นับถอยหลังเลือกตั้งทั่วไป ลุ้นประยุทธ์อยู่ยาว พรรคเล็กสั่นสู้บัตร 2 ใบ

ต่างฝ่ายต่างชูหัวหน้าพรรคขึ้นเป็นนายกฯ ลุ้นประยุทธ์เป็นนายกฯสมัย 3 เพื่อไทยอุบไต๋แต่มีชื่อเศรษฐาโผล่ลุ้นเป็นแคนดิเดตชิงนายกฯ "อนุทิน-จุรินทร์-สุดารัตน์-พิธา" จ่อเบียดลุงตู่แข่งนายกฯ กกต.เตือนพรรคการเมืองอัพเดตสมาชิกพรรค ตั้งสาขาตั้งตัวแทนพรรครองรับเลือกตั้งกติกาใหม่ วราวุธฟันธงเลือกตั้งทั่วไปไม่ปลายปีหน้าก็ต้นปี 66 ก่อนสภาผู้แทนครบวาระ 23 มี.ค.2566

แม้บรรดาเกจิอาจารย์หลายสำนักจะฟันธงตรงกันว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะอยู่ในวาระอีกยาวและคงไม่คิดยุบสภาจัดการเลือกตั้งแบบง่ายๆในเร็ววันนี้ เพราะยังมีภารกิจให้ต้องรับผิดชอบอีกมากมายหลายเรื่อง อาทิ การแก้ไขปัญหาโควิด -19 การใช้งบประมาณแผ่นดิน พ.ศ.2565 เพื่อนำมาบริหารประเทศ ,การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค.ในปีหน้า ยังไม่นับรวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดที่ยังไม่รู้ว่าจะคลี่คลายเมื่อไหร่ประชาชนจะพ้นทุกข์วันไหน แต่โดยรวมพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลยังมีเรื่องให้ตรงบริหารจัดการอีกเพียบ จับยามสามตามองมุมไหนดูยังไงก็คงไม่ยุบสภาจัดการเลือกตั้งกันง่ายๆ แต่ยังไงก็ต้องก่อน 23 มี.ค.2566 ที่สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้จะครบกำหนดหมดอายุการทำงาน เพราะฉะนั้นเลือกตั้งทั่วไปเร็วสุดที่จะจัดการเลือกตั้งได้ก็ต้องราวกลางปีหน้า 2565 เพราะต้องรอให้กฎหมายลูกแล้วเสร็จก่อนหรือไม่ก็ข้ามไปต้นปี 2566 เลย อย่างไรก็ตามจับสัญญาณจากการตื่นตัวของพรรคการเมืองต่างๆ แม้หลายฝ่ายเห็นตรงกันเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งคงไม่อุบัติขึ้นในเวลาอันใกล้ แต่ทุกพรรคก็ไม่ประมาทที่จะเตรียมพร้อมเตรียมตัวไว้ก่อน เพราะการเมืองคือเรื่องไม่แน่นอนที่คิดว่านานอาจจะเร็วที่ดูว่าช้าอาจจะไว และเพราะเหตุนี้เราจึงเห็นพรรคการเมืองในสารบบรีบออกมาประกาศตัวแคนดิเดตคนที่จะมาเป็นนายกฯเป็นผู้นำประเทศในการเลือกตั้งครั้งหน้ากันแต่เนิ่นๆ

ที่มาก่อนใครเพื่อนคือพรรคไทยสร้างไทยสาขาของพรรคเพื่อไทยตามยุทธศาสตร์แตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อยของ “นายหัวโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร งานนี้ประกาศชู “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกฯหญิงคนที่ 2 ของไทยต่อจาก “หญิงปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มั่นใจคนไทยยังไม่เข็ดนายกฯสายหวาน ขณะที่พรรคพลังปรระชารัฐแม้จะงัดกันหนักอัดกันแรงแต่ทั้ง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ก็คงตายรังเก่ายังไงก็ต้องเสนอชื่อลุงตู่ดันพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเป็นนายกฯอีกสมัย เพราะมองไม่เห็นใครที่จะมีบารมีอุ้มพรรคฉุดส.ส.เข้าสภาได้มากเท่าลุงตู่อีกแล้วในชั่วโมงนี้ ด้านพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมเข็น “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ข้ามชั้นขึ้นเป็นนายกฯ ส่วนพรรคภูมิใจไทย ภูมิใจก็เสนอของเก่าของตายอย่าง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล เป๋าใหญ่ ใจถึง พึ่งได้ ไปเครื่องบิน ขอลุ้นเป็นนายกฯสมัยแรก ขณะที่พรรคเล็กๆ อย่างพรรคก้าวไกลชู “นายกฯโซเชี่ยลส์” อย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอเป็นม้ามืดชิงนายกฯ แม้แต่พรรคก็อกแก็กของผู้แทนปัดเศษอย่าง “เต้” มงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ จากพรรคไทยศรีวิไลย์ก็ยังประกาศตัวขอเป็นนายกฯแบบไม่ดูบอดี้ตัวเอง เหลือก็แต่พรรคเพื่อไทยของทักษิณที่อุบไต๋ไม่ยอมเผยชื่อว่าจะเสนอใครชิงนายกฯ แต่แว่วว่าชื่อที่คุยนักคุยหนาว่าเปิดมาแล้วคนไทยจะเซอร์ไพรส์ก็หนีไม่พ้น “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กบอสแสนศิริ อดีตนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่เคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับยิ่งลักษณ์เรื่อง ว. 5 ชั้น 7 โฟร์ซีซั่นส์ที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อหลายปีก่อนนั้นแหละจะมาเป็นหุ่นเชิดเป็นตุ๊กตาตัวใหม่ให้โทนี่ชักใย เพียงแต่รอวัน ว. เวลา น. ที่เหมาะเจาะเคาะกะลากันก็เท่านั้นเอง

อนาคตการเมืองจึงไม่มีอะไรแปลกใหม่ กวาดตาดูรายชื่อแคนดิเดตนายกฯสมัยหน้าถ้าเป็นไปตามนี้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องหวั่นไหวอะไรเพราะรู้มือกันอยู่ โอกาสจะอยู่ยาวสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกฯสมัย 3 อยู่ยาว 12 ปีก็มีความเป็นไปได้สูง แม้คู่เทียบอย่างเศรษฐาถ้าพรรคเพื่อไทยชูเป็นนายกฯคนใหม่ตามข่าว จะเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงเป็นขี้ใหม่หมาหอมก็จริง แต่การเป็นนักธุรกิจหมื่นล้านตีนไม่ติดดิน เอาเข้าจริงก็คงไม่แรงถึงขนาดจะฉุดพรรคเพื่อไทยขึ้นจากหลุมมาได้ บทเรียนนายทุนอย่างโทนี่ที่เข้ามากอบโกยสร้างความฉิบหายสารพัดก็คงทำให้คนไทยยังเข็ดหลาบกันอยู่ อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ที่นั่งอยู่บนหอคอยงาช้างก็ห้ามประมาทเพราะในรัฐบาลเองก็มีจุดสลบจุดตายที่เป็นตัวแปรอย่างพล.อ.ประวิตรและร.อ.ธรรมนัสอยู่เหมือนกัน วางตัวไม่ดีทำเรื่องบ้าๆขึ้นมาแล้วคนไทยไม่ถูกใจ พาลจะทำให้คะแนนคนที่เคยรักใคร่ชอบพอพล.อ.ประยุทธ์แต่หมั่นไส้ไม่ชอบทั้ง 2 คนเททิ้งลุงตู่เอาได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นห้ามวางใจห้ามผยองอย่างเด็ดขาด ถึงเวลาเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ อาจจะพังเอาได้ง่ายๆ

เลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ล่าสุดคนกลางอย่างคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งหนังสือแจ้งทุกพรรคการเมืองให้เตรียมความพร้อมกันไว้ก่อน ปุ๊บปั๊บเกิดมีการยุบสภาต้องเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆจะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากิน โดยพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ส่งหนังสือแจ้งหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค ให้เตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไป โดยทุกพรรคต้องปฏิบัติตามกฎเหล็ก 4 ข้อของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประกอบด้วย 1. อัพเดตฐานข้อมูลสมาชิกพรรคให้เป็นปัจจุบัน 2. จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา และต้องจัดหาสมาชิกสาขาพรรคตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป 3. แต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ซึ่งต้องมีสมาชิกพรรคในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 200 คน 4. การสรรหาผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคการเมืองครบตามขั้นตอน จากข้อมูลกกต.ล่าสุด มีพรรคการเมืองจดทะเบียนกับกกต. ที่ถูกต้องเบ็ดเสร็จตอนนี้รวม 104 พรรค ในจำนวนนี้มีแค่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวเท่านั้นที่สามารถจัดตั้งสาขาพรรคและแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดครบทั้ง 77 จังหวัด ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองที่เหลือยังไม่ไปถึงไหน

ถึงตอนนี้ก่อนจะไปลุ้นว่าเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ นอกจากจะต้องจัดพรรคตามระเบียบกกต.ให้เสร็จสมบูรณ์แล้วยังต้องมาช่วยกันลุ้นก่อนว่าเรื่องของการเลือกตั้งวิธีการเข้าคูหาวิธีการคิดคะแนนในการเลือกตั้งคราวหน้าจะเป็นแบบไหน ล่าสุดเรื่องของบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่หลายคนลุ้นว่าจะมีส.ส.หรือส.ว.เข้าชื่อให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 82 ,ม.86 และ ม.91 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ก็ไม่มีส.ส.หรือส.ว.คนใดเข้าชื่อ ล่าสุด 27 ก.ย.ที่ผ่านมานายชวนได้ส่งเรื่องให้พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้งขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนจากนี้ก็ค่อยมาลุ้นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะลงมาตอนไหน จากนั้นก็ต้องใช้เวลาอีก 5-6 เดือนเป็นอย่างต่ำในการแก้ไขกฎหมายลูกอย่างน้อย 2 ฉบับคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ฯลฯ เพื่อให้สอดคล้องสอดรับกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปรับระบบการเลือกตั้งใหม่ ตรงนี้ก็กินเวลาอีกนานพอสมควรแถมเผลอจะกลายเป็นสงครามครั้งใหม่ของบรรดาพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่กับพรรคเล็กที่ต้องเถียงกันหนักอัดกันแหลกเรื่องการคิดคะแนนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อว่าจะเอายังไงจะกำหนดแค่ไหน เอาแบบเดิมเหมือนปี 2540 ที่พรรคใหญ่ได้เปรียบ เพราะคิดคะแนนส.ส.ปาตี้ลิสต์ 350,000 -400,000 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน หรือคิดแบบการเลือกตั้งคราวที่แล้วที่ทำให้พรรคเล็กเข้าสภามาเพียบ 50,000 คะแนนได้ส.ส. 1 คน หรือจะเอาสูตรใหม่เลย เรื่องนี้ก็ต้องเถียงกันอีกยาว

อย่างไรก็ตามมองอนาคตการเลือกตั้งหากใช้ระบบเลือกตั้งแบบเก่าคือเข้าคูหากาบัตร 2 ใบ ระบบเขต 400 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ยังไงพรรคใหญ่ เงินหนา สมาชิกพรรคเยอะ หัวคะแนนมีมาก การจัดการเป็นระบบน่าจะมีโอกาสเข้าวินมากกว่า รอบนี้ความได้เปรียบกติกาจึงตกอยู่กับพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยที่เป็น 2 ขั้วพรรคใหญ่ ส่วนพรรคเล็กๆอย่าง พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล พรรคชาติไทยพัฒนาก็ต้องไปลุ้นกันเอาเอง กระนั้นเสียงสะท้อนของบรรดาพรรคเล็กก็ไม่กลัวไม่กังวลที่จะสู้กับพรรคใหญ่ด้วยการใช้บัตร 2 ใบ คนที่ไม่ยี่หระกับเรื่องนี้มาตลอดคืออนุทิน เพราะประกาศ NoสนNoแคร์ไม่ว่ากติการะเบียบมาแบบไหนพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมสู้ เพราะเป็นพรรคมีจุดยืน ไม่แตกแยก สามัคคี คลุกวงใน ไม่มียศ ไม่ถือตัว และมีเอกภาพ แถมยังมีคาถามหาอุดแคล้วคลาดจาก “เสี่ยเน” เนวิน ชิดชอบ ที่ให้พรแกนนำพรรคในวันเกิดครบรอบ 63 ปี 4 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยขอให้ส.ส.ทุกคนของพรรค “จงทำดีเพื่อบ้านเมือง”

ขณะที่ “เสี่ยท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา มองการออกหนังสือของกกต.ว่าเป็นเรื่องปกติแถมมีข้อดีที่กระตุ้นให้ทุกพรรคเร่งทำงาน เพราะตามกำหนดสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้จะครบกำหนดอายุใน 23 มี.ค. 2566 ฟันธงยังไงการเลือกตั้งก็น่าจะอยู่ช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 สถานการณ์ประเทศไทยในตอนนี้เรียกว่าชุลมุนวุ่นไปหมด โควิด-19 แม้จะเป็นช่วงขาลงแต่ก็ยังระบาดอยู่ ส่วนน้ำท่วมก็ยังรุนแรงอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัด แต่เหตุบ้านการเมืองก็ยังร้อนระอุไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง 3 เรื่องใหญ่ที่ว่ายังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
//////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ฮุนมาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงความอาลัยการสวรรคต "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
วัดนางพระยา ประกาศยกเลิกงานลอยกระทง ประจำปี 2568 เพื่อแสดงความอาลัย
"กษัตริย์จิกมี" แห่งภูฏาน โพสต์แสดงอาลัย การเสด็จสวรรคตของ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง"
ชาวเบตงร่วมแสดงความอาลัย “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมราษฎรปี 2519
ส.ไต้หวัน ยืนสงบนิ่ง แสดงความอาลัย ก่อนเปิดงานเทศกาลกินเจ ฉบับไต้หวัน
“อนุทิน” ลุยกระบี่ มอบนโยบายท้องถิ่น ย้ำ “กระบี่ต้องโกอินเตอร์” เมืองปลอดภัย ปลอดสิ่งเสพติด สร้างรายได้ยั่งยืน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​