เยอรมนีปฏิเสธ ไม่ได้ช่วยอิสราเอล

ไม่ผิดคาด! เยอรมนีปฏิเสธข้อกล่าวหาของศาลโลก ที่ว่าเยอรมนีกำลังช่วยอิสราเอล ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา เพราะยังคงค้าอาวุธให้อยู่ โดยยืนยันส่งแค่ของป้องกัน และเคารพกฎหมายระหว่างประเทศเสมอ

หลังจากที่นิการากัว ยื่นเรียกร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (หรือ ICJ) แห่งกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้ออกคำสั่งฉุกเฉินถึงเยอรมนี หยุดความช่วยเหลือทางทหารเช่นการค้าอาวุธแก่อิสราเอลทันที พร้อมระบุว่า เยอรมนีได้ละเมิดอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948 และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยยังคงให้ความช่วยเหลือแก่อิสราเอลต่อไป แม้จะตระหนักดีว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ในเรื่องนี้ ทางด้านของเยอรมนี ก็ได้ออกมาตอบโต้กลับในวันต่อมา ต่อหน้าผู้พิพากษาที่ศาล ICJ โดยนางทาเนีย ฟอน อุสลาร์-ไกลเคิน ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนี กล่าวว่า คดีของนิการากัวดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และอยู่บนพื้นฐานของมูลเหตุหลักฐานที่ไม่ชัดเจน การส่งออกอาวุธนั้นได้รับการตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่า ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ เยอรมนีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดำเนินไปตามความรับผิดชอบ ทั้งต่ออิสราเอลและปาเลสไตน์

ฟอน อุสลาร์-ไกลเคินกล่าวต่อว่า เยอรมนีก็เป็นผู้บริจาครายใหญ่รายหนึ่งของปาเลสไตน์ แต่ความมั่นคงของอิสราเอลก็เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับเยอรมนี เนื่องจากมีประวัติศาสตร์ของการสังหารหมู่ชาวยิวจากนาซี ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยเยอรมนีได้เรียนรู้จากอดีต อดีตที่ต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่น่ากลัวที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

ด้านนายคริสเตียน แทมส์ ทนายความของเยอรมนี ก็ได้กล่าวต่อศาลว่า เยอรมนีทำงานร่วมกับพันธมิตรจำนวนนับไม่ถ้วนผ่านเส้นทางต่างๆ โดยไม่ละเลยที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความร่วมมือนี้ (หรือกฏหมายฉบับแก้ไขระหว่างเยอรมนีและอิสราเอล) ก็ตั้งอยู่บนกรอบกฎหมายที่แข็งแกร่ง ซึ่งประเมินคำขอใบอนุญาตส่งออกเป็นแต่ละกรณีไป เรารับประกันได้ถึงการปฏิบัติตามกฎหมายภายในประเทศ และพันธกรณีระหว่างประเทศของเยอรมนีด้วย

แทมป์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากเราดูสิ่งที่ได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกไปยังอิสราเอลได้จริง ภายใต้กรอบการทำงานนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เราจะไม่เห็นการส่งกระสุนใหญ่เลย โดยการส่งออกเกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่ายุทโธปกรณ์ทางทหาร ที่อยู่ในระดับของการป้องกัน เช่น เสื้อกั๊ก หมวกกันน็อค และกล้องส่องทางไกล เท่านั้น

ขณะเดียวกัน ทางนางแอนนาเลนา แบร์บ็อค รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี ก็ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้เช่นกัน โดยระบุว่า เราได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่า เราผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ที่แสดงถึงสิทธิของทุกรัฐในการป้องกันตนเอง ซึ่งหมายความว่าอิสราเอล มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเองจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ใน โลก อย่างไรก็ดี รัฐบาลเยอรมนีก็ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนเสมอว่า รัฐบาลอิสราเอลจะต้องแยกแยะระหว่างผู้ก่อการร้ายกลุ่มฮามาสกับประชาชนพลเรือน และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาด้วย

สำหรับเยอรมนีนั้น ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แข็งแรงที่สุดของอิสราเอล นับตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว รวมถึงเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์อาวุธรายใหญ่ที่สุดด้วย และเมื่อครั้งที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้ทำการลงมติเรียกร้องให้นานาประเทศ หยุดขายหรือจัดส่งอาวุธให้กับอิสราเอล เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วนั้น เยอรมนีก็ได้คัดค้านมตินี้ ร่วมกับสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการขัดแย้งกับประเทศยุโรปอื่นๆ ที่ส่วนมากแล้ว ต้องการให้หยุดส่งอาวุธไปยังอิสราเอล

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พชร" ยันไทยสร้างระบบป้องกันถัยโจมตีไซเบอร์แข็งแกร่ง ชี้จำเป็นจัดหาอุปกรณ์ควบคุมโดรน
“แม่ทัพภาพ 2” กำชับกำลังพลระมัดระวัง เดินหน้าใช้เทคโนโลยีกู้ทุ่นระเบิด ย้ำสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดน้อยลง ปชช.ทยอยกลับบ้านแล้ว
“อดีต สว.สมชาย” ยังมั่นใจยุติธรรมไทย เปิดไทม์ไลน์ตัดสิน 3 คดี นำเปลี่ยนแปลงประเทศ
ชลบุรี ตำรวจพัทยารวบหนุ่มอินเดียคาโรงแรม ทำสลิปโอนปลอมเกือบแสน
ธารน้ำใจ ! ชาวเมืองพัทยาหลั่งไหล ระดมอาหาร น้ำดื่ม และข้าวของเครื่องใช้ส่งไปช่วยเหลือ ทหาร ปชช. ชายแดนไทย-กัมพูชา
"ป.ป.ส." ส่งเส้นผม “เป๊ก ผลิตโชค” ตรวจหาสารเสพติดแล้ว หลังปฏิเสธตรวจเลือด ปมทะเลาะเดือดกลางปั๊มน้ำมัน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​