วันที่ 7 ก.ย. – นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการทำงานและการแก้ปัญหาในสถานการณ์โควิด-19 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาวโหมว่า ตนอยากจะบอกพี่น้องประชาชน และใครก็ได้บอกท่านนายกฯด้วย โรคโควิด -19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ทุกรัฐบาลในโลก ไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่มีทฤษฎี ไม่มีสูตรในการแก้ปัญหา หมอที่อยู่ข้างกายนายกฯ ไม่ว่าหัวหงอกหัวดำ ก็ไม่เคยผ่านมาทั้งนั้น ระบบสาธารณสุขของไทยถูกออกแบบมา คนป่วยไอซียู 1 คน 1 เตียง อยู่ได้ 5 วัน แต่ผู้ป่วยโควิดนั้นอยู่ 15 วัน ถึง 30 วัน ในบางรายก็มากกว่านั้น ทำให้เกิดปัญหาไม่มีเตียงรองรับ ก็มะงุมมะหรากันทุกรัฐบาลทั่วโลก มีสภาพคล้ายๆกัน
นายชาดากล่าวว่า แต่สิ่งที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ต้องรู้ คือท่านขาดจิตวิทยามวลชน ท่านไม่ออกมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในกทม. ตามชุมชนต่างๆ และท่านก็ไม่เคยออกมารับรู้ปัญหาด้วยตาด้วยตัวของท่าน ท่าน work from home. ตนจะบ้าตาย ทีมที่ปรึกษาคนไหนแนะนำ ให้ไปโดดน้ำ… ผู้นำไม่ใช่อยู่กับบ้าน ไม่สมกับเป็นชายชาติทหาร ต้องออกดูปัญหาออกมารับรู้เพื่อเห็นสภาพความเป็นจริง นายกต้องรู้ว่าระบบราชการไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไข้ปัญหาขนาดใหญ่ อุทกภัย วาตภัย และโรคระบาด
นายชาดากล่าวอีกว่า ขอยกตัวอย่าง สมัยท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ น้ำท่วมใหญ่ ปี 54 คุณสรยุทธ์เป็นพระเอก ประชาชนมาบริจาคเป็นร้อยล้าน แต่ไม่บริจาคให้รัฐบาล สมัยท่านนายกฯ ประยุทธ์ น้ำท่วมภาคอีสานเมื่อไม่นานมานี้ คุณบิณฑ์เป็นพระเอก โรคระบาดครั้งนี้มูลนิธิเส้นดายเป็นพระเอกประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกก็ว่าได้ ที่ประชาชนออกมาช่วยประชาชน หน่วยงานของรัฐทุกระบบ ที่ไม่ใช่บุคลากรทางสาธารณสุข บางหน่วยบางคน ไม่ร่วมแรงร่วมใจ แต่ก็มีจำนวนมากที่เหน็ดเหนื่อย แต่ระดับอธิบดีแทบทุกหน่วย ทำตัวเป็นปกติ นี่คือปัญหาของระบบราชการไทย ที่ไม่รู้จักคำว่าลงแขกช่วยเหลือกัน รู้แต่ว่าหน้าที่กูหน้าที่มึง เหมือนกับร่างกายมนุษย์ที่ใช้งานแค่สองนิ้วสามนิ้ว เมื่อไม่ได้ช่วยกันทั้งหมด งานย่อมมีปัญหาแน่นอน
นายชาดากล่าวต่อว่า ส่วนวัคซีนซิโนแวค มีประเทศจีนให้ความสำคัญกับเราช่วยเหลือเรา ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ประเทศตะวันตก ใครบ้างมาดูเเลเราในสภาพตอนนั้น บางคนโจมตี รัฐบาลจีน แต่ตัวเองฉีดวัคซีนเข็มแรกของจีน ก่อนใครใครทั้งหมด รอดมาจนถึงทุกวันนี้ก็มีเยอะ ยังไปด่าเขา เนรคุณรึป่าว? และที่สำคัญในกรุงเทพมหานครฯ ไม่มีสาธารณสุขจังหวัด และไม่มีสาธารณสุขอำเภอ กทม.รับมือไม่ไหวหรอก มหาดไทยก็นิ่งเฉย ปล่อยกรุงเทพเหมือนเมืองซอมบี้ ศักยภาพ กทม. เลยทำงานเหมือนคนโดดเดี่ยว ตนเขียนมาวันนี้ ม่ได้คิดโจมตีใคร นายกฯต้องมองคนที่ให้คำแนะนำผิดๆ บ้าง เช่น การรวบอำนาจตามกฎหมาย 30 กว่าฉบับ มาไว้ที่ ศบค. แล้วก็กลายเป็นทำงานคนเดียว ชุดเดียวกลุ่มเดียว กระทรวงกรมต่างๆ นิ่งเฉย อยู่ดีๆ ตัวใหญ่ขึ้นแต่คนช่วยทำงานไม่มี เอาปลัดกระทรวงมานั่ง แต่ไม่ได้เอาหัวเอาหางมา มีกำลังพลมากมายในประเทศกลับไม่มีค่า ขาดความร่วมมือ ส่วนอื่นๆ ก็ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ บารมีท่านเป็นนายกฯ มา 7-8 ปี ไม่ต้องเอาอำนาจตามกฎหมายมาถือไว้ ไร้ประโยชน์
ในทางกลับกัน ถ้านายกฯไม่ไปดึงอำนาจมา แต่บริหารจัดให้กระทรวงนี้ไปรับผิดชอบเรื่องศูนย์พักคอย กระทรวงนี้ไปรับผิดชอบโรงพยาบาลสนาม อีกกระทรวงไปรับผิดชอบการขนส่งผู้ป่วยเป็นต้น นายกฯ ก็คงไม่ต้องโดนด่ามากมาย ตนอาจจะคิดผิดก็ได้ แต่ท่านนายกฯ วันนี้อุทัยธานี เตียงสนาม ศูนย์พักคอย คนป่วยเริ่มน้อย กำลังจะปิดบางส่วน ถ้าท่านนายกฯ รู้ข้อมูลอาจจะให้อุทัยธานี ช่วยเหลือคนป่วยจากที่อื่น อีกสัก 400-500 คน ที่อาการไม่หนัก นี่คือตัวอย่าง ตนไม่ได้เก่งกาจ หรืออาจจะผิดก็ได้ แต่คือคนที่อยู่ในระบบราชการมาพอสมควร จึงเขียนมาเป็นอีกหนึ่งความคิด อย่าได้โกรธกัน คนเราต้องทบทวนบ้างว่าอะไรมิตรแท้ ไม่ใช่ใครออกมาเสนอแนะอะไรก็โดนสวนกลับทั้งที่พูดด้วยความจริงใจ ที่ตนพูดมาก็ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าใครก็ตาม อย่าได้โกรธเกลียดกันเลย
