สุดงง “คณะก้าวหน้า” จี้นิรโทษคดี 3 นิ้ว อ้างปลดปล่อยศักยภาพเศรษฐกิจ

“เบญจา” รับหน้าที่ตัวแทนมูลนิธิคณะก้าวหน้า ใช้เวทีรำลึก 51 ปี 14 ตุลา จี้เขียนรธน.ใหม่ นิรโทษกรรมคนหนุ่มสาว อ้างปลดปล่อยศักยภาพเศรษฐกิจ

สุดงง “คณะก้าวหน้า” จี้นิรโทษคดี 3 นิ้ว อ้างปลดปล่อยศักยภาพเศรษฐกิจ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

14 ตุลาคม 2567 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว คณะกรรมการมูลนิธิ 14 ตุลา จัดงานรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 ครบรอบ 51 ปี นางสาวเบญจา แสงจันทร์ อดีต สส.พรรคก้าวไกลในฐานะตัวแทนมูลนิธิคณะก้าวหน้า กล่าวรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลาตอนหนึ่งว่า หลายปีที่ผ่านมาหลักการประชาธิปไตยถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย วันนี้เรามีเยาวชนถูกดำเนินคดีมากกว่า 2 พันคดี นี่คือยุคที่เรามีคดีการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ สิ่งนี้เป็นระเบิดเวลารอวันปะทุ ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ไม่ถอนฝืนออกจากกองไฟ เราจะเดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างไร ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะตั้งหลักกันใหม่ เพื่อแสวงหาฉันทามติสังคมฟื้นฟูนิติรัฐให้เกิดขึ้นจริง สิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันผลักดันให้สำเร็จในเวลานี้ ไม่มีเส้นทางอื่น นอกจากการเปิดทางให้ประชาชนจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แทนที่ฉบับรัฐประหาร และยุติการทำนิติสงครามกับประชาชน หันมาใช้กลไกทางการเมืองปกติ เปิดพื้นที่พูดคุยกันเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งที่ผ่านมา และสิ่งที่จะนำไปสู่จุดนั้นได้คือการพิจารณานิรโทษกรรมประชาชนจากคดีการเมืองทั้งหมด นี่คือการเปิดประตูบานแรก เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในอดีต

 

 

 

นางสาวเบญจา กล่าวอีกว่า ตนขอส่งเสียงนี้ไปยังคนเดือนตุลา ที่นั่งอยู่ในทำเนียบเวลานี้ ครั้งหนึ่งท่านเคยเข้าป่าจับอาวุธต้องโทษด้วยคดีร้ายแรง ดังนั้นตนขอส่งเสียงนี้ไปยังรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีทุกท่าน ท่านเองเคยผ่านวังวนความขัดแย้งยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ผ่านการบาดเจ็บล้มตายของประชาชน ตนขอย้ำเตือนท่านอีกครั้งว่าท่านเคยกล่าวเอาไว้ ว่าท่านปรารถนาที่จะเห็นคนหนุ่มสาวที่ยังติดคุกอยู่ในเวลานี้ ได้รับอิสรภาพและคนที่ลี้ภัยทางการเมืองได้กลับบ้าน อย่าปล่อยให้คนกลุ่มสาวรุ่นนี้อยู่กับคดีความและจำขังต่อไป ส่งมอบสิ่งที่ดีให้กับพวกเขา นำไปสู่การปรองดองได้ในที่สุด การนิรโทษกรรมสำหรับตนคือการปล่อยลูกหลานของพวกเราทุกคน นี่คือการปลดปล่อยศักยภาพทางเศรษฐกิจ และหยุดกักขังความคิดของเยาวชน

 

 

นางสาวเบญจา ยังอ่านรายชื่อแนวร่วมม็อบ 3 นิ้วที่เป็นผู้ต้องขังในระหว่างพิจารณาคดี จำนวน 24 คน อาทิ ทนายอานนท์ ,เก็ท โสภณ ,บัสบาส มงคล และที่คดีสิ้นสุดแล้ว 17 คน พร้อมทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนทุกฝ่ายช่วยกันพาประเทศเดินออกจากเมฆหมอกอันมือมิดยาวนาน ช่วยกันเปิดประตูบานแรก เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในตลอดหลายปีที่ผ่านมา คืนความยุติธรรมให้กับประชาชนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองด้วยกระบวนการที่ไม่ชอบธรรม นี่คือก้าวแรกของการคืนความปกติให้สังคมไทย ให้ประชาชนยังเชื่อมั่นได้ว่าพวกเรายังสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าใครจะมีความคิดความเชื่อความฝันที่แตกต่างกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานสิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน
นายกฯ สุพิศ เปิดการแข่งขันกีฬาต้านภัยสิ่งเสพติด
ทต.กาบเชิง ติดธงชาติแนวตั้งบนเสาไฟเกาะกลางถนน ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขณะที่ชายแดนตึงเครียด ชาวบ้านหวั่นปะทะรอบ 2
"คืนชีวิตให้คลองบางเหรียง" ร่วมอนุรักษ์แม่น้ำ สร้างสุขให้ชุมชน
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน ช่วยชาวเพชรบูรณ์
ชาวบ้านเฮ! เดินหน้าโครงการสะพาน หลังเวทีประชาคมเคาะแบบใหม่ ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​