No data was found

5 สาเหตุหลัก ส่งร.อ.ธรรมนัส…..สู่ขิต

กดติดตาม TOP NEWS

" ขึ้นเร็ว-ย่ามใจ-พี่ใหญ่คุม-มีกลุ่มเพื่อนเลว- ลงเหวเพราะช่วยแม้ว" ทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุหลักสำคัญที่ "รัฐมนตรีในรัฐบาล-แกนนำพลังประชารัฐ" เห็นตรงกันว่าทำให้ร.อ.ธรรมนัส จบเส้นทางการเป็นรัฐมนตรีสมัยแรกในรัฐบาลเรือแป๊ะอย่างไม่สวย มีรอยตำหนิด่างพร้อย เพราะถูกพล.อ.ประยุทธ์ปลดพ้นเก้าอี้แบบฟ้าผ่า เช่นเดียวกับนางนฤมลที่เป็นลูกคู่ถูกระบุว่าอยู่ข้างกายเป่าหู เล่นเกมส์การเมืองคว่ำนายกฯ แบบไม่รู้จักตัวเอง สุดท้ายก็พังถูกเชือดพ้นเก้าอี้ด้วยกันทั้งคู่

กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงการเมืองเป็นข่าวพาดหัวตัวไม้ในหน้าหนังสือพิมพ์ หลังวานนี้ 9 ก.ย. 2564 เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศพระบรมราชโองการให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม นำความขึ้นกราบบังคมทูลว่า สมควรให้รัฐมนตรีบางคนพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ ประกาศ ณ วันที่ 8 ก.ย.2564 ส่งผลให้ร.อ.ธรรมนัสและนางนฤมลพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีทันที

หนึ่งในรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเปิดเผยกับ “ท็อปนิวส์” ว่า รัฐมนตรีหลายคนไม่มีใครคาดคิดว่าบทสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้จะออกมาแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ก็มีความอะลุ่มอะล่วยและให้เกียรติรัฐมนตรีทุกคนด้วยดีมาตลอด รอบนี้ที่ออกมาแบบนี้เพราะพล.อ.ประยุทธ์คงสุดๆและทนไม่ไหวจริงๆ ทั้งนี้บรรยากาศตอนประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ 7 ก.ย. 2564 ก็ตึงเครียดมาก เพราะปกติระหว่างประชุมนายกฯจะมีการปล่อยมุกออกมาบ้าง แต่รอบนี้ไม่มีเลยประชุมแบบรวดเดียวจบ ไม่มีการพูดคุยหรือสอบถามร.อ.ธรรมนัสกับนางนฤมลเลย ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆในรัฐบาลส่วนใหญ่ก็เลยไม่กล้าคุยกับทั้ง 2 คนไปด้วย อย่างไรก็ตามเท่าที่พูดคุยกับรัฐมนตรีหลายคนก็ไม่มีใครคาดคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์จะใช้ไม้แข็งเด็ดขาดรุนแรงแบบนี้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้กำลังอ่อนไหวและมีปัญหาหลายเรื่องหลายประเด็นให้นายกฯต้องแก้ไข

รัฐมนตรีคนเดิมยังกล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ทำให้ร.อ.ธรรมนัสกล้าท้าทายพล.อ.ประยุทธ์ถึงขั้นวางแผนเดินเกมส์ล้มนายกฯในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา จนนำไปสู่จุดแตกหักที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในการปลดรัฐมนตรีทั้ง 2 คน น่าจะมาจากสาเหตุหลักๆ 5 เรื่อง คือ

1.เติบโตทางการเมืองเร็ว จากอดีตที่เคยเป็นแค่ส.ส.สมัยแรก แต่สามารถขยับสถานะขึ้นมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ก่อนใช้อำนาจเงินสร้างบารมีจนได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค เมื่อ 18 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมาจุดนี้เลยทำให้ร.อ.ธรรมนัสมีความฮึกเหิมว่าสามารถทำอะไรก็ได้ ทั้งๆที่ความจริงประสบการณ์ทางการเมืองของร.อ.ธรรมนัสถือว่ายังน้อยมากเพราะเพิ่งจะเป็นใหญ่มีอำนาจได้ไม่นาน เหลี่ยมคูทางการเมืองความเก๋าเกมส์ยังไม่มี

 

2. ย่ามใจ เพราะเชื่อว่าเงินกระสุนดินดำในมือมีพลังและมีอำนาจพอที่จะซื้อทุกสิ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นส.ส.ในพรรค หรือ ส.ส.พรรคเล็กต่างๆให้มาสนับสนุนตัวเอง ความย่ามใจว่ามีส.ส.ในมือภายใต้สังกัดพรรคพลังประชารัฐ 20-30 คน และสามารถดึงส.ส.พรรคเล็กข้างนอกได้นับสิบเป็นแรงผลักดันให้ร.อ.ธรรมนัสมั่นใจว่า เครือข่ายส.ส.ในมือทั้งในและนอกพรรคที่มีราว 40-50 คน น่าจะสามารถทำให้เดินเกมส์เรื่องใหญ่ได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นคว่ำนายกฯหรือล้มกฎหมายหรือชี้นำเรื่องต่างๆ ตามความต้องการของตัวเอง

3.มีความมั่นใจแบบสุดๆว่ามีแบ็กดีมีผู้ใหญ่ระดับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พี่ใหญ่ 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์หนุนหลัง ตรงนี้จึงทำให้ร.อ.ธรรมนัสห้าวหาญกล้าทำเรื่องใหญ่เกินตัว ถึงขั้นท้าทายอำนาจนายกฯ คิดหวังเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ รวมถึงที่ผ่านมาหลายเรื่องก็ตัดสินใจโดยพลการตามอำเภอใจ เพราะคิดว่าตัวเองมีพี่ใหญ่มีหัวหน้าพรรคอย่างพล.อ.ประวิตรให้ท้าย

4.ไม่มีคนคอยให้คำแนะนำปรึกษาที่ถูกต้อง ขาดเพื่อนไร้มิตรสหายที่ดีในการทำการเมือง เห็นได้ชัดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัสไม่ค่อยฟังใครในพรรคการหารือปัญหาหรือเรื่องส่วนใหญ่จะคุยแค่คนในกลุ่ม 4 ช. ที่เป็นก๊วนเดียวกัน คือนางนฤมล นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ภายหลังเกิดปัญหาระหองระแหงระหว่างกันจึงขอแยกตัวออกไปแล้ว ด้วยเหตุร.อ.ธรรมนัสจึงมีมุมมองแคบ การมองแต่ละเรื่องแต่ละปัญหาไม่ได้ถูกวิเคราะห์อย่างถ่องแท้ แม้จะมีนางนฤมลและนายอธิรัฐอยู่ใกล้ตัว แต่ส่วนใหญ่ก็หนักไปทางเออออห่อหมก ลักษณะลูกขุนพลอยพยักมากกว่า โดยเฉพาะนางนฤมลที่คอยเป่าหูชี้แนะเรื่องต่างๆร.อ.ธรรมนัสเรื่อยไปจนถึงตัวพล.อ.ประวิตร จนทำให้ส.ส.ในพรรคและหลายคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก ตรงนี้จึงทำให้เป็นจุดอ่อนของร.อ.ธรรมนัส หลายครั้งหลายคราวเดินเกมส์ผิดอ่านไลน์พลาด ไม่เท่าทันสถานการณ์อ่านเกมส์การเมืองไม่ขาด เห็นได้ชัดจากการสร้างขบวนการโค่นล้มนายกฯ ในศึกซักฟอกที่ผ่านมาแบบไม่ประเมินกำลังความสามารถของตัวเอง

5.ตัดทักษิณไม่ได้ทิ้งอำนาจเก่าไม่ขาด ทำให้ถูกมองว่ารับงานจากนายทักษิณ ชินวตร อดีตนายกฯหนีคดีอาญามาเลื่อยขาเก้าอี้นายกฯ ทั้งๆที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้านายตัวเองเป็นผู้นำประเทศเป็นคนที่พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนให้มาบริหารประเทศ แต่ร.อ.ธรรมนัสกลับมาทรยศหักล้างทำลาย ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐมนตรีในรัฐบาล แกนนำหลายคนในพรรคพลังประชารัฐรับไม่ได้ โดยเฉพาะลักษณะการแสดงออกแบบต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง ทั้งๆที่พล.อ.ประยุทธ์ให้โอกาสขึ้นชั้นมาเป็นรัฐมนตรีแต่กลับมาล้มล้างอกตัญญูคนที่มีบุญคุณทางการเมือง ที่ในทางการเมืองถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมากสำหรับการหักหลังเจ้านายตัวเอง

ด้านแกนนำระดับสูงของพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า หลังจากนี้อนาคตของร.อ.ธรรมนัสน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ประการแรกหากร.อ.ธรรมนัสอยู่ต่อเชื่อว่าจะเกิดคลื่นใต้น้ำในพรรคพลังประชารัฐและส่งผลกระทบถึงรัฐบาลรวมถึงตัวพล.อ.ประยุทธ์ไปตลอด เพราะร.อ.ธรรมนัสแม้จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่ก็เป็นคนที่คุมเสียงส.ส.มีอำนาจต่อรองในสภา เพราะฉะนั้นพล.อ.ประยุทธ์จะทำงานลำบากและต้องเจออุปสรรคเป็นอย่างมากในอนาคต ประการที่สองหากร.อ.ธรรมนัสไขก็อกลาออกจากพรรคพลังประชารัฐไปตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือย้ายไปอยู่พรรคอื่น ตรงนี้ก็จะทำให้พรรคพลังประชารัฐมีปัญหาหนักอีก ทั้งในแง่เงินท่อน้ำเลี้ยงที่จะมาดูแลส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐรวมถึงพรรคเล็กต่างๆ ที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล อย่าลืมว่าร.อ.ธรรมนัสคือหัวจ่ายหลักคือท่อน้ำมันของพรรคพลังประชารัฐ ก่อนหน้านี้ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงหัวใจรัฐบาล ที่ผ่านมาก็มีข่าวมาตลอดว่าเป็นคนดูแลส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐหลายสิบคนเช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร

อย่างไรก็ตามต้องดูว่าอนาคตพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตรจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับร.อ.ธรรมนัส โอกาสกลับมารวมงานกันได้อีกครั้งก็มี โดยเฉพาะหากใกล้ถึงเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าร.อ.ธรรมนัสก็น่าจะมีประโยชน์และเป็นกำลังหลักสำคัญของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งเที่ยวหน้าได้ แต่ชั่วโมงนี้ยังไงก็ต้องถอยต้องลดบทบาทลดเพดานการเมืองลงไปก่อน เพราะสร้างเรื่องใหญ่เกินตัว คิดจะล้มนายกฯเปลี่ยนขั้วรัฐบาลทอดสะพานให้นายทักษิณกลับบ้าน เรื่องแบบนี้คนฉลาดหลักแหลมจุดยืนหนักแน่นมั่นคงอย่างพล.อ.ประยุทธ์เขาไม่ยอมง่ายๆ แน่นอนบทสุดท้ายจึงออกมาแบบนี้ ขณะที่พล.อ.ประวิตรก็เสียรังวัดไม่น้อยจากเรื่องนี้ เพราะถูกมองว่าให้ท้ายร.อ.ธรรมนัสและนางนฤมลมาตลอด และคงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง 3 ป. คือพล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สั่นคลอนมีปัญหาบ้างในช่วงนี้ แต่ระยะยาวเขาเคลียร์กันได้อยู่แล้ว เพราะทั้ง 3 คน ร่วมเป็นร่วมตายผ่านอุปสรรคปัญหามามาก คงไม่แตกกันเพราะเรื่องแบบนี้ เพราะยังมีเรื่องสำคัญๆ ที่ต้องช่วยกันอีกมาก
/////////////////////////

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัสเซีย-รัฐอิสลาม อาจถูกทำให้เกิดข้อขัดแย้ง
ปาเลสไตน์ตั้งรัฐบาลใหม่
เกาหลีใต้เปิดฉากหาเสียงเลือกตั้ง
อิสราเอลยอมรับ ไม่สามารถโค่นฮามาสสิ้นซาก
กต.สั่งตรวจสอบภาพ "ทหารอิสราเอล" ชูธงชาติไทย หวั่นเกิดผลกระทบตามมา
"พิพัฒน์" kick off ตรวจสุขภาพเชิงรุกสถานประกอบการทั่วประเทศ ดีเดย์ปทุมธานีที่แรก คัดกรองโรคทันสมัย รู้ผลรวดเร็ว
"คุรุสภา" ไม่รอช้า สั่งพักใบอนุญาตวิชาชีพ "รองผอ.ร.ร.ดัง" ย่านนนทบุรี คดีค้ายาเสพติด
รู้จัก "เห็ดขี้ควาย" หนุ่มสถาปัตย์เพาะขาย 2 ปี โกยหลายแสนบาท
“รองแต้ม” ไม่ปลื้ม หลังถูกอ้างชื่อเอี่ยวคดี “ส่วยเว็บพนันฯ” ชี้ปม “ทนายตั้ม” แฉวงการสีกากี ต้องยึดตามพยานหลักฐาน
สหรัฐ เยเลนจะเตือนจีนเรื่องเงินหนุนอุตสาฯพลังงานสะอาด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น