สหรัฐเผย พบคนงานโคนมติดเชื้อไข้หวัดนกรายที่ 2 นับตั้งแต่ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกเดือนเมษายน ย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนก วงกว้างยังเสี่ยงต่ำ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกรายที่ 2 ที่เกี่ยวข้องกับฟาร์มโคนม นับตั้งแต่ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกในเท็กซัสเดือนเมษายน โดยนิราฟ ชาห์ รองผู้อำนวยการ CDC ให้รายละเอียดว่า หน่วยงานได้รับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ซึ่งเป็นคนงานในฟาร์มโคนมจากรัฐมิชิแกนเมื่อวันอังคาร และยืนยันผลการตรวจเป็นบวกในเย็นวันนั้น
จากการทดสอบ ในตอนแรกผลการสวอปจมูกไม่พบเชื้อ แต่ต่อมาเชื้อไวรัส H5N1ถูกตรวจพบ จากการสวอปทางตา คนงานรายดังกล่าวมีประวัติสัมผัสกับปศุสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเป็นประจำ และ มีอาการคล้ายคลึงกับผู้ป่วยรายแรก คือมีอาการระคายเคืองตาที่ไม่รุนแรง และหายดีแล้ว พร้อมเสริมว่า การสอบสวนกำลังดำเนินอยู่ และกำลังตรวจสอบว่า คนงานดังกล่าวสวมชุดหรือได้รับอุปกรณ์ป้องกันหรือไม่
การติดเชื้อของคนงานรายนี้ แสดงให้เห็นว่า การระบาดของไข้หวัดนกขยายตัวมากขึ้น แต่ CDC ยืนยันว่า ความเสี่ยงต่อสาธารณชนยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมเน้นย้ำ ยังไม่เห็นหลักฐานการแพร่เชื้อไข้หวัดนกจากคนสู่คน หลังได้ทำการทดสอบกลุ่มเสี่ยงไปแล้วเกือบ 40 คน ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ที่มีการตรวจพบไวรัสไข้หวัดนกในฟาร์มโคนมครั้งแรก
ทั้งนี้ มิชิแกนและเท็กซัสเป็นหนึ่งในเก้ารัฐ ที่มีรายงานไข้หวัดนกในฟาร์มโคนมตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การระบาดจะลุกลามมากขึ้น โดยอิงจากการค้นพบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ ที่พบอนุภาคเชื้อไข้หวัดนก ในประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างนมขายปลีกที่ส่งตรวจ ซึ่งกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) เชื่อว่า นมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ เป็นพาหะหลักในการแพร่เชื้อไวรัสไปยังวัว
แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ทราบแน่ชัดว่าไวรัสแพร่กระจายอย่างไร แต่เพื่อจำกัดการแพร่เชื้อในวัว USDA ได้สั่งให้ทดสอบตรวจไวรัสในโคนม ก่อนที่จะมีการขนส่งข้ามรัฐต่างๆ