ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07:00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 63.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.
ฝุ่นยังคลุ้ง เปิด 12 เขต ค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 พุ่งสูงสุด ควรสวมหน้ากากอนามัย
ข่าวที่น่าสนใจ
โดย 12 เขตที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
- 1 เขตคลองเตย 82.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 2 เขตหนองจอก 80.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 3 เขตลาดกระบัง 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 4 เขตบางนา 78.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 5 เขตบางขุนเทียน 76.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 6 เขตมีนบุรี 74.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 7 เขตบึงกุ่ม 72.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 8 เขตคันนายาว 71.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 9 เขตบางกอกน้อย 71.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 10 เขตภาษีเจริญ 71.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 11 เขตคลองสามวา 70.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- 12 เขตราษฎร์บูรณะ 70.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ภาพรวมนั้น กรุงเทพเหนือ 50.5 – 65.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพตะวันออก 62.6 – 80.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพกลาง 51.7 – 64.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพใต้ 62.5 – 82.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงธนเหนือ 57.8 – 71.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงธนใต้ 54.4 – 76.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังแนะนำประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
