ระทึก ไล่แทงกันตายในตลาดอรัญประเทศ

จากนั้นนายธีรพงศ์หรือ”บ๊วย” ผู้ก่อเหตุ ได้วิ่งหนี ออกไป นายตะวัน ผู้ตาย จะวิ่งเข้าไปทำร้ายต่อ แต่ก็เปลี่ยนใจ วิ่งกลับมาหานางสาวพรศินี (เพื่อน) ที่รถ ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ออกไปจากจุดเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ตรงจุดที่ผู้ก่อเหตุวิ่งไล่กันในกล้องวงจรปิดพบกับนางสาวศิริลักษณ์ พันจุย อายุ 42 ปี แม่ค้าขายข้าวเหนียวหมูเล่าให้ ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันนั้นตนกำลังยืนขายข้าวเหนียวหมูอยู่ดีๆก็เห็นนายบ๊วยวิ่งหนีตาย อะไรบางอย่างมา แบบหัวซุกหัวซุน ” ตนเองรู้จักนายบ๊วยก็เพราะว่านาย”บ๊วย” ผู้ก่อเหตุ ชอบมาขอข้าวเหนียวหมูตนเองกินบ่อยๆเพราะนาย”บ๊วย “เป็นคนเร่ร่อนมักจะเดินไปมาอยู่บริเวณนั้นบ่อยๆ หลังจากนั้นก็เห็นผู้เสียชีวิตวิ่งไล่มา ชุลมุนไปมาพักนึง ตนเองก็เห็น นายตะวันผู้เสียชีวิต ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ที่มีน้องผู้หญิง นั่งคร่อมรถอยู่แล้วขับออกไปเลย ตนเองก็ไม่ทันได้สังเกตว่ามีการแทงกันหรือไม่ เพราะเห็นแค่น้องเขาเอามือจับที่หน้าอก แล้วก็วิ่งขึ้นรถไป หลังจากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงมายังพื้นที่ร้านของตนตนจึงได้ทราบว่าน้องตะวันได้เสียชีวิตแล้วตนเองรู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าเหตุการณ์จะ ใหญ่โตบานปลาย ถึงขนาดนี้คิดว่าเป็นการทะเลาะวิวาทกันเล็กๆน้อยๆ ” ด้านนางสาว พรสินีเขียนโพธิ์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นเพื่อน ของผู้เสียชีวิต และได้นั่งซ้อนท้ายผู้เสียชีวิตไปในคืนที่เกิดเหตุเล่าให้ ผู้สื่อข่าว ฟังว่าตนเองไม่รู้ว่าสองคนนี้เขามีเรื่องทะเลาะกันมาตั้งแต่ตอนไหน ซึ่งตนเองรู้จักกับผู้ตายนับถือกันเป็นพี่น้อง” วันนั้นตนเองอยากกินขนมจึงได้ชวนนายตะวันขับรถไป เพื่อที่จะซื้อขนมในตลาดและกำลังจะกลับบ้าน ผู้ตายหันไปเจอนายบ๊วย แล้วผู้ตายก็ได้ขับรถไล่ตามจนมาถึงจุด ที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ซึ่งตนเอง รู้สึกตกใจและนั่งตัวสั่นอยู่บนรถ ทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่งนายตะวัน ผู้ตาย วิ่งกลับมาที่รถแล้วใช้มือจับที่หน้าอก พร้อมทั้ง บิดรถ จักรยานยนต์ กลับมาที่บ้าน ตอนนั้นตนเองยังไม่รู้ว่านายตะวันถูกแทงพอมาถึงบ้านนายตะวันก็ล้มฟุบ ลงตรงข้างรถมอเตอร์ไซค์ ตนจึงได้รีบแจ้งกู้ภัย เพื่อที่จะนำตัวนายตะวันไปที่โรงพยาบาล ตอนนั้นนายตะวันยังสามารถพูดได้ รู้เรื่อง ตอบสนองได้ดีจนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นาน มาทราบอีกทีว่า นายตะวันเสียชีวิตแล้วตนเองรู้สึกเสียใจมาก ตอนนี้ก็ยังรู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังวัดโคกสะพานขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของนายตะวันผู้เสียชีวิต พบกับนางสาว สุภาพรสินประเสริฐ อายุ 46 ปีซึ่งเป็นแม่ของ นายตะวัน ผู้ตาย ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตา ว่าตนเองและครอบครัวแยกกันอยู่ ซึ่งผู้ตายจะอาศัยอยู่กับพี่ๆทั้ง 4 คนที่จังหวัดสระแก้ว อำเภออรัญประเทศ ส่วนตนเองได้ไปมีครอบครัวใหม่อาศัยอยู่ที่โคราชหลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชาย จึงได้เดินทางกลับมา ตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากและไม่อยากจะโทษใคร เพราะจากที่ตนเองเห็นในภาพวงจรปิด เห็นว่าลูกชายของตนเองไปวิ่งไล่ ทำร้าย เขา ตนเองก็เข้าใจได้ว่านายบ๊วยก็ต้องป้องกันตัวเอง ส่วนข้อขัดแย้งกันอันนี้แม่ไม่ทราบว่าทะเลาะวิวาทอะไรกันมาก่อน ถึงต้องทำให้ ถึงกับต้องฆ่ากัน เพราะนาย”บ๊วย”กับพี่สาวของนายตะวัน ก็เป็นเพื่อนกันและรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แม่นายตะวันผู้ตายยังบอกอีกว่าไมอยากให้”นายบ๊วย”มาเคารพศพ เพราะเกรงว่าจะเกิดการรุมประชาทัณฑ์ เกิดขึ้น เพราะทางญาติของผู้ตายยังทำใจไม่ได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แม่กล่าวทั้งน้ำตา