logo

กรมชลประทานรุกคืบการศึกษาวิจัยต้นทุนน้ำฯในพื้นที่EEC พร้อมพัฒนาระบบWeb Application เป็นเครื่องมือแสดงต้นทุนการจัดการน้ำและอัตราค่าน้ำ

กรมชลประทานรุกคืบการศึกษาวิจัยต้นทุนน้ำฯในพื้นที่EEC พร้อมพัฒนาระบบWeb Application เป็นเครื่องมือแสดงต้นทุนการจัดการน้ำและอัตราค่าน้ำชลประทานที่เหมาะสม มีมาตรฐานและเป็นธรรมได้รับการยอมรับทุกภาคส่วน พร้อมนำไปขยายผลการศึกษาการจัดเก็บค่าน้ำในพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป

(วันที่ 24 พ.ค 2567 นายประสพโชค มั่งจิตร ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักชลประทานที่ 9 กล่าวภายหลังเป็นประธานจัดประชุมปัจฉิมนิเทศนำเสนอผลการศึกษาโครงการศึกษาวิจัยต้นทุนน้ำในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทราจ.ชลบุรีและจ.ระยองที่จัดขึ้น ณ สำนักงานชลประทานที่ 9 จ.ชลบุรีเมื่อเร็วๆนี้ว่า กรมชลประทานได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการโครงการศึกษาวิจัยต้นทุนน้ำในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทราจ.ชลบุรีและจ.ระยอง เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษาต้นทุนน้ำ เพื่อศึกษารวบรวม และวิเคราะห์ โครงสร้างต้นทุนและการประเมินต้นทุน เมื่อปี 2566ที่ผ่านมาและได้สิ้นสุดโครงการในเดือนพฤษภาคม 2567 ขณะนี้การศึกษาได้ผลสรุปเป็นที่น่าพอใจต่อไปพร้อมส่งต่อเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งนำไปเป็นต้นแบบในการศึกษาฯพื้นที่ชลประทานทั่วประเทศต่อไป
นายประสพโชค ต่อว่า ปัจจุบันจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยองเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC)ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมและการลงทุนหลักของประเทศไทยและภูมิภาค นอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแล้วยังมีฐานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และการเกษตรมูลค่าสูง ทำให้มีแรงงานทุกระดับหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่ส่งผลให้มีความต้องการความมั่นคงด้านน้ำสูงและคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2580 จะมีความต้องการใช้น้ำรวม 3,089 ล้าน ลบ.ม./ปี เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีความต้องการใช้น้ำรวม 2,419 ล้าน ลบ.ม/ปี (เพิ่มขึ้น 670 ล้าน ลบม /ปี) อันเนื่องจากการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจและสังคมตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดEEC คิดเป็นร้อยละ 53.5 ของความต้องการใช้น้ำทั้งภาคตะวันออก ทั้งนี้ ความต้องการใช้น้ำภาคอุปโภค-บริโภคมีอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุด(ร้อยละ 56) รองลงมาคือภาคอุตสาหกรรม (ร้อยละ 43) และภาคเกษตรกรรม (ร้อยละ 17)
จากแนวโน้มดังกล่าว กรมชลประทานจึงได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการโครงการศึกษาวิจัยต้นทุนน้ำในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทราจ.ชลบุรีและจ.ระยอง เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษาต้นทุนน้ำ เพื่อศึกษารวบรวมและวิเคราะห์ โครงสร้างต้นทุนและการประเมินต้นทุน การจัดการน้ำอุปทานโดยกรมชลประทานและการกำหนดอัตราค่าน้ำชลประทานที่เหมาะสมและเป็นรูปธรรมสำหรับทุกภาคส่วนที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงตามบริบทการจัดหา จัดสรร พัฒนา ให้บริการด้านอุปทานน้ำ (Water Resources Supply) รวมทั้งวางแผนและกำหนดทิศทางการพัฒนาและประยุกต์ใช้โครงสร้างต้นทุนการจัดการน้ำอุปทานและอัตราคำน้ำชลประทานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่สอดคล้องกับแผนหลักการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ EEC ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน กลุ่มผู้ใช้น้ำให้เกิดการบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกแบบบูรณาการ

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยคณะผู้เชี่ยวชาญได้ทำการศึกษาวิเคราะห์ต้นทุนค่าน้ำและกำหนดข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแนวทางการจัดการน้ำอุปทานอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับภาคส่วนผู้ใช้น้ำที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบแล้วให้มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ และรองรับอุปสงค์น้ำจากการคาดการณ์บริบทการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและพัฒนาระบบ Web Application สนับสนุนการวิเคราะห์ ประเมิน และกำหนดต้นทุนการจัดการน้ำอุปทานและกำหนดต้นทุนการจัดการน้ำ กำหนดอัตราค่าน้ำชลประทานอย่างเหมาะสม ภายใต้การคาดการณ์ปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้ ความต้องการน้ำและระดับความขาดแคลนอย่างมีมาตรฐานและเป็นธรรมสำหรับทุกภาคส่วนในเป้าหมาย 3 จังหวัดคือฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง คาบเกี่ยวกับ2ลุ่มน้ำหลัก ได้แก่ ลุ่มน้ำบางปะกงและลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออกรวมพื้นที่ศึกษาทั้งหมดประมาณ8,454,375ไร่
ด้านนายจักรพันธุ์ ช้อยหิรัญ ผอ.ส่วนวางโครงการที่ 3 สำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเก็บค่าใช้น้ำ ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงหาผลกำไร แต่เป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยทรัพยากรน้ำ เพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายการลงทุนการบริหารจัดการของภาครัฐ ซึ่งอัตราที่ใช้จัดเก็บในปัจจุบันมีการใช้มาตั้งแต่ปี 2485 โดยกำหนดอัตราเป็น 2 ประเภท คือการใช้น้ำในภาคเกษตรกรรม เรียกเก็บได้ในอัตราไร่ละ 5 บาทต่อปี และการใช้น้ำในภาคนอกเกษตรกรรม เรียกเก็บในอัตราลูกบาศก์เมตรละ50 สตางค์ซึ่งเทียบกับหน่วยงานอื่นที่ขายในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการประปาส่วนภูมิภาค หรือ อิสเวอร์เตอร์จะขายให้หน่วยงานต่างๆอยู่ประมาณ 10 กว่าบาท/ลบ.ม กรมชลประทานจึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาศึกษา ทบทวนอัตราการจัดเก็บค่าน้ำที่เหมาะสม โดยจะวิเคราะห์ต้นทุนตามหลักวิชาการภายใต้แนวความคิด Full Cost Recovery และพัฒนาระบบWeb Application เพื่อเป็นเครื่องมือแสดงต้นทุนการจัดการน้ำและอัตราค่าน้ำชลประทานที่เหมาะสม มีมาตรฐานและเป็นธรรมและได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน
สำหรับแนวทางการจัดเก็บ จะมีการเก็บในอัตราที่แตกต่างกันตามประเภทของการใช้น้ำแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ ประเภทที่1 เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการเกษตรหรือการเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพ ประเภทที่2 เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การผลิตพลังงานไฟฟ้า การประปาและกิจการอื่น และประเภทที่3 คือ เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำปริมาณมาก หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบข้ามลุ่มน้ำ หรือครอบคลุมพื้นที่อ่างกว้างขวา ซึ่งแต่ละประเภทจะมีอัตราเรียกเก็บที่แตกต่างกันไปโดยมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย ทั้งนี้ยืนยันว่าการพิจารณาจะเป็นไปอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้หลักเกณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกภาคส่วนที่สุด โดยกรมชลประทานได้เลือกพื้นที่ภาคตะวันออกนำร่องในการศึกษาต้นทุนน้ำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ขยายตัวของระบบเศรษฐกิจและสังคมคามนโยบายของรัฐบาลที่มีความต้องการใช้น้ำปริมาณมากและมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอนาคต โดยจะนำผลสำเร็จจากการศึกษาครั้งนี้ นำไปขยายผลและผลักดันต่อไป

ด้านรศ.ดร.ทวนทัน กิจไพศาลสกุล ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงผลที่ได้รับจากโครงการศึกษาในครั้งนี้ว่า ผลการวิเคราะห์และแจกแจงต้นทุนจากการบริหารจัดน้ำของกรมชลประทานภายใต้บริบทของพื้นที่ศึกษา เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การกำหนดอัตราราคาค่าน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม สะท้อนและครอบคลุมต้นทุนที่ได้มาตรฐาน ถูกต้อง ตามหลักวิชาการเป็นที่ยอมรับและเป็นธรรม มีการนำระบบ Web Application สนับสนุนวิเคราะห์ ประเมินและกำหนดค่าน้ำ การจัดการน้ำอุปทานอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีการนำแนวทางการใช้โครงสร้างต้นทุนการตัดการน้ำอุปทานและอัตราค่าน้ำชลประทาน โดยจะมีนำผลการศึกษาในครั้งนี้ เข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองพิจารณาตามขั้นตอน และจะสรุปข้อเสนอสู่เชิงนโยบายที่เหมาะสมต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" แจ้งป่วยโควิด ขอพักรักษาตัว รีบกลับมาทำงานเร็วที่สุด
"พลภูมิ ผู้ช่วยรัฐมนตรี"ร่วมเปิดงาน “Olympic Day - Road to Paris 2024”สร้างความตระหนักรู้การเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 พร้อมชวนคนไทยส่งแรงเชียร์ นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก
นาทีระทึกหนีตาย "บั้งไฟ" บึ้มกลางงานประจำปี ร้อยเอ็ด ชาวบ้านยืนดู บาดเจ็บเพียบ
บุกจับ “3 เอเย่นต์” ค้ายาเสพติดข้ามชาติ หนีซุกรีสอร์ทสงขลา ยึดยาไอซ์ของกลางเกือบ 100 ล้านบาท
"ทนายเจมส์" แจ้งข่าว "สไปรท์" แร็พเปอร์ดัง โดนต้นสังกัดเก่าฟ้องเรียก 14 ล้าน งานนี้ พ่อแม่โดนด้วย
ผวจ.ชลบุรี นำคณะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ จนท.และผู้สมัคร สว.ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับจังหวัด
3 ผู้สมัคร สว. แจ้งความเอาผิดกกต. ลั่นถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งไม่เป็นธรรม
เจอแล้ว "เรือน้ำมันเถื่อน" ของกลาง 3 ลำที่หายไป ตร.คุมเข้มเข้าท่าเทียบเรือ สงขลา
"สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ผ่านฉลุยคัดเลือกสว.ระดับจังหวัด รอลุ้นเลือกสว.ระดับประเทศ
"เค 3 ถุย์"  เปิดหน้าปะทะเสื้อแดงปทุมธานี งานนี้เชียร์  "ชาญ" อยู่ข้างทักษิณ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น