“ภาคเอกชน” ชี้นายกฯผ่านศึกซักฟอก สร้างเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่ม ฝากเร่งแก้ปัญหาส่งออก ห่วงมาตรการสหรัฐกีดกันสินค้ากระทบหนัก

"ภาคเอกชน" ชี้นายกฯผ่านศึกซักฟอก สร้างเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่ม ฝากเร่งแก้ปัญหาส่งออก ห่วงมาตรการสหรัฐกีดกันสินค้ากระทบหนัก

“ภาคเอกชน” ชี้นายกฯผ่านศึกซักฟอก สร้างเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่ม ฝากเร่งแก้ปัญหาส่งออก ห่วงมาตรการสหรัฐกีดกันสินค้ากระทบหนัก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

27 มีนาคม 2568 ที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยก่อนเข้าประชุมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และบริษัทผู้ส่งออกและนำเข้าข้าวในแอฟริกาใต้ ถึงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับมติไว้วางใจในการอภิปรายที่ผ่านมาว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี และหมายถึงว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ทำให้การดำเนินการต่อไปข้างหน้าจะมีความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนมาขึ้น โดยถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศไทย และตนคิดว่า การผ่านมติอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ของรัฐบาล จะนำไปสู่การลงทุนที่ดีขึ้นจากต่างประเทศเข้ามาส่วนหนึ่ง

 

 

ขณะเดียวกัน มองว่า สิ่งที่จะฝากรัฐบาลทำต่อจากนี้ คือการแก้ไขเรื่องการส่งออก รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า หลายประเทศอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาได้มีนโยบายที่ค่อนข้างจะกีดกันเรื่องการค้า ผ่านกำแพงภาษี จึงอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือภาคเอกชนผ่านการเจรจาอย่างเร่งด่วน เพราะเข้าใจว่าได้มีบางประเทศ ที่มีการเจรจากับสหรัฐฯไปแล้ว ส่วนประเทศไทยยังไม่ได้ไปเจรจาโดยตนมองว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำ ในการส่งเสริมการส่งออก ซึ่งภาคการส่งออกของประเทศไทยถือว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับจีดีพีของประเทศ เพราะเกี่ยวข้องกับการว่าจ้างแรงงานและเรื่องต่าง ๆ ค่อนข้างมากจึงอยากของฝากทางภาครัฐไว้

นายชูเกียรติ กล่าวว่า การมาเยือนแอฟริกาใต้ของกระทรวงพาณิชย์ และการออกหาตลาดในต่างประเทศ ถือเป็นหนึ่งที่รัฐบาลมาถูกทาง ด้วยวันนี้นานาประเทศเร่งหาตลาดส่งออก และ นำเข้าสินค้า อาจมากกว่าปกติ เพื่อการสต็อกความมั่นคงทางอาหาร ก่อนผลกระทบขึ้นภาษีนำเข้าจะส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งในด้านการค้า การผลิต และการจ้างงาน สุดท้ายส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีการอภิปรายครั้งนี้ ภาคเอกชนมองว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.หรือไม่ นายชูเกียรติ มองว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ รัฐบาลยังไม่จำเป็นที่จะต้องปรับคณะรัฐมนตรี แต่ในแง่การเมืองตนไม่ทราบว่า จะมีการสลับปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่ แต่ในมุมมองของภาคเอกชน มองว่า ทุกคนสามารถรับผิดชอบได้ดีในส่วนหนึ่ง และในแง่การเมืองเอกชนก็ตอบไม่ได้ว่าจะมีการปรับครม.หรือไม่อย่างไร

 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รัฐบาลมีแนวโน้มจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน จะส่งผลต่อภาคธุรกิจมากน้อยแค่ไหน นายชูเกียรติ ระบุว่า จะต้องดูว่าการปรับค่าจ้างของรัฐบาลเป็นเซกเตอร์ใดบางที่จะสามารถปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นได้ และยอมรับว่าการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาทต่อวัน จะทำให้ต้นทุนการผลิตแพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการลดต้นทุนตรงจุดนี้ผู้ประกอบการก็อาจจะต้องเลิกจ้างแรงงาน จยทำให้เกิดผลกระทบต่อการว่าจ้างแรงงาน และอาจทำให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาหรือหารือร่วมกันอีกครั้ง

แต่ทั้งนี้หากมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราที่ไม่สูงมากนัก และภาคเอกชนสามารถอยู่ได้ ตนก็เชื่อว่า รัฐบาลสามารถทำได้ แต่จะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบ โดยการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่ 400 บาทต่อวัน ภาคเอกชนยังมองว่า พอไหวอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เช็กเสียงขั้วการเมือง รบ.อิ๊งค์เหนื่อย หากภท.เป็นฝ่ายค้าน
"กรวีร์" ไม่อยู่เฉยๆ โพสต์เตือนสติราชสีห์ เคยต้องพึ่งหนู สะพัดภูมิใจไทย โดนพท.บีบหนัก ต้องตอบรับเงื่อนไข สลับกระทรวงมท.หรือไม่ ภายใน 48 ชม.
"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น