วันที่ 21 ก.ย. -พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม คณะรัฐมนตรีแบบเต็มคณะที่ ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทําเนียบรัฐบาล โดยวันนี้วาระการพิจารณาแก้ไขสถานการณ์โควิด 19 ครม.เตรียมรับทราบความคืบหน้าโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันที่ 24 กันยายน 2564 โดยเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com มีการโพสต์ เตรียมพบกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟสใหม่เร็ว ๆ นี้แล้ว ซึ่งสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้น พบว่า สิทธิที่พักเหลือจำนวน 5,000,000 สิทธิ และสิทธิตั๋วเครื่องบินเหลือ 2,000,000 สิทธิ
ครม.เตรียมอนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉิน หรือจําเป็น ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อดําเนินโครงการพัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 5 พร้อมทั้งเตรียมพิจารณาร่างพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ. …. ที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแก้ไข เพื่อนำมาทดแทนการพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายนนี้ รวมถึงในกฎหมายฉบับนี้ จะรวมไปถึงการคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษา ดูแลผู้ป่วย เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19
ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากร ศุลกากรตามาตรา 12 แห่งพระราชกําหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสําหรับของที่นําเข้า มาเพื่อผลิตเป็นหน้ากาก รวม 2 ฉบับ ซึ่งว่าด้วยเรื่องการขยายระยะเวลามาตรการยกเว้น อากรขาเข้าสินค้าที่มีความจําเป็นเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 รวมถึง กระทรวงการคลัง จะเสนอการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ เนื่องจากโครงสร้างภาษีใหม่ จะต้องมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยการปรับโครงสร้างนี้ จะทำให้ราคาบุหรี่ในประเทศไทยแพงขึ้น
นอกจากนี้กระทรวงการคลัง จะนำมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังที่เห็นชอบให้ทบทวนกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 60% เป็นไม่เกิน 70% เพื่อเพิ่มพื้นที่ทางการคลังให้กับรัฐบาลและไม่เป็นอุปสรรคหากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อดำเนินนโยบายการคลังในระยะปานกลาง โดยขณะนี้รัฐบาลยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี