ป.ป.ช.ฟันอาญา-วินัย “อานนท์” อดีตผอ. GISTDA คดีนำรถส่วนกลางปฏิบัติหน้าที่-ใช้เงินหลวงเติมน้ำมัน

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย "ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา" อดีต ผอ. GISTDA ใช้รถยนต์ส่วนกลางของสำนักงานไปปฏิบัติหน้าที่และใช้เงินหลวงเติมน้ำมัน ทั้งที่ได้รับค่าพาหนะเดือนละ 37,500 บาทอยู่แล้ว

ป.ป.ช.ฟันอาญา-วินัย “อานนท์” อดีตผอ. GISTDA คดีนำรถส่วนกลางปฏิบัติหน้าที่-ใช้เงินหลวงเติมน้ำมัน  – Top News รายงาน 

อานนท์

 

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แสดงว่าป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยี อวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กับพวก ใช้รถยนต์ส่วนกลางเป็นรถประจำตำแหน่งของตน เนื่องจากการไต่สวนปรากฏว่า นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ GISTDA ได้สั่งการให้เลขานุการใช้รถยนต์ส่วนกลางของสำนักงานฯ ไปขออนุมัติใช้รถยนต์ส่วนกลางของสำนักงานฯ เพื่อเดินทางไปปฏิบัติงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่อนางนิรมล ศรีภูมินทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ซึ่งก็ได้อนุมัติให้ใช้รถยนต์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน ชฐ 5663 กรุงเทพมหานคร ในการเดินทางไปปฏิบัติงานดังกล่าว รวมทั้งอนุมัติให้เบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าผ่านทางพิเศษ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2558 รวมเป็นเงินจำนวน 254,685 บาท

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งที่ตามสัญญาปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้อำนวยการ GISTDA ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 กำหนดให้นายอานนท์ได้รับค่าตอบแทนอัตราเงินเดือนประจำ เดือนละ 150,000 บาท และผลประโยชน์ ตอบแทนอื่น รวมถึงค่าพาหนะหรือรถยนต์ประจำตำแหน่งในอัตราร้อยละ 25 ของเงินเดือนประจำจำนวน 37,500 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 187,500 บาทต่อเดือน นายอานนท์จึงไม่มีสิทธิใช้รถยนต์ส่วนกลางสำนักงานฯตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 13 วรรคสาม ป.ป.ช.จึงเห็นว่า การกระทำของนายอานนท์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามพ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 91 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

ส่วนการกระทำของนางนิรมล ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่า ได้กระทำการ อันมีมูลความผิดในทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่มีมูลความผิด ทางวินัยอย่างร้ายแรง จึงให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณี และให้แจ้งสำนักงานพัฒนา เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สิบเอกสังกัดกอ.รมน." เครียดปัญหาส่วนตัว เบิกเอ็ม 16 เหนี่ยวไกปลิดชีพคาหน่วย
GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน ปี 5 หน่วยที่ 3 จุดประกายรอยยิ้ม สร้างโอกาสเข้าถึงทันตกรรมฟรีให้ชาวชลบุรี
"แม่ทัพภาคที่ 2" ย้ำมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยชาติ ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน
“นฤมล” ยืนยัน พรรคกล้าธรรม ยังสนับสนุน“นายกฯ” ทำงานต่อ ขอคนไทยสามัคคี อย่าหลงเกมกัมพูชา ช่วยกันส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า
ซีพีประกาศจุดยืน “องค์กรแห่งความหลากหลาย” เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
"ประเสริฐ" กางข้อมูล-หลักฐาน ซัด "กัมพูชา" เป็นแหล่งอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติใหญ่สุดในโลก
“ไตรศุลี” หอบใบลาออก 5 รมต.ภูมิใจไทย ยื่นนายกฯ มีผลทันที
“ประเสริฐ” พร้อมนั่ง "มท.1" ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมรบ.แน่นปึ้ก
วิบากกรรม “ตระกูลชินวัตร” จบไม่สวยกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พรุ่งนี้ “นายกฯ” ลงพื้นที่ชายแดน ช่องบก อุบลฯ นัดหมายคุยต่อหน้า “แม่ทัพภาคที่ 2”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น