ถึงเวลารุกฆาต “ไพบูลย์” ไม่เอาไว้ จัดหนักฟ้องคนปล่อยคลิปลุง ซัดแรงดักฟัง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง

ถึงเวลารุกฆาต "ไพบูลย์" ไม่เอาไว้ จัดหนักฟ้องคนปล่อยคลิปลุง ซัดแรงดักฟัง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง

ถึงเวลารุกฆาต “ไพบูลย์” ไม่เอาไว้ จัดหนักฟ้องคนปล่อยคลิปลุง ซัดแรงดักฟัง ทำเสื่อมเสียชื่อ

 

 

 

จากกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จะยื่นฟ้องดำเนินคดีนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้จัดรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand , รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ต่อศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเสียงของตน ทำให้ตนเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และคลิปเสียงดังกล่าวมีที่มาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายดนัย ได้นำคลิปเสียงเผยแพร่ผ่าน รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9

โดยตนจะยื่นฟ้องนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ , รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ และ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT ต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท และ ในวันจันทร์ที่ 16 ก.ย.ตนจะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ที่เผยแพร่คลิปเสียงที่มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมายขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อขอให้ กสทช.มีคำสั่งให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ระงับการออกอากาศรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ตาม มาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์นั้น

 

 

ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ย.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มาเปิดใจ พูดคุยถึงประเด็นนี้ ผ่านทาง รายการ TOP TALK “เรื่องนี้ต้องเคลียร์” ทางช่อง Top News ดำเนินรายการ โดยวรเทพ สุวัฒนพิมพ์

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนายไพบูลย์ เล่าว่า นอกจากข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ยังจะฟ้องบุคคลทั้ง 3 ในข้อหากระทำความผิด ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อ 1 ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผย ข้อความนั้นต่อผู้อื่น โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เพิ่มในคำฟ้องเป็นอีกฐานความผิดด้วย

ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด บัญญัติว่า “โดยที่ในระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการลักลอบดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความที่มีการ ติดต่อทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการละเมิดเสรีภาพของ บุคคลในการสื่อสารถึงกัน ก่อให้เกิดความหวาดระแวงกันทั่วไปในหมู่ประชาชนผู้ใช้เครื่องมือสื่อสาร ดังนั้น เพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยชอบด้วยกฎหมายและเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและรักษาความสงบของประเทศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

 

 

 

คนปล่อยคลิป ผิดเต็ม ๆ ฐานมาดักฟัง ผมเองเป็นนักกฎหมายแท้ ๆ พลาดท่าได้ยังไงไม่รู้ ไม่เคยรู้เลย ว่ามาฟังตอนไหน ทำผมเสียชื่อเสียง จำเป็นต้องฟ้อง โดยจะเรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน และฟ้องความผิดทางอาญาด้วย ก็ฟ้องคุณดนัยก่อนเลย เพราะเสียงมันมาออกผ่านทางรายการที่เขาดำเนินรายการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มงคลสูงสุด "ผ้าปักชนเผ่าเมี่ยน บ้านทุ่งจี้” คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ผ้าลายพระราชทาน “สิริราชพัสตราภรณ์”
สมุทรปราการ มนัส หน.พรรคแรงงานสร้างชาติ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต เพิ่มอีก 7 จังหวัด เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง
พ่อพลทหารที่เสียชีวิตปฎิบัติหน้าที่แนวชายแดน ไทย กัมพูชา ยังติดใจหลังทราบข่าวทหารถอนอาวุธหนักออกจากชายแดน
เตือน! ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ แก่งเกาะใหญ่ หลังน้ำป่าหลาก-กระแสน้ำเชี่ยวแรง
“ถ้ำพระยานคร” มรดกธรรมชาติสะท้อนพระราชปณิธานสีเขียวของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
บก.ท็อปนิวส์ ทั่วไทย(ภาคเหนือ) ร่วมกับพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศ ทอดกฐินสามัคคี ที่วัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​