ทร.ส่งเรือผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำท่วมสมุทรปราการ

กองทัพเรือจัดเรือผลักดันน้ำ 16 ลำ เร่งระบายน้ำท่วมในจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมส่งกำลังพลช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

วันที่ 14 ก.ย. – ที่กรมอู่พระจุลจอมเกล้า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พลเรือตรี เอกชัย อมาตยกุล รองผู้อำนวยอู่พระจุลจอมเกล้า เป็นประธานในการปล่อยขบวนรถลำเลียงเรือผลักดันน้ำจำนวน 16 ลำ พร้อมกำลังพล เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในจังหวัดสมุทรปราการ จากสถานการณ์ที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ผ่านมาจังหวัดสมุทรปราการเกิดน้ำท่วมสูงในบริเวณอำเภอบางบ่อ และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบจังหวัดสมุทรปราการทำให้จัวหวัดสมุทรปราการร้องขอสนับสนับเรือผลีกดันน้ำในการช่วงเร่งระบายน้ำท่วงขังจากกองทัพเรือ

ในการนี้พลเรือเอกชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ(ผอ.ศบภ.ทร.) สั่งการให้อู่พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ จัดชุดเฉพาะกิจเรือผลักดัน โดยมีเรือผลักดันน้ำจำนวน 16 ลำ และกำลังพล สนับสนุนการระบายน้ำให้กับจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมสูงบางพื้นที่ในจังหวัดสมุทรปราการ โดยชุดสำรวจพื้นที่ติดตั้งเรือผลักดันน้ำ จุดติดตั้ง ทั้งหมด 2 จุด คือบริเวณคลองลาดกระบัง ด้านข้างห้างแม็คโคร บางพลี ถนนบางนา-ตราด และบริเวณคลองลาดกระบัง ด้านข้าง บริษัทบางกอก แอร์เวย์ ถนนสุวรรณภูมิ 3

สำหรับเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำหลากมาตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งแนวความคิดนี้ ปัจจุบันกรมชลประทานได้นำไปดัดแปลงระบบ เพื่อใช้แก้ไขปัญหาระบบน้ำทั่วประเทศ และจากองค์ความรู้ในการสร้างเรือผลักดันน้ำที่คงมีอยู่ทำให้ กองทัพเรือสร้างเรือผลักดันน้ำขึ้นใหม่ เพื่อให้ทันต่อการนำไปใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 ทั้งยังสนองต่อพระราชดำริแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำอุปกรณ์เครื่องยนต์ที่มีอยู่เดิมมาผลิตและพัฒนาขึ้นใหม่เป็น 3 ขนาด คือขนาด 320 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 150,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ขนาด 220 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และขนาด 120 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน

ทั้งนี้ เรือผลักดันน้ำนับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง เป็นบึงและคอขวด เนื่องจากเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบากและไหลได้ไม่เร็ว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เซี่ยงไฮ้ต้อนรับ 'นักท่องเที่ยวต่างชาติ'พุ่งสูง คนไทยติดอันดับ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) มวยไทย-ระบำเอ็งกอ ผูกโยงวัฒนธรรมไทย-จีน
ราชกิจจาฯ ประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ตามประเภทกิจการ พื้นที่กำหนด มีผลทันที
"หนุ่มถูกจับเมาขับ" หัวร้อน ทำร้ายตำรวจสิบเวรหน้าห้องขัง เหตุญาติไม่มาประกันตัว พาครอบครัวไหว้ขอขมาก่อนรับเพิ่ม 1 ข้อหา
"แม่ค้าก๋วยจั๊บ" สระบุรี  ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รับ 6 ล้านบาท ดีใจแจกก๋วยจั๊บให้ชาวบ้านทานฟรี
"กองทัพอากาศ" ร่วมหน่วยงานวิจัยภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ พร้อมผลักดันงานวิจัยสู่ "สายการผลิต" และ "ใช้งานจริง" ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่ง
ผู้นำสหรัฐขู่ตัดเงินสนับสนุนธุรกิจอิลอน มัสก์
จีนขอไทยรักษาเสถียรภาพหลังนายกฯถูกพักงาน
สื่อทั่วโลกรายงานนายกฯไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญพักงาน
ผู้ซื้อลอตเตอรี่นอร์เวย์สุดเซ็งหลังระบบคำนวนรางวัลผิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น