เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 15 ก.ย.2564 นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผบ.ฉก.ลาดหญ้า พร้อมกำลังทหาร มว.ปชด.เพิ่มเติมที่ 1 (บ้องตี้) ทหาร ชป.ขว.ที่ 2 กกล.สุรสีห์, ร้อย.ตชด.136, สภ.ไทรโยค, ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค ตม.ไทรโยค และจนท.สาธารณสุข อ.ไทรโยค เดินทางไปยังบริเวณชายป่า บ.ท้ายเหมือง ม.3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค หลังได้รับรายงาน จากชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ และแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่า จะมีแรงงานเถื่อนชาวพม่าลักลอบเข้าเมือง
กำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าวหลบซ่อน อยู่บริเวณชายป่าบ้านท้ายเหมือง จึงซุ่มเฝ้ารอ เพื่อจับกุมผู้นำพาที่จะมารับแรงงานเถื่อน แต่เป็นเวลานานก็ไม่พบผู้นำพา ที่มารับแรงงานผิดกฎหมาย คาดว่าผู้นำพาจะรู้ตัว จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และควบคุมตัวแรงงานเถื่อนชาวพม่า ลับลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) จำนวน 11 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 3 คน นำตัวไปหอประชุมหมู่บ้านบ้องตี้บน หมู่ที่ 1 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค ทำการซักถามและทำประวัติ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมด เดินทางมาจาก เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา โดยมีผู้นำพาเป็นชายชาวเมียนมา เดินมาส่งบริเวณชายแดน โดยมีผู้นำทางเป็นชายอีกคนมารับที่ฝั่งไทย และพามาหลบซ่อนอยู่ที่ชายป่าแห่งนี้ เพื่อรอรถมารับไปทำงานในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยจ่ายค่าจ้างให้กับผู้นำพา คนละ18,000 – 20,000 บาท
ต่อมาจนท.สาธารณสุข ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน37.5 องศาเซลเซียส จนท.ทหารได้ซักถามจัดทำประวัติ พร้อมทั้ง นำแรงงานเถื่อนที่หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมด ควมคุมตัวไว้ที่หอประชุมหมู่บ้านบ้องตี้บน หมู่ที่ 1 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค เพื่อดำเนินการส่งมอบ ให้กับฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ส่งกลับมาตุภูมิ เพื่อเป็นการป้องกัน การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตามทราบว่า ขณะยังมีแรงงานเถื่อนชาวพม่าอีกกว่าร้อยคน ที่หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณป่าแนวชายแดนไทย-พม่า เพื่อรอโอกาสหลบสายตาเจ้าหน้าที่ ลักลอบเข้าประเทศไทย ทางด้านอ.ไทรโยค และอ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจปกครอง ได้วางกำลังลาดตระเวน แนวชายแดนไทย-พม่า และตั้งจุดสกัด เพื่อป้องกันปราบปราม อย่างเข้มงวดตลอด24ชั่วโมง
วุฒิเดช ก้อนทองคำ
