ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ “ผู้จัดหาบัญชีม้า” แก๊งลวง “ชาล็อต” กว่า 4 ล้านบาท

ต่อมา วันที่ 22 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. 3 บก.สอท.1 จึงได้สืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนางจันทร์ทา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6294/2567 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2567 ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ ด้วยการขู่เข็ญ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือ ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ , เป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการขายบัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใดและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” โดยจับกุมตัวพร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือและซิมโทรศัพท์อีก 2 ซิม ได้ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บางศรีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

สอบสวนเบื้องต้นนางจันทร์ทา รับสารภาพว่า เคยถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชีและไปสแกนหน้าที่ประเทศกัมพูชามาก่อน หลังจากที่บัญชีถูกอายัดแล้ว จึงเดินทางกลับมาประเทศไทย แต่ก็ยังติดต่อกับผู้ร่วมขบวนการที่รู้จักกันที่กัมพูชาอยู่ จึงผันตัวมาเป็นคนกลางผู้รวบรวมบัญชีม้า แล้วส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านแทน

ด้านพล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าวพบว่า ปลายทางเส้นเงินของชาล็อตไปอยู่ที่ชาวต่างชาติซึ่งเป็นชาวเอเชียประเทศเพื่อนบ้านรายหนึ่ง โดยพบว่า เป็นเส้นเงินที่ถูกแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลของชาล็อต 800,000 บาท และของเคสหลานอายุ 17 ปีกับย่าจำนวน 3.4 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับบุคคลดังกล่าวแล้ว ซึ่งคาดว่า หากสามารถจับกุมได้ก็จะติดตามเงินดิจิทัลกลับคืนมาได้ทั้งหมด