“ประเสริฐ” เตือน “ขายบัญชีม้า” โทษหนักคุก 3 ปี  จับแล้ว 2,897 ราย

“ประเสริฐ” เตือน “ขายบัญชีม้า” โทษหนัก จำคุก 3 ปี เผยในรอบ 1 ปี (ต.ค.66 - ก.ย.) จับแล้ว 2,897 ราย ขณะสถิติระงับบัญชีม้าถึง ตุลาคม 2567 รวมกว่า 1,100,000 บัญชี ลุยขยายผลต่อเนื่อง

“ประเสริฐ” เตือน “ขายบัญชีม้า” โทษหนักคุก 3 ปี  จับแล้ว 2,897 ราย – Top News รายงาน

ประเสริฐ

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากมาตรการการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับมาตรการการตรวจสอบและปราบปรามบัญชีม้า ซึ่งเป็นช่องทางหลักการหลอกลวงรับเงินของมิจฉาชีพ กระทรวงดีอี ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการระงับบัญชีม้า ตัดเส้นทางการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีสถิติการระงับบัญชีม้าจนถึง ตุลาคม 2567 รวมกว่า 1,100,000 บัญชี พร้อมกับการขยายผลดำเนินการจับกุมเจ้าของบัญชีม้าอย่างเข้มข้น

ทั้งนี้สถิติผลการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้าที่เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 พบว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนกันยายน 2567 (12 เดือน) มีจำนวนรวม 2,897 ราย เฉพาะในเดือนกันยายน 2567 มีจำนวน 497 ราย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมา อาจเห็นว่าการขายบัญชีธนาคารเป็นวิธีการที่ได้เงินมาง่าย และไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย โดยไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากบัญชีธนาคารดังกล่าวถูกนำไปใช้โดยกลุ่มมิจฉาชีพ ต่อมาเมื่อรัฐบาลออก พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เพื่อกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยได้กำหนดโทษของการยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ หรือที่เรียกว่า บัญชีม้า จะถูกดำเนินคดี ตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และยังอาจถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีนั้นไปใช้ ในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด และอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้เสียหาย

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินงานการตามนโยบายปราบปรามภัยออนไลน์ของรัฐบาล เพื่อลดปัญหา พยายามหยุดการหลอกลวงที่สร้างความเสียหายจากบัญชีม้า ซึ่งต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทย ได้พิจารณายกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน โดยออกเป็นหนังสือเวียน เลขที่ ธปท.ฝตท. (01) ว. 384/2567 แจ้งต่อสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ทุกแห่ง ให้ถือเป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน เรื่อง การเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการบัญชีเงินฝาก หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีลูกค้ามีความเสี่ยงสูงหรือใช้บัญชีที่มีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดปกติ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เพื่อเป็นการจัดกลุ่มบัญชีม้า โดยยกระดับการจัดการ “บัญชี” เป็นระดับ “บุคคล” (ระงับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกบัญชี ทุกธนาคาร ถ้ามีชื่อว่าเป็นผู้ขายบัญชี ให้คนร้าย หรือ บัญชีม้า) และดำเนินการเข้มข้นขึ้นทั้งบัญชีในปัจจุบันและการเปิดบัญชีใหม่

 

“นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องปราบโจรออนไลน์ จึงขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า การขายบัญชีธนาคารไม่ว่าจะในรูปแบบใด มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ทั้งนี้หากหลงเชื่อขายบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว ให้รีบติดต่อกับธนาคารเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อไม่ให้มีรายชื่ออยู่ในลิสต์ว่าขายบัญชี และถูกระงับทุกบัญชีธนาคารของทุกธนาคารที่มี รวมทั้งไม่ให้ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีไปใช้ ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด” นายประเสริฐ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สระแก้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอรัญประเทศเก็บสายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าไปยังกัมพูชา
"อนุทิน" เตือนอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ อย่าสุ่มสี่สุ่มห้า เพิกถอนโฉนดเขากระโดง ย้ำอย่าใช้ราชการกลั่นแกล้ง ลั่นไทยไม่สงบสุข เพราะคนแบบนี้
“กรมบังคับคดี” เชิญร่วมสัมผัสนวัตกรรมบริการและมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ ในงานมหกรรมการเงินโคราช “MONEY EXPO 2025” ครั้งที่ 19
เมืองคอนมอบป้ายรับรองแก่ผู้ประกอบการร้านอาหารที่ผ่านการรับรองคุณภาพภายใต้สัญลักษณ์ Q
"รอง ผบ.ตร." เปิดปฏิบัติการกวาดล้าง "พระนอกรีต" จับแล้ว 154 ราย บางรูปไม่ยอมสึก สำนักพุทธฯ ยันให้ความร่วมมือตำรวจ 100%
"กองทัพบก" ส่งคลิปรถแทรกเตอร์ไทย เดินหน้าลุยล้างป่าช่องอานม้าแล้ว เร่งเคลียร์หน้าดินเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​