“เอกนัฏ” เอาจริง “ส่งทีมสุดซอย” ตรวจโรงงานปราจีนฯ ยึดเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 7 พันตัน มูลค่า 148 ล้าน คาดเอี่ยวคดีตึก สตง.

“เอกนัฏ” เอาจริง ส่งทีมสุดซอย ตรวจ “เชาว์ สตีลฯ ที่ปราจีนบุรี เจอเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน สั่งอายัดทั้งหมด 7,433 ตัน มูลค่ากว่า 148.67 ล้านบาท เบื้องต้นพบผิด 4 กระทง โทษคุก 6 เดือน-2 ปี ปรับอีก 2 ล้านต่อกระทง เตรียมส่งดีเอสไอเป็นคดีพิเศษ คาดเอี่ยวตึก สตง.

“เอกนัฏ” เอาจริง “ส่งทีมสุดซอย” ตรวจโรงงานปราจีนฯ ยึดเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 7 พันตัน มูลค่า 148 ล้าน คาดเอี่ยวคดีตึก สตง. – Top News รายงาน

 

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้ชุดตรวจการสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ตำบลหนองกี่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กจากเตาหลอมชนิด IF เพื่อตรวจติดตามเหล็กให้เป็นไปตามมาตรฐาน

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพบและยึดอายัดเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานได้ทั้งหมด 7,433 ตัน มูลค่ากว่า 148.67 ล้านบาท พร้อมดำเนินคดีฐานทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีโทษความผิดฐานทำผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากยังโอนเปลี่ยนใบอนุญาตไม่แล้วเสร็จ ตามข้อมูลเชิงลึกที่ตรวจสอบมาด้วย

ขณะที่นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า ในการเข้าตรวจสอบ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเหล็กเส้นกลม 3 ขนาด คือ 6 มิลลิเมตร 8 มิลลิเมตรและ 9 มิลลิเมตร เหล็กข้ออ้อย 3 ขนาด คือ 8 มิลลิเมตร 10 มิลลิเมตร และ 12 มิลลิเมตร ผลการตรวจทดสอบพบว่าเหล็กเส้นกลมขนาด 6 มิลลิเมตร และ 8 มิลลิเมตร ตกค่าโบรอน ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดมาตรฐานเหล็ก ขณะที่เหล็กข้ออ้อยทั้ง 3 ขนาด ตกทั้งค่าโบรอน และค่าแรงดึง จึงได้ยึดอายัดเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทั้งหมดไว้ พร้อมดำเนินคดีฐานทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ,โทษฐานติดเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบนผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบพบว่า บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด อยู่ระหว่างการโอนย้ายใบอนุญาต มอก.ไปยังบริษัท เชาว์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งตามกฎหมายต้องทำการโอนย้ายใบอนุญาตให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จึงสามารถทำผลิตภัณฑ์ได้ แต่ทางบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้กลับอาศัยช่วงเปลี่ยนผ่านทำการผลิตเหล็กทั้งที่ได้แจ้งยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน และใบอนุญาต มอก. เพื่อโอนให้กับ บริษัท เชาว์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ กรอ. และ สมอ. จึงถูกดำเนินคดีฐานทำผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสั่งให้หยุดการผลิตเหล็กเส้นทั้งหมด ซึ่งตามข้อมูลเบื้องต้นยังอาจเข้าข่ายคดีพิเศษ จึงจะเสนอให้ดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษด้วย

ขณะที่เพจเฟสบุ๊ก กรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ข้อมูลว่า จากการสืบทราบโรงงานเหล็กดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีตึก สตง.

     

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เบื้องหลัง "นายกฯอนุทิน" ตัดสินใจยุบสภาฯ พรรคปชน.ยื่นซักฟอกล้มรัฐบาล ผิดหวังแพ้มติ ปิดกั้นสว.ห้ามยุ่งแก้รธน.
MOU ขับเคลื่อนเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย
พุทธา–เทวาภิเษก “เหนือดวง องค์พ่อจตุคามรามเทพ” 108 พระเกจิปลุกเสกเข้มขลัง
“Phuket Detox 18 ปีแห่งความไว้วางใจ” สู่ก้าวใหม่ของนวัตกรรมเพื่อคนภูเก็ต
"สันติสุข" โพสต์เดือด "ยุบสภาไปเลยก็ดี" คนไทยได้เห็นธาตุแท้ฝ่ายค้านบางพรรค สนใจแค่แก้รธน.ไม่ห่วงความเป็นตายชาติ
ภูเก็ตประชุมกองทุนยุติธรรมช่วยประชาชน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​