“พิพัฒน์”ปลื้มผลสำเร็จหารือรมว.แรงงานเกาหลีใต้ เพิ่มโควต้างานภาคอุตฯอีก 15%

"พิพัฒน์"ปลื้มผลสำเร็จหารือรมว.แรงงานเกาหลีใต้ เพิ่มโควต้างานภาคอุตฯอีก 15%

วันที่ 14 มีนาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน และนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เข้าเยี่ยมคารวะ นายลี จอง ชิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการจ้างงาน แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ณ กระทรวงแรงงานและการจ้างงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อหารือข้อราชการ ประเด็นการเพิ่มโควตาจัดส่งแรงงานไทย ภายใต้ระบบแรงงานต่างชาติ EPS และการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยมีนายบัญชา ยืนยงจงเจริญ อุปทูต ณ กรุงโซล นายนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สาธารณรัฐเกาหลีมีนโยบายกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราสูงตามภาวะการครองชีพ และมีกฎหมายมาตรฐานแรงงานที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตการทำงาน ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นจุดหมายสำคัญในการเดินทางไปทำงานของแรงงานต่างชาติทุกชาติ ไม่เว้นแรงงานชาวไทย ประกอบกับเกาหลีใต้ขาดแคลนแรงงานทักษะต่ำ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิตขนาดกลางและขนาดย่อม งานภาคเกษตรกรรม และงานบริการ ซึ่งฝ่ายไทยได้เจรจาขอเพิ่มโควตานำเข้าแรงงานต่างชาติ (EPS) ในปี 2567 สำเร็จ โดยเกาหลีใต้เพิ่มโควตางานภาคอุตสาหกรรม เป็น 5,500 อัตรา หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากปี 2566 และยังชื่นชมกระบวนการจัดส่งแรงงานโดยกรมการจัดหางานว่าเป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ จึงให้ประเทศไทยจัดส่งแรงงานภาคบริการ และท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งประเภทกิจการ เพื่อไปทำงานในโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของแรงงานเพศหญิง

 

นอกจากนี้ ยังเสนอการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ตามโครงการเปลี่ยนวีซ่าแรงงานไร้ฝีมือ E-9 เป็นแรงงานฝีมือ วีซ่า E-7-4 เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะให้เกาหลี พร้อมกับช่วยให้แรงงานไทยมีรายได้ สวัสดิการ และเงื่อนไขการพำนักในเกาหลีที่ดีขึ้น โดยฝ่ายไทยยังเสนอให้พิจารณาโควตาทักษะฝีมือ (E-7) ให้แรงงานไทย ซึ่งฝ่ายเกาหลีจะรวบรวมข้อเสนอจากประเทศผู้ส่งให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ฝ่ายไทยเสนอให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาขยายระยะเวลาโครงการนิรโทษกรรม เพื่อเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ทางการเกาหลีแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้ แต่การแก้ไขปัญหาแรงงาน ผิด กฎหมายของฝ่ายไทย จะส่งผลดีต่อการพิจารณาโควตาแรงงานไทยในปีต่อๆไป

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มโอกาสการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ตามนโยบายที่นายพิพัฒน์ มอบไว้ให้กรมการจัดหางาน ซึ่งการจะบรรลุวัตถุประสงค์ได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ในการแสวงหาโอกาส ลดข้อจำกัด และสร้างสรรค์แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ความต้องการของประเทศผู้รับ และประเทศผู้ส่งแรงงานสอดคล้อง เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ไปพร้อมกับส่งเสริมแรงงานไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​