พันตำรวจเอกทวี ได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้บาดเจ็บทั้ง 6 ราย

หลังเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บ พันตำรวจเอกทวี เปิดเผยว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มว่าจะพุ่งเป้าไปยังพี่น้องชาวไทยกลุ่มเปราะบาง โดยรัฐบาลมีนโยบายดูแลคุ้มครองชุมชนไทยพุทธ ซึ่งไม่ได้คุ้มครองเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ต้องไปสร้างความเข้าใจกับผู้นำศาสนาด้วย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากเรื่องศาสนา ที่สำคัญ คือ ต้องดูเรื่องเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย โดยเบื้องต้นจะเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลอบก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใตเ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ เร่งเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แล้วก็เพิ่มมาตรการด้านการสืบสวน ด้านการข่าว และที่สำคัญคือเมื่อเกิดเหตุแล้วจะต้องมีข้อเท็จจริงให้ประชาชน รัฐจะต้องเข้าไปดูแลแล้วก็หยิบปัญหาทุกข์ร้อนของหมู่บ้านชุมชน ยกตัวอย่างใน 3 จังหวัด ปัญหาเดือดร้อนสุดคือ เมื่อไม่มีเหตุการณ์ประชาชนก็มีความเดือดร้อนเรื่องการแพร่ระบาดของกระท่อมและยาเสพติดอื่นๆ อย่างน้อยต้องเอาปัญหาของชาวบ้านให้รัฐเข้าไปแก้ปัญหาด้วย แล้วก็มีการรายงานในคดีต่างๆ ในเรื่องการรายงานต้องขอเป็นความลับ เพราะบางส่วนอาจจะมีความคืบหน้าไปสู่การจับกุม

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาระยะแรก คือ การให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูในมิติของความยุติธรรม พร้อมให้เจ้าหน้าที่ย้ำเตือนพี่น้องไทยพุทธให้ระมัดระวังตัวเอาไว้ในช่วงนี้ สำหรับการพูดคุยเจรจากับ BRN ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพราะการนำสันติสุขกลับ คือต้องหันหน้าคุยกัน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่

ต่อมาเวลา 14.30 น. พันตำรวจเอกทวี เดินทางไปที่ วัดบางนรา ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ สิบตำรวจโทภคพงศ์ สุวรรณชะนะ อายุ 27 ปี ผู้บังคับหมู่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ซึ่งเสียชีวิตจากการปีนเสาไฟฟ้าขึ้นไปเก็บเมมโมรี่การ์ดภายในกล้องวงจรปิดที่บ้านไอร์ซือเระ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส แต่ถูกคนร้ายลอบกดระเบิดที่วางไว้กับเสาไฟฟ้า ส่งผลให้ สิบตำรวจโทภคพงศ์ ถูกสะเก็ดระเบิดอาการสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา

ก่อนทำพิธีรดน้ำศพ พันตำรวจเอกทวี เป็นผู้แทนวางหรีดเคารพศพของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามลำดับ โดยในพิธีรดน้ำศพมี นายกฤษณนันท์ กำไร รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูง กองกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของ สิบตำรวจโทภคพงศ์ ซึ่งเปรียบเสมือนวีรบุรุษที่ต้องสละชีพเพื่อชาติ

พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสนอให้ปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทน สิบตำรวจโทภคพงศ์ เป็นกรณีพิเศษ โดยขอพระราชทานยศเป็น พ.ต.ต. และให้เลื่อนเงินเดือน 7 ขั้น รวมทั้งให้ความช่วยเหลือดูแลทธิประโยชน์อื่นๆ เป็นกรณีพิเศษ อาทิ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ตร., เงินสวัสดิการ ตร., เงินช่วยเหลือสมาคมแม่บ้านตำรวจ, เงินช่วยพิเศษ 3 เท่าเงินเดือนสุดท้าย, เงินบำเหน็จตกทอด, เงินบำนาญพิเศษรายเดือนสำหรับทายาท, เงินช่วยเหลือทุนการศึกษารายปี, เงินยังชีพรายเดือนสำหรับบุตร และสัวดิการอื่นๆ โดยในส่วนของเงินช่วยเหลือต่างๆ ในเบื้องต้น รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 3,076,270 บาท

จากนั้น พันตำรวจเอกทวี ได้มอบเหรียญบางระจัน พร้อมใบประกาศเชิดชูเกียรติการประกอบคุณงามความดีและความเสียสละแก่วงศ์ตระกูลให้กับครอบครัวของ สิบตำรวจโทภคพงศ์ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานและส่วนราชการต่างๆ ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อช่วยรปลอบขวัญ จากนั้น พันตำรวจเอกทวี ตลอดจนผู้เข้าร่วมพิธีได้ร่วมรดน้ำศพ สิบตำรวจโทภคพงศ์ ก่อนจะญาติจะเคลื่อนศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ที่ ต.ระโนด อ.ระโนด จ.สงขลา อย่างสมเกียรติต่อไป

    

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดีเอสไอ" ส่งข้อมูลวิเคราะห์ ปมฮั้วสว.67 ให้ “กกต.” พิจารณากฎหมายเลือกตั้ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) นักเรียนจีน 100 คน 'แกว่งเชือกยักษ์'ให้เพื่อนโดด
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) “Adora Flora City” เรือสำราญจีนผ่านทดสอบการลอยน้ำ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนพัฒนาบ้านคอนเทนเนอร์สำหรับทีมสำรวจขั้วโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หมู่ดอก 'พิลาปขาว' ในเสฉวน เบ่งบานราวนกสยายปีก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน)เทคโนโลยีอัจฉริยะเสริมการเรียนรู้ 'โรงเรียน' ในฝูเจี้ยน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) โรงพยาบาลจีนใช้ 'AI' บอกทาง-แนะนำผู้ใช้บริการ
มาเลเซียเตรียมเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าเชื่อมกรุงเทพ
"ปราชญ์ สามสี" ซัดสันติภาพปลอม ยก 4 ข้อ โต้ไอเดีย "รัฐไทย" ต้องเจรจา BRN ลั่นไม่ใช่เวลาประนีประนอม "อาชญากรรม"
“อธิบดีกรมอุทยานฯ” เผยศึกษาอีกไม่เกิน 2 ปี กระเช้าภูกระดึงมาแน่ หลังเคาะงบ 25.7 ล้าน ให้ออกแบบแล้ว ยืนยันกระทบป่าน้อยสุด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น