“3 นิ้วฮ่องกง” หนาวไส้ กม.ใหม่สุดโหด จับกบฎติดคุกตลอดชีวิต-ห้ามต่างชาติยุ่งกิจการภายใน

“3 นิ้วฮ่องกง” หนาวไส้ กม.ใหม่สุดโหด จับกบฎติดคุกตลอดชีวิต-ห้ามต่างชาติยุ่งกิจการภายใน

ทำเอาแก๊ง 3 นิ้วในฮ่องกงขนหัวลุกขึ้นมาเลยล่ะค่ะ เมื่อสภานิติบัญญัติฮ่องกงมีมติเอกฉันท์ ผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่กำหนดการลงโทษเข้มงวด เช่น คดีกบฏ อาจถูกจำคุกตลอดชีวิต และถ้าขโมยความลับของรัฐบาล มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี โดยเตรียมบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ด้านสหประชาชาติ สหรัฐ และอังกฤษ ออกมาเคลื่อนไหวดิ้นกันเป็นแถวๆ พากันประณามกฎหมายนี้ ว่าผ่านกระบวนการรับรองอย่างรวดเร็วได้อย่างไร แม้ว่าจะมีเสียงเตือนจากตะวันตกว่า กฎหมายดังกล่าว อาจเป็นการจำกัดเสรีภาพในฮ่องกงก็ตาม

นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวในคำแถลงว่า เป็นเรื่องน่าตกใจ ที่การออกกฎหมาย ถูกส่งผ่านสภานิติบัญญัติอย่างเร่งรีบ แม้ว่าจะมีข้อกังวลร้ายแรง เกี่ยวกับความไม่สอดคล้องของบทบัญญัติหลายข้อ กับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

คำแถลงของเขาเตือนว่า บทบัญญัติที่กำหนดบทลงโทษ ฐานความผิดอาชญากรรมใน 5 หมวดหมู่ ได้แก่ การกบฏ, การก่อจลาจล, การขโมยความลับของรัฐ และการจารกรรม, การก่อวินาศกรรม ที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ และการแทรกแซงจากภายนอก ได้มีการกำหนดไว้อย่างกว้างๆ และคลุมเครือ อาจนำไปสู่การนำกฎหมายไปใช้ในทางที่ผิด และโดยพลการ ต่อการกระทำต่างๆ ที่ได้รับการคุ้มครอง ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ อีกทั้งอาจพุ่งเป้าไปที่กลุ่มที่เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็น นักข่าว นักวิจัย ผู้มีบทบาทภาคประชาสังคม และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

เขาชี้ว่าบทบัญญัติเรื่อง “การแทรกแซงจากภายนอก” และคำจำกัดความกว้างๆ ของคำว่า “กองกำลังภายนอก” มีความเสี่ยง ที่จะส่งผลกระทบที่น่าหวาดกลัวเพิ่มเติม ต่อการมีส่วนร่วม ของนักปกป้องสิทธิ์ กับหน่วยงานด้านสิทธิ์ของสหประชาชาติ และทิ้งท้ายว่า การที่กฎหมายสำคัญ ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อสิทธิมนุษยชนดังกล่าว ผ่านมติโดยไม่มีกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ และการหารืออย่างจริงจัง ถือเป็นก้าวถอยหลัง สำหรับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง

ส่วนสหรัฐ เล่นใหญ่กว่าใครเพื่อน ออกมาแสดงความตื่นตระหนกเกี่ยวกับการผ่านกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน โดยมองว่า เสรีภาพจะถูกจำกัด นาย เว แดนท์ ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารว่า สหรัฐเชื่อว่า การกระทำเช่นนี้ จะเร่งทำให้สังคม ที่ครั้งหนึ่งของฮ่องกง เคยเป็นแบบเปิดกว้าง ปิดตัวลง และรู้สึกตื่นตระหนกกับการกวาดล้าง และบทบัญญัติที่กำหนดไว้อย่างคลุมเครือ

ด้านนายเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าว จะทำลายสิทธิและเสรีภาพในฮ่องกง และมีผลกระทบในวงกว้างต่อหลักนิติธรรม และความเป็นอิสระของสถาบันต่างๆ อีกทั้งคำจำกัดความกว้างๆ ของความมั่นคงของชาติ และการแทรกแซงจากภายนอก จะทำให้ผู้ที่อาศัย ทำงาน และทำธุรกิจในฮ่องกง ลำบากมากขึ้นตามไปด้วย

ฟังดูแล้ว ก็คล้ายๆ บ้านเราเลยนะคะ ที่จะมีคนบางกลุ่มเดือดร้อนกับกฎหมายบ้านเมือง เช่น กฎหมายมาตรา 112 ทั้งที่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่เค้าทำมาหากิน ใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่มีใครเลยที่ต้องเดือดร้อนกับกฎหมายฉบับนี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​