No data was found

สุดารัตน์ รำลึก 19 กันยา ถอดบทเรียน 3 รัฐประหาร

กดติดตาม TOP NEWS

กรุงเทพฯ 19 ก.ย.-  “คุณหญิงสุดารัตน์” รำลึก 19 กันยา ถอดบทเรียน 3 รัฐประหาร ชี้กงล้อประชาธิปไตยตกหล่ม เผด็จการแข็งแกร่ง จี้เร่งทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟชบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan รำลึก 19 กันยา ถอดบทเรียน 3 รัฐประหาร : จากพฤษภาทมิฬ ถึง ม็อบราษฎร ว่า ในชีวิตการเมืองของดิฉันกว่า 29 ปี ได้ผ่านรัฐประหารมา 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 34 โดยดิฉันได้ร่วมในขบวนการต่อต้านการสืบทอดอำนาจของพล.อ.สุจินดา ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ตั้งแต่วันแรก จนมาถึงการรัฐประหารปี 49 ซึ่งขณะนั้นดิฉันเป็นรัฐมนตรีเกษตร กำลังทำหน้าที่นำสินค้าเกษตร และอาหารไทย ไปขายที่ยุโรป ในวันปฏิวัติดิฉันกำลังประชุมกับรัฐมนตรีพาณิชย์ของฝรั่งเศสอยู่ หลังจากทราบข่าวการทำรัฐประหาร ดิฉันได้รับมอบหมายให้ประสานงานฝ่ายความมั่นคงของฝั่งเราที่กรุงเทพฯ เพื่อต้านการรัฐประหารโดยที่ดิฉันไม่รู้เลยว่าคนที่ดิฉันประสานงาน เขาได้ย้ายไปอยู่ฝั่งผู้ทำรัฐประหารไปแล้ว ผลคือหลังจากนั้นชั่วโมงเดียว ทหารกว่า 20 นายพร้อมปืนM.16 เข้าไปยึดบ้าน จับคนในบ้านของดิฉัน ดิฉันต้องติดอยู่ต่างประเทศกว่า 3 สัปดาห์ ถึงกลับประเทศไทยได้ และครั้งสุดท้ายคือปี 57 ซึ่ง ขณะนั้นดิฉันพักการทำงานการเมือง เพื่อไปทำงานบูรณะปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ก็ไม่พ้นถูกทหารนำรถหุ้มเกราะมาล้อมบ้านอีก

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ดิฉันอยากจะสรุปบทเรียนของ 3 รัฐประหาร จากพฤษภาทมิฬ ถึงม็อบราษฎรว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 35 – ปี 64 เป็นเวลา 29 ปี กงล้อประชาธิปไตยไทย ตกหล่มอยู่กับที่ ประชาธิปไตยไทยในปัจจุบันถอยหลังไปกว่า 40 ปี สิทธิพลเมืองถูกด้อยค่า ประเทศตกต่ำ ล้าหลัง แต่เผด็จการ พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น โดยผ่านรัฐธรรมนูญปี 60 เผด็จการสร้างกลไกในการสืบทอดอำนาจของตัวเองอย่างมั่นคง และวางแผนที่จะปกครองประเทศนี้อีกยาวนาน ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เขียนควบคุมการบริหารประเทศไว้ทุกด้าน วางกับดักไว้เอาผิดรัฐบาล ที่ไม่ได้มาจากฝั่งเผด็จการ จนไม่สามารถทำงานได้รวมทั้งยังต้องฝ่าด่าน สว. 250 คนและองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่ฝ่ายเผด็จการควบคุมได้ทั้งหมด

ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เพิ่งผ่านสภา ไปเมื่อไม่กี่วันนี้ ก็แก้เพียงระบบเลือกตั้ง ซึ่งไม่สามารถทำให้ฝั่งประชาธิปไตยชนะได้อย่างแท้จริง เพราะถึงแม้ว่าพรรคฝั่งประชาธิปไตยจะชนะเลือกตั้ง แต่ก็ต้องฝ่าด่านแรกว่าจะชนะสว. 250 คนได้ไหม และถ้าชนะสว. 250 คนได้ จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่จะไม่สามารถบริหารงานภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ รัฐบาลฝั่งประชาธิปไตยอาจจะถูกคว่ำได้อย่างง่ายดายภายในเวลา 3 ถึง 6 เดือน และ”นายก” จากฝั่งประชาธิปไตย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกลไกที่ฝ่ายเผด็จการวางเอาไว้อย่างที่ผ่านมา

“โดยการล้มรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตย ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องลากรถถังออกมาทำรัฐประหารอีกต่อไป เพราะเผด็จการได้ฝังกลไกการล้มรัฐบาลที่ไม่ใช่พวกตนเอง ไว้ในรัฐธรรมนูญปี 60 ไว้อย่างเบ็ดเสร็จ ดังนั้นทางออกจาก ระบอบเผด็จการครองประเทศ อย่างถาวร คือการต้องผลักดันให้สร้าง รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ให้สำเร็จด้วยการเรียกร้องให้ เร่งทำประชามติ โดยเร็วที่สุด”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นาทีระทึก เด็กตกท่อระบายน้ำ หวิดขาหัก พบไม่ใช่รายแรก ชาวบ้านวอน จนท.เร่งซ่อม
สุดประทับใจฉลอง "ศรีเทพ" มรดกโลก ชมโขนท่ามกลางโบราณสถานยามค่ำ ตระการตามหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพ Si Thep World Heritage Illumination 2024
"นักกีฬาพิการทีมชาติ" แฉชัด นายทุนเขมือบโควตาหวย หลักฐานโผล่สมาคมฯปล่อยโม่งสวมสิทธิ จี้สนง.สลากฯลุยสอบลอตเตอรี่หายไปไหน
"นรุตม์ชัย" สวน "อุ๊งอิ๊ง" ระบบยุติธรรมของประเทศถูกทำลาย ย่อยยับ ต้องเป็นหนี้ 500,000 ล้าน เพื่อกู้มาแจก
"อาจารย์อุ๋ย ปชป." ชี้ชัด เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แค่อยู่กระท่อม ปลูกผัก ซัดกลับคนบิดเบือน
เมียนมา ‘อากาศร้อนจัด’ กระทบรายได้คนขับแท็กซี่
ประมวลภาพโมเมนต์สำคัญ ‘สีจิ้นผิง-มาครง’
เจ้าคณะฯ สั่งปลดแล้ว "เจ้าอาวาส" เคลมเด็กหนุ่ม เผยยังสอบวินัยสงฆ์ไม่ได้ เหตุหายตัวไร้เงา
รัสเซียเยาะเซเลนสกี้แอบอ้างพระเจ้าเป็นพันธมิตรยูเครน
เดือดกว่านี้ไม่มีแล้ว "อ.สุวินัย" จัดหนัก "โน้ส อุดม" ลงลึกธาตุแท้ ลั่นเมริงกับKuเป็นมนุษย์คนละสายพันธุ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น