“พิชัย” ยันเกาะกูดของไทย ไม่ควรนำโยง ต้าน 2 ชาติเพื่อนบ้าน เจรจาผลประโยชน์พลังงาน 10-20 ล้านล้าน

นายพิชัย ชี้แจงเพิ่มเติม ในส่วนของมูลค่าพลังงานที่จะเกิดขึ้น หากการเดินหน้าเรื่องการนำน้ำมัน และ ก๊าซธรรมชาติ ขึ้นมาใช้ ว่า ถือเป็นเม็ดเงินมหาศาล และ ควรพิจารณาอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง “ตนอยากให้มองสิ่งเหล่านี้เป็นโอกาส เพราะมูลค่าพลังงาน ในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว มีตัวเลขสูงถึง 10-20 ล้านล้านบาท และ ประเทศไทยยังสามารถนำมาต่อยอดมูลค่าเพิ่มได้มาก 200 ล้านล้านบาท ซึ่งไม่ใชเม็ดเงินน้อย ๆ สำหรับการนำไปพัฒนาเศรษฐกิจประเทศที่มีปัญหา

“คนส่วนหนึ่งไม่ค่อยทราบว่า เศรษฐกิจไทยที่พัฒนามาได้ระดับหนึ่ง เกี่ยวเนื่องกับผลประโยชน์ได้รับจากก๊าซในอ่าวไทย ก่อนส่งต่อมาถึง EEC จนเกิดประโยชน์มหาศาล ผ่านอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ดังนั้นถ้าเรายิ่งสามารถนำก๊าซ น้ำมัน จากพื้นที่ทับซ้อนขึ้นมาทาง EEC ได้ ก็จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยพุ่งขึ้นได้อย่างมาก โดยเฉพาะ EEC ที่จะได้รับประโยชน์เต็ม ๆ จากเรื่องนี้”

นายพิชัย เน้นย้ำในตอนท้ายว่า ประเด็นข้อกังขาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน เป็นเรื่องที่มีการพูดมาต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายเกี่ยวข้องพยายามจะหาทางออกให้ทุกคนสบายใจที่สุด อย่างพรรคเพื่อไทยเองก็มีการหารือกัน จะช่วยกันพูดอธิบายอย่างไร ว่ากรณีเกาะกูดไม่เกี่ยวกับประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องข้อเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อน เพราะเกาะกูดเป็นอำเภอหนึ่งของไทยอยู่แล้ว แล้วเราจะยอมให้เกิดการเสียดินแดนได้อย่างไร หรือถ้าตรงไหนเป็นปัญหาก็ควรหาแนวทางร่วมแก้ไข ดีกว่าจะหยุดทุกอย่างจนประเทศเสียประโยชน์