ญาติร้อง “สายไหมต้องรอด” หลานชายพลัดตกตึก อาการโคม่า หลังไปพบสาวที่รู้จักผ่านแอปหาคู่

นายเรืองสินธุ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 3 มิ.ย. หลานของตนได้นัดดื่มกินกับหญิงสาว 2 คน ที่รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่งไม่นาน ก่อนจะไปนั่งเล่นกันต่อที่ทาวน์โฮมชั้น 4 ห้องพักของหญิงสาว โดยทาวน์โฮมดังกล่าว ชั้นล่างเปิดเป็นร้านกาแฟ ส่วน ชั้น 4 เป็นที่พักพนักงาน หญิงสาวทั้งสองคนได้บอกกับตนว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้หญิงคนหนึ่งหลับอยู่บนเตียง และอีกคนนั่งพูดคุยกับหลานของตนอยู่ปลายเตียง จากนั้นผู้หญิงที่นั่งพูดคุยได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อออกมาจากห้องน้ำกลับไม่พบหลานของตนแล้ว จึงพยายามตามหากระทั่งมาทราบว่า หลานของตนพลัดตกจากทาวน์โฮมแล้ว

นายเรืองสินธุ์ เปิดเผยต่อไปว่า หลังทราบว่าหลายชายตกลงไปด้านล่าง หญิงสาวทั้งสองคนจึงเรียกรถพยาบาลและเข้าแจ้งความไว้ที่สน.บางชัน แต่ตนพบข้อพิรุธตรงจุดที่ หญิงทั้ง 2 ราย ได้ลงบันทึกประจำวันว่าหลานของตนกระโดดลงมาเอง ทั้งที่บอกกับตนว่าไม่เห็นเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังสงสัย ในประเด็นเกี่ยวกับลักษณะท่าทางการพลัดตกของหลาน ซึ่งดูไม่เหมือนการกระโดดลงมาเอง จึงเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ทางตำรวจยังไม่มีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและยังไม่มีการเรียกสอบปากคำใครแต่อย่างใด ซึ่งตนเกรงว่า หากปล่อยเวลาให้นานขึ้นหลักฐานจะหายไป ทั้งนี้ทางฝั่งหญิง 2 ราย ยังบอกกับตนว่า มีการทำความสะอาดและจัดระเบียงที่เกิดเหตุใหม่โดยอ้างว่าเป็นภาพลักษณ์ของร้านอีกด้วย

ด้านนางรัตติยา กล่าวว่า ตอนนี้หลานชายยังมีอาการโคม่า แพทย์ได้ผ่าตัดสมองไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ ขณะนี้มีการใช้เครื่องช่วยหายใจ และระบายเลือดที่คลั่งออกจากสมอง ซึ่งแพทย์ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า หลังจากนี้ จะเป็นอย่างไร ทั้งนี้อยากให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ หรือใครที่มีภาพที่บันทึกจากกล้องหน้ารถหรือกล้องวงจรปิดใกล้ๆ บริเวณที่เกิดเหตุ ขอให้ออกมาช่วยเหลือหลาน ตนอยากได้รับความยุติธรรม และอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่