ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ให้โอวาทแก่นายทหารใหม่ ตอนหนึ่งว่า

“ผมขอแสดงความยินดีกับนายทหารใหม่ ทุกท่านที่มุ่งมั่นพากเพียรฝากอบรม จนมีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนกองทัพบก ในการพิทักษ์รักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติต่อไปในอนาคต การที่ทุกท่านสมัครใจ  เข้ารับการศึกษาวิชาทหาร ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 จนสำเร็จการฝึกตามหลักสูตร แสดงให้เห็นถึงการมีจิตสำนึกในหน้าที่ของการเป็น พลเมืองที่ดีมีความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ อีกทั้งมีความเป็นผู้นำที่พร้อมด้วยความรู้และขีดความสามารถ ด้านการทหาร เป็นกำลังพลสำรองที่มีคุณภาพที่สามารถปฏิบัติภารกิจร่วมกับกำลังประจำการของกองทัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกท่านถือเป็นนายทหารคนหนึ่งและเป็นสมาชิกของกองทัพบกอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่อันมีเกียรติในการรับใช้ชาติ ในบทบาทของกำลังพลสำรองของกองทัพ ในยามที่ประเทศชาติ  และประชาชนต้องการ

นอกจากจะใช้วิชาความรู้ด้านการทหารตามหลักสูตรแล้ว จะต้องยึดมั่นในระเบียบวินัย รู้จักเสียสละ ประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ในการธำรงรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และความสงบสุขของประชาชน ตลอดจนมีส่วนรวมในการนำพาสังคมและประเทศชาติ ให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความเข้มแข็งต่อไป

สำหรับพิธีประดับเครื่องหมายยศร้อยตรี ให้กับนักศึกษาวิชาทหารที่สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 5 เป็นพิธีอันทรงเกียรติ ซึ่งยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมานานตั้งแต่ปี 2497 เป็นงานใหญ่ประจำปีที่กองทัพบกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก  เพราะถือเป็นการให้เกียรติกับนักศึกษาวิชาทหาร ผู้มีความวิริยะอุตสาหะ พากเพียรในการฝึกศึกษาจนครบทั้ง 5 ชั้นปี ส่งผลให้กองทัพบกมีกำลังพลสำรองที่มีความสามารถทางทหาร ตลอดจนมีลักษณะผู้นำในระดับผู้บังคับหมวด และเป็นกำลังสำคัญของกองทัพบกในอนาคต ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งยศเป็นว่าที่ร้อยตรี ถือว่าเป็นกำลังพลสำรองในระดับผู้บังคับบัญชา มีสิทธิ และหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับทหารกองหนุนประเภทอื่นๆ สามารถแต่งเครื่องแบบทหารในโอกาสต่างๆ ได้ เช่น พระราชพิธี, พิธีสำคัญของ ทางราชการ, การเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร และในโอกาสสำคัญต่าง ๆ

นอกเหนือจากการฝึกให้นักศึกษาวิชาทหารทุกนายได้มีความรู้ในวิชาทหารเพื่อการเป็นกำลังพลสำรองของกองทัพแล้ว ในส่วนของการเสริมสร้างทักษะชีวิต ในปีการศึกษา 2566 และ 2567 กองทัพบก โดย หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาวิชาทหารทั่วประเทศ ได้แสดงออกถึงความมีจิตอาสา ทำความดีเพื่อสังคมประเภทต่างๆ ในชื่อกิจกรรม รด.จิตอาสา 3 แสนนาย “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” และกิจกรรม “เติมโลหิตครั้งใหญ่ให้กาชาด โดย รด. จิตอาสา 25,000 นาย “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี

ล่าสุด พล.ท.ทวีพูล  ริมสาคร ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ยังคงดำรงปณิธานที่จะส่งเสริมให้นักศึกษาวิชาทหารทุกนาย ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 300,000 นาย ได้ทำความดี และเป็นแกนนำ ในการปลุกพลังความดีในหัวใจของแต่ละคน ไปสู่การปฏิบัติที่เห็นผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ผ่านกิจกรรมการทำความดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อให้นักศึกษาวิชาทหารทุกนายร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในชื่อกิจกรรม “เติมคนดีครั้งยิ่งใหญ่ 1 ล้านคน ให้สังคม” รด.จิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ

โดยตั้งเป้าให้นักศึกษาวิชาทหารเข้าร่วมกิจกรรมเป็นเครือข่ายการทำความดีให้ได้มากกว่า 1 ล้านคน ภายในเดือนตุลาคม 2567 พร้อมทั้งเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นความดี ใน 3 มิติ ได้แก่ การทำความดีให้แก่ครอบครัว, โรงเรียน/ที่ทำงาน และสังคม พร้อมบันทึกผลการทำความดีของแต่ละคนลงในระบบฐานข้อมูล (โดยในแต่ละมิติ ต้องทำความดีจำนวนมิติละ 10- 20 ครั้ง เมื่อผ่านครบทั้ง 3 มิติแล้ว จะถือว่าผ่านวิชาทำความดี ซึ่งระบบจะแจ้งการเลื่อน Level สูงขึ้นต่อไป)

นับจากวันแรกที่เริ่มดำเนินกิจกรรมจนถึงปัจจุบัน ( 8 ก.ค. – 28 ส.ค.67) มี นศท. เข้าระบบทำความดีไปแล้ว จำนวน 313,552 นาย ส่วนบุคคลทั่วไปที่เข้าระบบทำความดี มีจำนวน 341,896 คน รวมจำนวนผู้ทำความดี 655,448 คน และมีความดีที่บันทึกผลไว้ทั้งสิ้น 1,696,943 กิจกรรม