จากเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส ที่มารวมตัวกันทุกวันบริเวณแยกดินแดง มาเป็นเวลา 1 เดือนกว่าแล้ว ทำให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาและที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวนั้น ได้รับความเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ชาวชุมชนแฟลตดินแดง ที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากมีตรอกซอยทะลุออกได้หลายเส้นทาง อีกทั้งยังมีการก่อกวน ท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ด้วยการจุดพลุ , ระเบิดปิงปอง , ดอกไม้ไฟยักษ์ รวมไปถึง การนำขยะ , ยางรถยนต์ มาจุดไฟเผาปิดกันเส้นทางจราจรบริเวณหน้าแฟลต ซึ่งเป็นจุดอ่อนของทางเจ้าหน้าที่ ที่ไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ในเคหะสถานได้ เกรงว่าจะเป็นการรบกวน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่พักอาศัย
วันที่13 ก.ย. 2564 ทีมข่าว Top News ได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนชาวแฟลตดินแดง เพื่อสอบถามถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ป่วนเมืองจากกลุ่มทะลุแก๊ส และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน
นางกุล (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี ทำธุรกิจส่วนตัวย่านดินแดง เล่าให้ทีมข่าว Top News ฟังว่า ตั้งแต่กลุ่มทะลุแก๊สออกมาก่อความวุ่นวายบริเวณแยกดินแดง ซึ่งเป็นเวลาหลังเคอร์ฟิว ทำให้ครอบครัวของตนนั้น ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนเวลากลางคืน ต้องนอนฟังเสียงพลุ เสียงระเบิด ที่ดังอยู่ตลอดเวลา กว่าจะได้นอนหลับกันจริง ๆ ก็ประมาณ 03.00 น. อีกทั้ง ยังทำให้กิจการของตนนั้นแย่ลงกว่าเดิม ได้รับผลกระทบจากโควิดแล้ว ยังต้องมาเจอกับผลกระทบจากการป่วนเมืองของกลุ่มวัยรุ่นทะลุแก๊ส และตั้งแต่เดือนกว่าที่ผ่านมา ตนสามารถแยกแยะเสียงดังต่าง ๆ ได้แล้ว เช่น ประทัดธรรมดา ประทัดยักษ์ พลุ ระเบิด เสียงปืนจากตำรวจ หรือ ผู้ชุมนุม และคืนไหนที่ตำรวจมา ก็จะดีใจมาก และตนก็อยากให้กำลังใจตำรวจ อยากให้ตำรวจสู้ หากไม่สู้แล้วพวกตนจะอยู่กันอย่างไร และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการไล่จับเด็กนั้น ตนเห็นว่าไม่ได้เกินเลยและคิดว่ายังน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาเมื่อมีเด็กวัยรุ่นหนีเข้ามายังภายในชุมชน จะมีชาวบ้านบางส่วนให้การสนับสนุนให้ที่หลบซ่อนตัว และยังต่อว่าเจ้าหน้าที่ ใช้ความรุนแรงกับเด็ก ซึ่งขัดแย้งกับความเป็นจริง ตนจึงอยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ควรปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจังและจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมายให้หมดทุกคน เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
ขณะที่ น.ส.ลิซ ( นามสมมุติ)เปิดบริษัทส่วนตัว อยู่ภายในชุมชนแฟลตดินแดง ก็ได้เปิดเผยให้กับทีมข่าวว่า บ้านของตนนั้นติดอยู่กับริมถนน ทุก ๆ คืนจะได้ยินเสียงพลุ เสียงระเบิด และเห็นดอกไม้ไฟยักษ์ตลอด ซึ่งฝั่งตรงข้ามบ้านของตนนั้น เป็นร้านแก๊ส ตนเกรงว่า หากไฟจุดติดขึ้นมา จะส่งผลอันตรายมาถึงบ้านของตนด้วย และเนื่องจากภายในชุมชนแฟลตดินแดงเป็นชุมชนแออัด รถดับเพลิง เข้าถึงลำบากยากต่อการดับไฟ อีกทั้ง เมื่อคืนที่ผ่านมา (12ก.ย.) เวลา 22:00 น. เกิดเสียงพลุดังสนั่น ตนต้องวิ่งลงมาสังเกตการณ์บริเวณหน้าบ้าน และเปิดกล้องวงจรปิดดู เพื่อเช็กความปลอดภัย เกรงว่าหากเกิดเหตุการณ์อะไร ก็จะได้อุ้มลูกลงมาทัน เพราะลูกยังเล็ก ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ หากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น น.ส.พรพรรณ บอกว่า อยู่ที่นี่นาน 35 ปีแล้ว และยังมีห้องว่างให้เช่าที่เป็นของพ่ออีก ตนก็ต้องดูแลกิจการครอบครัว ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์ covid ระบาด ตนก็ไม่อยากจะย้ายออกไปไหน และก็ไม่เห็นด้วยกับการที่กลุ่มทะลุแก๊ส ออกมาก่อกวนทุบทำลายทรัพย์สินราชการ ทรัพย์สินส่วนรวม ซึ่งตนเคยโพสต์ขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานราชการ แต่โดนตอกกลับมาว่าเป็นพวกเดียวกันกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตนอยากจะวิงวอน ร้องขอไปถึงกลุ่มทะลุแก๊สว่า อย่าโดนเค้าหลอกใช้ หากมีความคิดไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ก็ให้ประท้วงแบบสันติวิธี ไม่ใช่ออกไปขว้างปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ