logo

“ภูมิธรรม” มือขวา “นายใหญ่” คุมกองทัพค้ำบัลลังก์รัฐบาล สกัดรัฐประหาร พา “นายหญิง” กลับบ้าน

ปรับผังอำนาจแบ่งงานรองนายกฯ "ภูมิธรรม" มือขวา "นายใหญ่" คุมกองทัพค้ำบัลลังก์รัฐบาล สกัดรัฐประหาร พา "นายหญิง" กลับบ้าน

TOP News รายงานข่าว ปรับยุทธศาสตร์การบัญชาการรัฐบาลใหม่ ผ่านการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี จัดแผงอำนาจใหม่ในคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี หรือ ครม.เศรษฐา 1/1 นายใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งมือขวาขุนพลที่ทำงานข้างกายกรำศึกทางการเมืองมาด้วยกันอย่างยาวนาน นั้นคือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้รับภารกิจใหม่ ภายหลังแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ถึงกับต้องตาคา “รองภูมิธรรม” ได้คุมกระทรวงกลาโหม เพราะ “นายกฯเศรษฐา” คายอำนาจการบัญชาการกองทัพมาอยู่ในอุ้งมือสายตรง “นายใหญ่” แต่เพียงผู้เดียว

ข่าวที่น่าสนใจ

“นายกฯ” คายอำนาจ “ภูมิธรรม” คุมกองทัพค้ำบัลลังก์รัฐบาลสกัดรัฐประหาร

นับจากนี้ไป “สุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จะมาขึ้นตรงกับ “รองภูมิธรรม” เพียงคนอย่างเดียว รวมถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ อาทิ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.สูงสุด , พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.กองทัพบก , พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.กองทัพเรือ และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.กองทัพอากาศ จากเดิมอำนาจบัญชาการเหล่าทัพอยู่ในกำมือ “นายกฯเศรษฐา” ดังนั้นจากนี้ไปจะไม่มีภาพหลุด เห็น “นายกฯเศรษฐา” เรียกผู้บัญชาการเหล่าทัพไปบรีฟงานสั่งการข้ามหัว “สุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง

“ภูมิธรรม” ถือเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 หรือ สร.2 ที่จะรักษาราชการแทนหาก “นายกรัฐมนตรี” ไม่อยู่ การแบ่งงานครั้งนี้ นับว่า “รองภูมิธรรม” อำนาจใหญ่คับฟ้าอย่างมาก นอกเหนือจากได้คุมกำลังพล 4 เหล่าทัพ ยังได้กำกับดูแลด้านความมั่นคง นั้นคือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอรมน. สยายปีกอำนาจไปถึง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.ที่เป็นกำลังผสมระหว่างพลเรือนและกองทัพทำหน้าด่านหน้าดับไฟใต้ ยุติสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังไม่นับรวมถึงนั่งหัวโต๊ะกุมกำลังฝ่ายปกครองที่อยู่ใต้อาณัติของกระทรวงมหาดไทยในการคอนโทรลของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและเจ้ากระทรวงมท.1 จึงต้องเดาใจนายใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทยว่า การจัดแผงอำนาจใหม่ให้ สายตรงเบอร์ 1 “รองภูมิธรรม” อำนาจล้นฟ้าขนาดนี้หวังผลทางการเมืองอย่างไร

แต่ที่รู้กันดีก่อนหน้านี้ “สุทิน คลังแสง” เจ้ากระทรวงกลาโหม เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม และพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร เป้าประสงค์หลัก คือ “สกัดรัฐประหาร” ด้วยการมอบดาบอาญาสิทธิ์ให้ “นายกรัฐมนตรี” สั่งปลดผู้บัญชาการเหล่าทัพที่แข็งข้อก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ในทางปฏิบัติไม่ได้ผลแต่ในเชิงทฤษฎีถือว่าเป็นการออกกฎเหล็กมาเพื่อข่มขู่ “กองทัพ” อย่ามาลองของเหมือนที่เคยทำกับนายใหญ่ “ทักษิณ” เมื่อปี 2549 หรือ นายหญิงคนแดนไกล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ทั้งถูกปฏิวัติปี 2557 แถมติดร่างแหคดีทุจริตจำนำข้าว โทษจำคุก 5 ปี เป็นเหตุให้ต้องเร่ร่อนพเนจรในต่างแดนตามรอยพี่ชาย แต่กฎเหล็กที่ “สุทิน” งัดออกมาเอาเข้าจริงจะไปขวางทหารไม่ให้ทำปฏิวัติได้หรือไม่เป็นคนละเรื่อง

แต่น่าจะเป็นการวางเกมการเมืองระยะยาวให้รัฐบาลได้อยู่ครบเทอมโดยมี “กองทัพ” ค้ำบัลลังก์ให้รัฐบาลได้อยู่ยาว จึงมอบงานให้ “รองภูมิธรรม” ปิดเกมปัญหาคาราคาซังระหว่างรัฐบาล กับ กองทัพ โดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธยุโธปกรณ์ที่มีมูลค่าเฉียดแสนล้านบาท ทั้งที่เป็นล็อตใหม่ หรือ ล็อตเก่าที่ยังตกค้างอยู่ อาทิ เรือดำน้ำจีน , เรือฟริเกต หรือ ฝูงบินรบมาไว้ประจำการ แลกกับการเอาใจกองทัพ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้งบประมาณสูงเป็นช่องโหว่ที่พรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะ “พรรคก้าวไกล” คู่แค้นกองทัพอยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงจ้องตาเป็นมันคอยถล่มกองทัพ หนีไม่พ้นต้องกระทบชิ่งมายังรัฐบาล

มือขวานายใหญ่ยอมพลีชีพเป่าคดีจำนำข้าวพา “นายหญิง” กลับบ้าน

ยิ่ง “รองภูมิธรรม” เป็นรองนายกฯควบกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงหลักที่สามารถเปิด หรือ ปิดดีลเจรจาจัดแพ็คเกจจัดซื้ออาวุธล็อตใหญ่ได้สบาย ๆ ตัวอย่างเช่น หากต้องการปิดจ็อบซื้อเรือดำน้ำจีน ด้วยการนำสินค้าเกษตรไทยไปแลกมาถือเป็นการค้าต่างตอบแทน ยิ่งไปกางไส้ในการจัดสรรงบประมาณในชั้นกรรมาธิการพิจารณาปี 2567 หรือ กำลังจะตั้งไข่พิจารณางบประมาณใหม่ของ ปี 2568 บรรดาเหล่าทัพยื่นความประสงค์ขอจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มาคิวยาวเหยียด การวางตัว “รองภูมิธรรม” อาจมารับภารกิจนี้ก็เป็นได้

นี่ยังไม่รวมภารกิจส่วนตัวนายใหญ่เพื่อไทยที่ต้องการพาน้องสาวกลับบ้านก่อนสงกรานต์ปีหน้า “รองภูมิธรรม” ถึงกับลงทุนเปลืองตัว นำข้าวเก่าเก็บอายุกว่า 10 ปีในโครงการจำนำข้าว ต้นเหตุทำให้ นายหญิงคนแดนไกลต้องหนีคดี พร้อมกับกินข้าวโชว์สื่อแถมยังชวนให้สื่อช่วยชิม ยกนิ้วโป้งการันตีความหอมอร่อยและไร้กลิ่นหืน “รองภูมิธรรม” ลงทุนยอมพลีชีพยอมเสี่ยงกินข้าวที่ฉีดยากันมอด จึงไม่แปลกเหตุใด ถึงได้มาคุมกระทรวงพาณิชย์

จึงทำให้บรรดากูรูการเมืองอ่านเกมบนกระดานนี้ว่า 1.บริษัทไหนจะคว้าประมูลข้าวไปทำข้าวถุงขาย คำถามคือใครจะกล้าซื้อข้าวที่ถูกรมยาไปกิน และ 2.การที่ “รองภูมิธรรม” เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อการันตีว่า ข้าวเก่าเก็บ 10 ปี ไม่เน่าในโครงการจำนำข้าว ไม่ได้ทำให้รัฐเสียหาย ดังนั้นน้องสาวนายใหญ่ไม่ต้องรับผิดชอบย่อมพ้นมลทินในคดีที่ต้องติดคุก 5 ปี เป็นการปูพรหมแดงให้ “ยิ่งลักษณ์” กลับไทยโดยสะดวกใช่หรือไม่ ที่คาดกันว่าน่าจะเดือนตุลาคมนี้ ด้วยการใช้ “ทักษิณโมเดล” ใช่หรือไม่

กางผังอำนาจ “รองภูมิธรรม” จะเห็นว่า อำนาจใหญ่คับฟ้ายิ่งกว่า “นายกฯเศรษฐา” เสียอีก เป็นรองก็แต่นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้าเท่านั้น เพราะได้อำนาจเบ็ดเสร็จสกัดรัฐประหาร และ คุมกองทัพค้ำบัลลังก์รัฐบาลให้อยู่ครบเทอม แต่ต้องแลกมาด้วยการยอมพลีชีพพานายหญิงกลับบ้านมาให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บ้านจันทร์ส่องหล้า ยังไร้ความเคลื่อนไหว หลัง “อสส.” สั่งฟ้อง “ทักษิณ” คดี 112 สื่อมวลชนปักหลักสังเกตการณ์
"รัฐบาล" สนับสนุน "โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ" เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค 67
“นายกฯ” เน้นย้ำไทยพร้อมเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ ชูนโยบายเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่น
"ทนายธรรมราช" เชื่อมจิต ปากแจ๋ว หลังกสทช.สั่งระงับโหนกระแส "หนุ่ม กรรชัย" เดือดสุดสวน รอกรรมสนองสัตว์บางตัว
ปูตินเตือนตะวันตกอย่าเล่นกับไฟ ด้วยการให้ยูเครนใช้อาวุธโจมตี
"สันติสุข" เปิดผังใหม่ Top News เปิดใจอีกครั้งถึงแฟนข่าว อย่าไปเสียเวลาฟังข่าวลือ
ีจีนวิจารณ์เกาหลีใต้ เร่งคุยสหรัฐหลังจบประชุม
ฝรั่งเศส-เยอรมนี เห็นควร ยูเครนโจมตีฐานทัพในรัสเซีย
“ทนายวิญญัติ” ยืนยัน “ทักษิณ” ป่วยโควิดจริง มีใบรับรองแพทย์ เตรียมมาตามศาลนัด 18 มิ.ย.นี้
ผบ.ทร.รับมอบเงินกว่า 6.4 ล้านบาท จัดซื้อชุดเครื่องมือผ่าตัดหัวใจ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น