สาวสุดทน เข้าร้องสายไหมต้องรอด ถูกอดีตพระวัดดัง ตามรังควานนาน 7 ปี แจ้งความ-ฟ้องศาล ยังไม่หยุด

สาวสุดทน เข้าร้องสายไหมต้องรอด ถูกอดีตพระวัดดัง ตามรังควานนาน 7 ปี แจ้งความ-ฟ้องศาล ยังไม่หยุด

Top news รายงาน วันนี้ ( 16 พ.ย.) น.ส.สุรัชรฐา เชียงยศ อายุ 30 ปี เข้าร้องเรียน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีที่ตนเอง อดีตชายที่เคยคบหาและเลิกรากันไป ตามรังควานไม่เลิก นาน 7 ปี โดยผู้เสียหาย เคยแจ้งความและดำเนินคดีจนถึงชั้นศาล แต่คู่กรณีก็ยังสร้างเฟซบุ๊กใหม่กว่า 20 บัญชี เพื่อใช้เป็นเครื่องมอในการติดตามคุกคามตนเอง จนทนไม่ไหวต้องตัดสินใจเข้าร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอดเพื่อขอความช่วยเหลือ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.สุรัชรฐา เล่าว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อตอนที่ตนเองอายุ 20 ปี และเริ่มไปปฏิบัติธรรม ที่วัดป่าแห่งหนึ่ง ในจ.ลำพูน และได้พบกับชายคู่กรณี ซึ่งขณะนั้นยังบวชเป็น ขณะนั้นยังเป็นพระอยู่ โดยคู่กรณีได้ทำทีเข้ามาพูดคุยตีสนิท และมีการขอเบอร์โทรศัพท์ตัวเองจากผู้ที่ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน กระทั่งปี 2560 ชายคนดังกล่าวได้ลาสิกขาและมีการติดต่อพูดคุยมาตลอด และได้ออกอุบายไหว้วานให้ตนพาไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อนจะฉวยโอกาสก่อเหตุข่มขืนตนเอง จนในที่สุดตนต้องยอมคบหาและไปมาหาสู่กันเป็นประจำ แต่หลังจากนั้น ฝ่ายชายก็เริ่มออกลาย ด้วยการอ้างชื่อตัวเองไปกู้ยืมเงิน และไปเล่าให้ผู้อื่นฟังว่าตนป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้องสึก และข่มขู่ให้ตัวเองส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนไม่เช่นนั้นจะตามรังควาน

 

 

 

 

น.ส.สุรัชรฐา กล่าวว่า หลังถูกรังควานรีดไถ บ่อยครั้งตนก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจฟ้อง 2 ศาล ทั้งแพ่งและอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ละเมิด และเรียกค่าเสียหาย และเป็นฝ่ายชนะคดีทั้งหมด ทำให้ฝ่ายชายกลับไปบวชใหม่อีกหลายครั้ง ตนจึงตัดสินใจแจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพราะฝ่ายชายไม่ได้ชดใช้ค่าเสียหายตามที่ศาลสั่ง จึงโดนไล่ออกจากวัดและโดนจับสึก จึงโกรธแค้นตามคุกคามตนเองแบบไม่เลิกรานาน 7 ปี ตนพยายามบล็อกช่องทางติดต่อกับฝ่ายชายทุกช่องทาง แต่ฝ่ายชายก็สร้างเฟซบุ๊กใหม่มา 21 บัญชี เพื่อคุกคามตัวเอง จึงมาร้องกับสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยเหลือ

 

ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้จะให้ทนายความไปยื่นเรื่องต่อศาล เนื่องจากฝ่ายชาย ได้ละเมิดคำพิพากษาของศาล ซึ่งจะให้ศาลเป็นผู้พิจารณาในความผิดที่เกิดขึ้น ส่วนเงินที่ศาลสั่งให้ชดใช้ก็ต้องดำเนินการเพราะเป็นเหตุบรรเทาโทษในคดีอาญา แต่สุดท้ายอยากฝากบอกฝ่ายชายให้หยุดพฤติกรรมคุกคามดังกล่าว เพราะเหตุการณ์ผ่านมาหลายปีแล้ว และการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ภราดร" เผยความพร้อม​รองรับประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ แบ่งเป็น​ 3 รอบ​ คาดรองรับได้ 30,000 คนต่อวัน ประสานทุกหน่วยอำนวยความสะดวก พร้อมมอบมหาดไทยจัดคิวต่างจังหวัดเรียงตามอักษร
สถานทูตจีนเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ ชัยภูมิ-จีน พร้อมมอบความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมชัยภูมิ 1,000 ครัวเรือน
"ในหลวง-พระราชินี" เสด็จทอดพระเนตร การแสดงโขนรอบปฐมทัศน์ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน "สัตยาพาลี"
กระทงข้าวโพดอาหารปลาปีนี้ กระแสทหารไทย รถถัง ปราสาทตาควาย ตาเมืองธม มาแรง
เทศบาลนครโคราช มอบรถดับเพลิงและกู้ภัยขนาดเล็กเคลื่อนที่เร็ว แก่งานป้องกันฯ
อบต.คลองประสงค์ เปิดศูนย์เด็กเล็กแห่งใหม่

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​