“นายกฯ” สั่งกองทัพเข้าไปช่วยเสริมกระจายรถรับผู้ป่วยตามบ้านเข้ารับการรักษา ประสาน กทม.-ฝ่ายปกครองพื้นที่ เข้าไปฆ่าเชื้อทำความสะอาดที่พักอาศัยผู้ป่วยด้วย ขอจนท.ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.64 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการทุกเหล่าทัพ ประสานการทำงานกับ กระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เร่งจัดกำลังพล ยานพาหนะและบุคลากรทางการแพทย์ทหารเข้าไปช่วยเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการขนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อตามที่พักอาศัยที่มีแจ้งในฐานข้อมูลผู้ป่วย เข้ารับการดูแลรักษาในระบบ ณ สถานพยาบาลที่จัดตั้งขึ้นโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงขณะเดียวกันขอให้ประสาน กทม.และฝ่ายปกครองในพื้นที่ เข้าไปฆ่าเชื้อทำความสะอาดที่พักอาศัยของผู้ป่วยและพื้นที่โดยรอบในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและเป็นไปตามมาตรการป้องกันและการขนย้ายผู้ป่วยที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไว้ที่กรมยุทธบริการทหาร เพื่อสนับสนุนสนุนยานพาหนะ พร้อมพลขับเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการไปยังโรงพยาบาลสนามในกทม. และปริมณฑล เนื่องจากรถพยาบาลทางการแพทย์ไม่เพียงพอ โดย ให้กองทัพ จัดกำลังพล รถ สนับสนุนภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข หลังรถพยาบาลโรงพยาบาลไม่เพียงพอ
รูปแบบ กองทัพไทยได้มีการจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ศปม. เพื่อรอรับประสานงานมาจากศูนย์ 1668 กรมการแพทย์ ,1669 กทม. เป็นกรณีผู้ป่วยสีเขียว คือติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ เมื่อได้รับการประสานงานมา จะมีการแจ้งพิกัด เบอร์ติดต่อ ว่าจะให้ไปรับที่พักจุดไหน แล้วจะให้นำส่งที่ ศูนย์รพ.สนาม ที่กรุงเทพมหานครเตรียมการไว้
เบื้องต้นจะให้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไปส่งยังโรงพยาบาลสนามได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้จัดยานพาหนะสนับสนุน จำนวนทั้งสิ้น 21 คัน ประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 5 คัน กองทัพบก จำนวน 10 คัน กองทัพเรือ จำนวน 3 คัน และกองทัพอากาศ จำนวน 3 คัน โดยจะทำการหมุนเวียนรับ-ส่งผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาลสนาม วันละ 5 คัน ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. ซึ่งจะดำเนินการไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 เมษายน ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึง การเตรียมพร้อมด้านบุคลากรและอุปกรณ์รับผู้ป่วยโควิด-19 ที่รายงานข้อมูลจากสายด่วนกรมการแพทย์เฉพาะกิจ 1668 เพื่อไปยังจุดคัดกรองโรงพยาบาล (รพ.) สนามและฮอสปิเทล (Hospitel) 4 แห่งในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ว่าที่ผ่านมา สพฉ.ได้ดำเนินการรับส่งต่อผู้ป่วยไป รพ.สนามอย่างต่อเนื่องทุกวัน แต่สำหรับการรับผู้ป่วยไปยังจุดคัดกรอง 4 แห่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 25 เม.ย.64
ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าวว่า สพฉ.ดำเนินการรับส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ในหลายส่วน ได้แก่ 1.ประสานข้อมูลกับสายด่วน 1669 , 1668 และ 1330 เป็นหลัก 2.นำข้อมูลที่มาจ่ายให้ทีมที่เข้ามาสนับสนุน เช่น มูลนิธิโพลวพลือ (ทางสว่าง) มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร ร่วมกตัญญู รวมถึงรถพยาบาลจากบริษัทเอกชน รถจากจิตอาสา แต่หลังจากมีนโยบายดังกล่าว ตอนนี้ สพฉ.กำลังระดมจากหลายภาคส่วน เช่น เครือ รพ.เอกชนในหลายแห่ง รถจากกองทัพ หน่วยงานจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่จะสนับสนุนรถกระบะเข้ามาช่วย