บีบหัวใจ “พ่อ-แม่” แบกรูปลูกชาย ร้องหาความยุติธรรม หลังถูกกระบะชนดับสลด ผ่านมาร่วมปีคดีไม่คืบ คู่กรณีไม่เยียวยา

บีบหัวใจ "พ่อ-แม่" แบกรูปลูกชาย ร้องหาความยุติธรรม หลังถูกกระบะชนดับสลด ผ่านมาร่วมปีคดีไม่คืบ คู่กรณีไม่เยียวยา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา นายวิระ บุตรแสง อายุ 47 ปี อาชีพช่างซ่อมรถ และน.ส.วาธินี ดีพร้อม อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานทั่วไป เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.นที วุฒิภาธรณ์ สว.สอบสวน กก.1.บก.ป. หลังนายวีรชัย บุตรแสง ที่เป็นลูกชายเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไม่ได้รับความเป็นธรรม แจ้งความแล้วผ่านไป 1 ปี คดีไม่คืบ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวิระ เปิดเผยว่า ลูกชายตนอายุ 18 ปี เป็นลูกชายคนโตเรียนจบมัธยม 3 จึงขอตนพักการเรียนเพื่อออกมาทำงานหารายได้ช่วยตนส่งน้องสาวอีกคนเรียน จึงได้เริ่มทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอาหาร โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 8 ต.ค.66 บริเวณทางเข้าปั๊มแก๊ส NGV ปตท. ถ.วัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม เป็นช่วงที่ลูกชายเลิกงานกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ขณะนั้นได้มีรถกระบะขับเลี้ยวตัดหน้าแบบกะทันหัน ทำให้ลูกชายบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งรพ. ภูมิพลอดุลยเดช ก่อนเสียชีวิตลงในช่วงเช้าของวันเดียวกัน จากนั้นตนจึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สายไหม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกคู่กรณี (นายบุญช่วย แก้วบุตรวงศ์) มาสอบปากคำ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นายวิระ กล่าวต่อว่า ซึ่งคู่กรณีให้การว่าได้ขับรถยนต์มาตามถ.วัชรพล ในช่องทางที่ 2 นับจากซ้าย ทิศทางจากถ.เพิ่มสิน มุ่งหน้าไปทางถ.เทพรักษ์ เมื่อขับมาถึงบริเวณทางเข้าปั๊มแก๊ส NGV ปตท. ที่เกิดเหตุ ได้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าไปปั้มแก๊ส NGV ปตท. ระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์ของลูกชายตนขับขี่มาตามถ.วัชรพล ทิศทางจากถ.เทพรักษ์ มุ่งหน้าไปถ.เพิ่มสิน เป็นเหตุให้เกิดการชนโดนรถยนต์ของคู่กรณี ที่ช่วงท้ายรถข้างซ้าย ซึ่งตนมองว่าหากคู่กรณีขับมาทางช่องทางที่ 1 จะไม่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

นายวิระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซึ่งหลังจากแจ้งความดังกล่าวไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่าจะช่วยตามคดีให้ และจะนัดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย แต่ในวันงานศพของลูกชายตน คู่กรณีมาเพียงวันเดียวและได้บอกกับตนว่าจะให้เงินเยียวยาเป็นจำนวน 150,000 บาท แต่เมื่องานศพลูกชายเสร็จสิ้นคู่กรณีก็ได้หายขาดการติดต่อไป ขณะนี้ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ตนได้ไปตามคดีที่สน.สายไหม แต่ทางตำรวจได้แจ้งว่า “จะช่วยตามคดีให้แน่นอน ใจเย็นๆ ทางสน.ยังมีคดีอีกเยอะ ให้รอไปก่อน” ตนมองว่าคดีล่าช้าเกิน เนื่องจากเวลาผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว วันนี้จึงได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมต่อบก.ป.ให้ช่วยติดตามเร่งรัดคดีให้ ยืนยันว่าหากคดียีงไม่คืบอีก ตนจะไปยื่นฟ้องต่อศาลให้ดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

ด้านจ่าคิงส์ กล่าวว่า ตนจะพาผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.ต.นที วุฒิภาธรณ์ สว.สอบสวน กก.1.บก.ป. เพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องคดีและกฎหมาย ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เจ้อเจียงเปิดตัว 'แพลตฟอร์มท่องเที่ยว' พลัง AI
กกล.บูรพา รวบ 2 สาวไทย อ้างถูกหลอกทำงานปอยเปต เบื้องหลังรับจ้างข้ามแดนเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า" ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“50 ปีไม่มีแก่” คำนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับคุณอาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ศน. ต่อยอดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ตักบาตรทางน้ำริมคลองข้าวตอก จังหวัดพิจิตร” ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนเข้าวัด น้อมนำหลักธรรมดำเนินชีวิต
รมว.คลัง โต้ลือ "สหรัฐ" ตัดสินใจเก็บภาษีไทย 36% แจงเร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. นี้
"ศิริโชค" อดีตสส.สงขลา โพสต์อัปเดต จับมือลอบเผารถยนต์ได้แล้ว เร่งขยายผลผู้จ้างวาน ไม่หวั่นอิทธิพลมืด
เหยื่อร้อง Top News ถูกตัวแทนนายหน้าประกัน โกงค่าสินไหมอุบัติเหตุกว่าแสน เชื่อทำเป็นขบวนการ
"จีน-เมียนมา-ไทย" เห็นพ้อง ร่วมมือยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี
“นันทิวัฒน์” ตอกย้ำเขมร ปราสาท “ตาเมือนธม” เป็นของไทยตั้งแต่อดีต ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อกัมพูชา
เจอแล้ว! “รั้วกั้น-หมุดหลักเขต” นับ 100 หมุด ชี้ชัด 3 ปราสาทอยู่ในแผ่นดินไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น