“ทนายตั้ม” ตามรอย “บิ๊กต่อ” สอบเงินบริจาควัดนครอินทร์

"ทนายตั้ม" ตามรอย "บิ๊กต่อ" สอบเงินบริจาควัดนครอินทร์

เมื่อช่วง 10 โมง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ประธานมูลนิธิทนายเพื่อประชาชน พร้อมภรรยา เดินทางมาที่วัดนครอินทร์อำเภอเมืองจังหวัดนนทบุรี เพื่อมาทำบุญและไหว้พระ หลังพบหลักฐานเส้นทางการเงิน จากเว็บพนันออนไลน์มีการโอนเข้าร่วมทำบุญบริจาคสร้างอุโบสถวัด

เมื่อมาถึงวัดทนายตั้มและภรรยาได้เข้าไปกราบ หลวงพ่อทันใจ และร่วมทำบุญเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท โดยการหยอดใส่ตู้

จากนั้นทนายตั้มได้มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเองได้รับข้อมูลมาว่า มีผู้นำเงินที่ไม่บริสุทธิ์มาถวายวัด จึงชวนสื่อมวลชนมาดูที่วัด และมาทำบุญโดยที่นำเงินจากหยาดเหงื่อแรงกายขแงตัวเอง มาทำบุญเพื่อให้วัดสร้างเจดีย์ให้สำเร็จ นอกจากนี้ยังมาดูว่าอุโบสถที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว

 

 

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่า เจ้าอาวาสวัดไม่น่าจะทราบว่า ใครจะนำเงินมาอย่างไร แต่คนที่นำเงิน ที่ได้จากการกระทำความผิดหรือส่วย หรือเงินที่ได้จากการขูดรีดประชาชนมาทำ คิดว่าจะได้บุญน้อยกว่าคนที่เป็นชาวบ้านที่บริจาคเพียงเล็กน้อย

สำหรับเส้นทางการเงิน ที่พบว่ามีการนำมาร่วมทำบุญที่วัดนครอินทร์ ทนายตั้มกล่าวว่า ตนเองตรวจพบ เส้นทางการเงินจำนวน 2 เส้น จากบัญชีม้าที่รับมาจากเว็บพนัน มีการโอนเข้ามาครั้งแรก เป็นจำนวนเกิน 100,000 บาท และครั้งที่สอง อีก700,000 บาท

โดยในส่วนของเส้นเงินที่โอนมาทำบุญที่วัดนครอินทร์ มาจากบัญชีม้า คือ นายคชาชาญกับนายณัฐพงศ์ เป็นเงินทำบุญ ซึ่งมีการโอนตรงเข้าวัดนครอืนทร์โดยตรง ต่อมาตนเองมีพบหลักฐานสำคัญว่า วัดได้มีการโพสต์ผ่านโซเชียล เพื่อขอบคุณพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่ร่วมบริจาคเงินทำบุญครั้งนี้

ส่วนที่ตนเองโพสต์ลง Facebook ล่าสุดเมื่อคืน การพบเส้นทางการเงินครั้งใหม่ ที่ เชื่อมโยงไปถึงภรรยาของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ รวม 38 เส้นเงิน เมื่อครั้งที่พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีการจ่ายเงินเดือนละ100,000 บาท ต่อมา พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการปรับมาจ่ายเป็นรายเดือน เหลือเดือนละ 59,000 บาท ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปี 2023

ทนายตั้ม ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ต้องจ่ายเงินลดลง เพราะตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เก็บส่วยได้น้อยกว่าเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเงินส่วนนี้ตนเองเชื่อว่าถ้ามีความผิดน่าจะเป็นความผิดรายกรรม

 

 

ทนายตั้มยืนยันชัดเจนว่าพบเส้นทางการเงินชัดเจนแล้วที่เข้ามาที่วัดแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงินโอนหรือเงินบริจาคจึงอยากเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้ามาตรวจสอบ ว่าจำนวนเงินทำบุญดังกล่าวมีที่มาอย่างไร แต่เนื่องด้วยวัดไม่ได้ทำบัญชี งบการเงินที่ชัดเจนวัดอาจยังไม่ได้ส่งรายงานให้สำนักพุทธ

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่า วัดมีการออกใบอนุโมทนาบุญให้ทนายตั้มบอกว่าไม่สำคัญเนื่องจากการออกใบอนุโมทนาบุญเป็นการออกเพื่อลดหย่อนภาษีเท่านั้น เชื่อว่าผู้ที่ตอบคำถามเรื่องเส้นทางการเงินบริจาคได้น่าจะมีเพียงเจ้าอาวาสวัด เลขาและวัยยาวัจกรซึ่งก็คือพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ เพราะเจ้าตัวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไวยาวัจกร จากเจ้าอาวาสวัดนครอินทร์โดยตรง

ทนายตั้มกล่าวต่อไปว่า วันจันทร์นี้(1เม.ย.) เวลา 10:00 น ตนเองจะไปแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ภรรยา นายคชาชาญและนายณัฐพงษ์ สองบัญชีม้าข้อหาร่วมกันฟอกเงิน เพราะมีหลักฐานชัดเจนแล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีของลองฟางและดาบยาว เป็นหน้าที่ของตำรวจปปป.ที่จะต้องสอบสวนขยายผลต่อไป ที่ตนเองร้องขอให้มีการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า กรณีที่ทีมทนายความของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ที่ได้รับมอบอำนาจจากพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ให้มาฟ้องทนายตั้ม ก็น้ำกันกล่าวหาว่าทนายตั้มได้เอกสารหลักฐานต่างๆมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมีการแอบเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ทนายตั้มยืนยันว่าถ้าเอกสารไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ให้ไปฟ้องได้เลย ตนเองไม่ได้ต้องการดิสเครดิตใคร และเอกสารที่ได้มา ถ้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็คงไม่มีใครไปกล้าฟ้อง ผบ. ตร. ส่วนที่ทนายความของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ท้าให้เปิดหลักฐาน ตนเองมองว่าต้องเปิดทั้งในชั้นศาลและเปิดให้สังคมได้รับรู้ด้วย

ส่วนคดีของนางพิมวิไลเจ้าของเว็บพนันบีเอ็นเค มาสเตอร์ ที่นำหลักฐานไปมอบให้พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายตั้มบอกว่า เส้นทางการเงินของนางพิมวิไล ตนเองต้องการให้ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบ ยังไม่ถึงกับแจ้งความร้องทุกข์ โดยในวันพรุ่งนี้(31มี.ค.)ช่วงบ่าย ตนเองก็จะเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่บก.ปปป.อีกครั้ง

 

ทนายตั้ม บอกว่า ตอนนี้ สบายใจขึ้น ส่วนความหนักใจจะตกอยู่กับอีกฝั่งหนึ่งแทน ยืนยันไม่ได้มาทำเพื่อบิ๊กโจ๊กหรือทำเพื่อใคร

สำหรับวิหารวัดนครอินทร์ มีความสูง 9 ชั้น เริ่มตอกเสาเข็มเมื่อ 4 ปีก่อน และขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเฉพาะชั้น 1 สถานที่ประดิษฐานพระวลีโรจนะพุทธมหามุนี องค์พระประธานประจำวิหาร ที่จะเปิดให้พระ และประชาชนเข้ามาสวดมนต์ ไหว้พระได้แล้ว

 

 

โดยวัตถุประสงค์การก่อสร้างวิหารวัดนครอินทร์ไว้ 4 ข้อ คือ

1.เพื่อประดิษฐานบรมสารีริกธาตุบนยอดเจดีย์พระเกตุแก้วจุฬามณี

2.เพื่อประดิษฐานพระวลีโรจนะพุทธมหามุนี องค์พระประธานประจำวิหาร

3.เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาพระปริยัติธรรม

4.เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระ และประชาชน โดยงบประมาณในการก่อสร้างวิหารวัดนครอินทร์นั้นอยู่ที่ 55 ล้านบาท โดยมีชื่อพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นไวยาวัจกร และที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ของวัดนครอินทร์แห่งนี้ด้วย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี
"ชัยวัฒน์" ร้องศาลปกครอง โดนไล่ออกไม่เป็นธรรม ปมป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตฮั้วสร้างตึกอุทยานฯ
โอกาสทอง ! เปิดให้เช่าพื้นที่ตลาดศาลายา เพื่อประกอบกิจการ ทำเลดีจากการเคหะแห่งชาติ
จันทบุรี องคมนตรี ตรวจเยี่ยมแนวชายแดนบ้านแหลมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น