“ดีเอสไอ” รับคดี “ตึกสตง.” ถล่ม เป็นคดีพิเศษ พุ่งเป้าสอบความผิด 3 ประเด็นหลัก

ดีเอสไอ ระบุ ขั้นตอนหลังรับคดีตึกสตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ ฐานานุรูปบริษัทไทยร่วมค้าไม่น่าเชื่อถือ เตรียมเรียกสอบปากคำผู้ถือหุ้นใหญ่ ในประเด็นทำการเป็นนอมินี เชื่อมโยงเรื่องฮั้วประมูล อาจเชิญตำรวจเข้าร่วมคณะกรรมการสอบสวน ยันไม่กังวลการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงแม้จะเป็นบริษัทต่างชาติและมีความสัมพันธ์กับคนในภาครัฐ

“ดีเอสไอ” รับคดี “ตึกสตง.” ถล่ม เป็นคดีพิเศษ พุ่งเป้าสอบความผิด 3 ประเด็นหลัก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2 เม.ย. 2568 พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ยืนยันว่า กรณีที่พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปมข้อสงสัย อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวว่า เข้าข่ายเป็นนอมินีของบริษัทต่างชาติก่อสร้างจนเป็นเหตุดังกล่าวว่า ทำให้ดีเอสไอต้องเข้าไปสืบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว เนื่องจากพบเงื่อนไขที่เข้าลักษณะความผิดท้ายบัญชี ตามพระราชบัญญัติคดีพิเศษ ที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณารับเข้าคดีพิเศษได้โดยไม่ต้องเข้าบอร์ดพิจารณา เช่น มีต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจ หรือเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเกินกว่า 100 ล้านบาท โดยรับเป็นคดีพิเศษ เลขที่ 32/2568

โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยมีรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหัวหน้าคณะ และมีกองที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความผิด ประกอบด้วย 1. นอมินี 2. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และ 3. การเสนอราคาหรือฮั้วประมูล ซึ่งยืนยันว่า ความผิดที่ชัดเจนมากที่สุดคือเรื่อง นอมินี

 

ซึ่งความหมายของคำว่า นอมินี คือไม่ใช่ตัวจริง ที่แม้จะพบว่ามีคนไทยถือหุ้นอยู่ร้อยละ 51 แต่ก็ต้องไปตรวจสอบกลุ่มนี้ว่า การถือหุ้นจำนวนดังกล่าวสอดคล้องกับฐานานุรูปหรือไม่ เพราะบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจขนาดใหญ่และมีมูลค่ามาก โดยพบว่าคนไทยกลุ่มนี้ยังถือหุ้นกับบริษัทอื่นไม่ต่ำกว่า 3 บริษัทในเครือ จากทั้งหมด 13 บริษัท โดยจะต้องตรวจสอบเส้นทางการจดทะเบียน ประกอบธุรกิจ กรรมการผู้ถือหุ้น และตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทที่ได้งานประมูลโครงการภาครัฐและอื่น ๆ ว่าเข้าข่ายฮั้วประมูลหรือไม่

 

 

ส่วนความผิดเรื่อง สมอ. ที่จะต้องตรวจสอบการ ก่อสร้างทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องเหล็ก แต่ในรายละเอียดอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานโดยผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่เรื่องฮั้วประมูล ต้องไปดูเรื่องการเทียบราคากลาง และบริษัทคู่เทียบว่า มีจริงหรือไม่ ซึ่งมันจะต้องสืบสวนข้อเท็จจริงจากคดีนอมินีก่อน

สำหรับกรณีที่พนักงานสอบสวน สน. บางซื่อ มีการรวบรวมพยานหลักฐาน เป็นแฟ้มที่ชาวจีนลักลอบขนออกจากไซต์งาน หลังวันเกิดเหตุ จำนวน 37 แฟ้ม จะต้องตรวจสอบดูก่อนว่า พนักงานสอบสวนมีการรับเป็นสำนวนแล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่ได้รับเป็นสำนวน ดีเอสไอก็สามารถเอาเอกสารดังกล่าวมาสอบสวนเองได้ แต่ถ้าหากพนักงานสอบสวนรับเป็นคดีแล้ว ก็สามารถให้ตำรวจเข้ามาเป็นคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษร่วมด้วยได้ นอกจากนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับวิศวกรก่อสร้าง ที่ใช้วีซ่านักศึกษาแต่กลับเข้ามาประกอบอาชีพวิศวกร จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด

ส่วนกรณีเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำ ดีเอสไอ กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และประสานกรมสรรพกร เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะกำหนดไทม์ไลน์และเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำต่อไป

ทั้งนี้ ดีเอสไอยืนยันว่า ไม่ได้กังวล เรื่องการสืบสวนขยายผลเรื่องอาคารตึกถล่ม แม้มีกระแสข่าวว่าบริษัทที่ก่อสร้างอาคาร สตง. มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน และน่าจะเป็นอุปสรรคในการสืบสวนหรือไม่ ยืนยันว่าจะดำเนินการตามข้อเท็จจริงทั้งหมด หากผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อละเว้น ส่วนกรณีที่บริษัทดังกล่าว มีความสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐ ก็ย้ำว่า ไม่เป็นอุปสรรค เพราะดีเอสไอมีหน้าที่พิสูจน์ความจริงให้ปรากฎ ส่วนการที่อาคารถล่มในครั้งนี้ ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุภัยพิบัติ หรือ ข้อผิดพลาดจากการก่อสร้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​