“อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว” ร้อง กกต.ยุบ “6 พรรคการเมือง” แกนนำรบ. ส่อถูกคนภายนอกครอบงำ

อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาวร้อง กกต.ยุบ 6 พรรคการเมือง ฐานเข้าพบ “ทักษิณ” ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ส่อถูกคนภายนอกครอบงำ

“อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว” ร้อง กกต.ยุบ “6 พรรคการเมือง” แกนนำรบ. ส่อถูกคนภายนอกครอบงำ – Top News รายงาน

อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อขอให้พิจารณายุบ พรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย ร่วมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ และ พลังประชารัฐ สืบเนื่องจากพรรคเหล่านี้เดินทางเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นบุคคลภายนอกพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 21, 28, 29 และมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) หลักเกณฑ์การยุบพรรค ข้อ 11 ความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง มาตรา 93

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายนพรุจ กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่าน มีการแจ้งกับสื่อมวลชนว่าบ้านจันทร์ส่องหล้าที่เป็นบ้านพักของนายทักษิณ ได้เรียกบุคคลเข้ามาพบปะ ซึ่งก็ปรากฏเป็นข่าวและมีภาพของสื่อว่ามีหัวหน้าพรรคดังกล่าว และบุคคลหลายคนเข้าพบนายทักษิณ แม้ว่านายทักษิณจะกระทำการโดยอ้างว่าเป็นบิดาของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งอยู่ระหว่างการไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ โดยนายทักษิณก็ได้เรียกรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ เข้าพบเพื่อผลักดัน นาชัยเกษม นิติสิริ เป็นว่าที่นายกฯคนที่ 31 ซึ่งมีมติอย่างนั้นตามที่เป็นออกมา นั่นเป็นหลักฐานที่ตนยื่นในวันนี้ด้วย ส่วนกรณีที่ยื่นยุบพรรคเพื่อไทยนั้นก็เป็นประจักษ์ว่านายทักษิณเป็นบิดาของ นางสาวแพทองธารที่เป็นหัวหน้าพรรค

 

นายนพรุจ กล่าวอีกว่า ฉะนั้นการกระทำการใดๆ ของนายทักษิณ เสมือนเป็นการกระทำของพ่อและลูก และเป็นการกระทำที่เข้าข่ายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 ที่พรรคจะต้องไม่ยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้ามาควบคุม ครอบงำ สั่งการ ทำให้พรรคไม่สามารถดำเนินการไปได้อย่างอิสระ และประกอบมาตรา 29 โดยนายทักษิณเป็นบุคคลภายนอกของพรรค การเข้าไปแทรกแซง หรือกระทำการใดๆ จนเป็นที่สงสัยว่านายทักษิณเป็นเจ้าของพรรคเองหรือไม่ หรือเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคหรือไม่ จึงมายื่นหนังสือให้ กกต.ได้พิจารณา อีกทั้งมีมาตราที่เกี่ยวข้องคือมาตรา 21 ที่ว่าการกระทำใดๆ จะต้องได้รับมติของพรรค และการกระทำของพรรค ซึ่งประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรค จะต้องกระทำไปด้วยความรอบคอบ ซื่อสัตย์ สุจริต และมีจริยธรรม ธรรมาภิบาลทุกครั้ง เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'เฮลิคอปเตอร์'ฝีมือจีน โชว์บินผาดโผนในเทียนจิน
ไทย-เมียนมาร่วมใจ สานสัมพันธ์ทอดกฐินวัดหัวกรูด
ชาวพุทธนับหมื่นร่วมทอดกฐินวัดเขาโร ยอดบุญเกือบ 2 ล้านบาท 
พรรคไทยชนะลุยอีสาน ตั้งตัวแทนจังหวัดสกลนคร ปักธงขยายเครือข่าย เตรียมพร้อมเลือกตั้งใหญ่
“สี่สมาคมยูนนานทั่วไทย” ร่วมหารือใหญ่ ครั้งที่ 3
น้ำเงินชนะลอยลำ ผลเลือกตั้งซ่อมกาญจนบุรี เขต 4 "วิสุดา" ภูมิใจไทย คะแนนทิ้งห่าง "ชินวัฒน์" เพื่อไทยกว่า 15,000 คะแนน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​