เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่กระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบนอมินีและปรับแผนการลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินี ปี 2568 ณ ศูนย์เรียนรู้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า DBD Knowledge Space ชั้น 7 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
ข่าวที่น่าสนใจ
นางอรมน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ปรับแผนตรวจสอบ “นอมินี” โดยจะเน้นตรวจสอบในกลุ่มธุรกิจที่มีสัดส่วนการถือหุ้นของชาวต่างชาติตั้งแต่ 0.01-49.99% ในพื้นที่เป้าหมาย 7 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี และ กรุงเทพมหานคร จากสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น และมีผู้ร้องเรียนพร้อมแจ้งเบาะเเสเข้ามา รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งรัดการแก้ไขปัญหาเรื่องนอมินีอย่างจริงจัง โดยตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย มีนายพิชัย นริพทพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน โดยการดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดนอมินีที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันดำเนินการ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 – 31 มีนาคม 2568 รวม 852 ราย มูลค่าความเสียหาย 15,188 ล้านบาท
นางอรมน กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกจิการค้า ได้ปรับแผนตรวจสอบนอมินี เป็น 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมายที่น่าสงสัยว่าต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยโดยให้คนไทยถือหุ้นแทน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ได้แก่ 1) ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก 2) ธุรกิจค้าที่ดินอสังหาริมทรัพย์ 3) ธุรกิจ e-Commerce ขนส่ง และคลังสินค้า 4) ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท 5) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และ 6) ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป รวม 46,918 ราย โดยจะมีการลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะรายงานผลให้คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ที่มีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานทราบความคืบหน้าเป็นระยะ
นางอรมน กล่าวว่า ในแผนการตรวจสอบนอมินีประจำปีนี้ รวมถึงการตรวจสอบธุรกิจที่มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามายังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และธุรกิจที่เป็นกระแสข่าวในปัจจุบันว่าพบกลุ่มคนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมายอาศัยนอมินีคนไทยด้วย ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า จะอยู่ในกรุงเทพ และปริมณฑล เป็นหลัก เช่น ย่านพระราม 9 กรุงเทพกรีฑา และรัชดาภิเษก สำหรับสถิติประเภทธุรกิจที่มีการร้องเรียนเข้ามามากที่สุด คือ อุตสาหกรรมเหล็ก และธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง ร้านอาหาร เป็นส่วนใหญ่ ส่วนการตรวจสอบกรณีการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร จะพบในพื้นที่จังหวัดระยองและจันทบุรี เป็นต้น
นางอรมน กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานป.ป.ง.ยกร่างแก้ไขกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้เพิ่มความผิดนอมินี เป็นความผิดมูลฐานตามพ.ร.บ.ฟอกเงินด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดทั้งที่เป็นคนไทยและต่างด้าวให้ตกเป็นของแผ่นดิน เพื่อไม่ให้นำทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ ขณะนี้ร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นจนถึงวันที่ 25 เม.ย.นี้ เมื่อเสร็จขั้นตอนการรับฟังความเห็นแล้วทางป.ป.ง.จะนำเสนอต่อครม.ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
