ศาลอาญา ยกฟ้อง “ณัฐพล ใจจริง” เอาผิด “อ.ไชยันต์” หมิ่นกล่าวหาทำหนังสือชังเจ้า

ศาลชั้นต้นยกฟ้องคดี “ณัฐพล ใจจริง” เอาผิด “อ.ไชยันต์” หมิ่นประมาท ปมถูกแฉเนื้อหาหนังสือชังเจ้าบิดเบือน ชี้ชัดข้อมูลไม่ปรากฎแหล่งอ้างอิง

ศาลอาญา ยกฟ้อง “ณัฐพล ใจจริง” เอาผิด “อ.ไชยันต์” หมิ่นกล่าวหาทำหนังสือชังเจ้า  Top News รายงาน 

 

หนังสือชังเจ้า

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่นายณัฐพล ใจจริง อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ผู้เขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อ “การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ.2491-2500)” และต่อมาได้จัดทำเป็นหนังสือชื่อ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ” ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน

 

ยื่นฟ้อง ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฐานหมิ่นประมาท พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงิน 1,000,000 บาทในคดีนี้ด้วย ต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 65 เนื่องจากนายไชยันต์ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟสบุ๊กว่า นายณัฐพลใช้ข้อมูลจากหนังสือที่ไม่มีอยู่จริงมาอ้างอิงเป็นส่วนหนึ่งในวิทยานิพนธ์ และพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์เพื่อสร้างกระแสความรู้สึกให้ผู้อ่านเกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์

 

 

 

ล่าสุดวันนี้ (5 มี.ค.) ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้ว โดยมีรายละเอียดว่า คดีหมายเลขดำที่ อ.1939/2565 ระหว่างนายณัฐพล ใจจริง โจทก์ กับนายไชยันต์ ไชยพร จำเลย เห็นว่า โจทก์จัดทำวิทยานิพนธ์และผลงานโดยใช้เสรีภาพทางวิชาการ

 

 

ดังนั้นจำเลยในฐานะประชาชนทั่วไป ย่อมมีเสรีภาพในการเห็นต่างจากเนื้อหาหรือข้อความในผลงานของโจทก์เช่นเดียวกัน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยเป็นหัวหน้าโครงการงานวิจัยและดำเนินการวิจัยผลงานต่างๆ ของนักวิชาการจนตรวจพบจุดบกพร่องในวิทยานิพนธ์ของโจทก์ และจำเลยแจ้งไปยังบัณฑิตวิทยาลัยจนมีคำสั่งระงับเผยแพร่วิทยานิพนธ์ฉบับดังกล่าวแล้วตั้งแต่ปี 2562 แต่โจทก์กลับนำเนื้อหาที่มีจุดบกพร่องดังกล่าวไปพัฒนาเขียนเป็นหนังสือและมีการตีพิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณชน จำเลยในฐานะประชาชนทั่วไปย่อมมีสิทธิตรวจสอบว่าเนื้อหาในบทความ หรืองานเขียนดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ แม้ไม่มีหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ของโจทก์ หรือแม้แต่จำเลยไม่ได้รับผลกระทบจากเนื้อหาในวิทยานิพนธ์หรือบทความและหนังสือของโจทก์ก็ตาม

 

 

 

ยิ่งกว่านั้นในฐานะที่จำเลยเป็นนักวิชาการซึ่งมีประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษา เมื่อจำเลยตรวจสอบแหล่งอ้างอิงโดยมีศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ มาเบิกความสนับสนุนถึงว่าจำเลยได้ทำการตรวจสอบตามหลักวิชาการแล้ว ปรากฏว่าไม่มีข้อความที่โจทก์เขียนจากแหล่งอ้างอิง อีกทั้งมีแต่การตีความข้อความเห็นโดยไม่มีข้อเท็จจริงที่มีอยู่จริง อันมีลักษณะที่จำเลยเห็นว่าเป็นการบิดเบือน จำเลยย่อมมีสิทธิทางวิชาการ หรือโต้แย้งและนำเสนอต่อสาธารณชนได้ ไม่ว่ารูปแบบใด เช่น สื่อออนไลน์ เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น เฟสบุ๊ก และให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบข้อความอีกด้าน อีกทั้งเพื่อความเป็นธรรมต่อบุคคลที่โจทก์กล่าวถึงในผลงาน โดยเฉพาะผู้ที่ล่วงลับไปแล้วและไม่มีโอกาสโต้แย้งหรือให้ข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อความเป็นธรรมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งโจทก์เขียนถึงโดยไม่ปรากฏแหล่งอ้างอิง

 

 

การโพสต์ข้อความของจำเลยตามฟ้องนับว่าจำเลยได้กระทำหน้าที่ของบุคคลในฐานะปวงชนชาวไทยในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 50 (1)

 

 

รวมทั้งนับได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ ปรากฏตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (1) (3) จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามฟ้อง ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังขึ้น ข้อเท็จจริงอื่นนอกจากนี้ไม่จำต้องวินิจฉัย “พิพากษายกฟ้อง ”

 

 

สำหรับเนื้อหาในวิทยานิพนธ์ของนายณัฐพลก่อนถูกนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งศาสตราจารย์ไชยันต์ได้ตรวจสอบและพบว่ามีความไม่ถูกต้อง มีเกือบ 20 จุด ตัวอย่าง เช่น ในวิทยานิพนธ์หน้า 85 ณัฐพลได้ระบุว่า จอมพล ป. ได้ถกเถียงกับกรมพระยาชัยนาทนเรนทร เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาตามที่กลุ่มรอยัลลิสต์ดำเนินการร่าง และเรียกร้องให้พระองค์ระวังในการให้คำปรึกษา การให้คำแนะนำต่อองคมนตรี และการมีบทบาททางการเมืองของสถาบันกษัตริย์ นอกจากนี้ จอมพล ป. ได้เห็นแผนการทางการเมืองของกลุ่มรอยัลลิสต์ในการร่างรัฐธรรมนูญ เขาจึงต้องการให้มีการตั้งคณะกรรมการร่างใหม่หรือขอให้แก้ร่างที่กลุ่มรอยัลลิสต์ได้ทำขึ้น ณัฐพลได้อ้างเอกสาร NARA RG59 Central Decimal File 1945-1949 Box 7251, Stanton to Secretary of State, 9 February 1949 แต่จากการตรวจสอบพบว่า เอกสารไม่ได้มีการกล่าวถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด

 

 

 

หรือเนื้อหาในวิทยานิพนธ์หน้า 44 ณัฐพลได้อ้างเอกสารจากทูตสหรัฐฯ ซึ่งรายงานว่าหลังจากกรณีสวรรคต ของรัชกาลที่ 8 ได้เกิดสถานการณ์ทางการเมืองที่ “เกิดการเห่อเหิมของกลุ่มพระราชวงศ์หลายตระกูล” “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘กลุ่มรอยัลลิสต์’ ที่นำโดยราชสกุลสวัสดิวัตน์ที่มีสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี และ ม.จ.ศุภสวัสดิ์ เป็นแกนนำที่ให้การสนับสนุนราชสกุลจักรพงษ์ให้ขึ้นมีอานาจเหนือราชสานักแทน” โดยณัฐพลอ้างเอกสาร NARA, RG59 Central Decimal File 1945-1949 Box 7250, Yost to Secretary of State, 26 June 1946 แต่จากการตรวจสอบเนื้อหาในเอกสารพบว่าในเอกสารระบุแต่เพียงว่า มีความ “ทะเยอทะยาน” เกิดขึ้นภายในบรรดาพระราชวงศ์ ซึ่ง “อาจจะ” เกี่ยวข้องกับพระองค์จุลฯ และพระนางเจ้ารำไพฯ เท่านั้น โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดเรื่องการสนับสนุนราชสกุลจักรพงษ์ให้ขึ้นมามีอานาจเหนือราชสำนักแต่อย่างใด

 

 

 

ประเด็นเนื้อหาในหนังสือชื่อ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” และ “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ” ยังทำให้นายณัฐพลถูก ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ในฐานะหลานของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นโจทก์ฟ้องนายณัฐพล ฐานร่วมกันบิดเบือนทำลายชื่อเสียงของต้นราชสกุลรังสิตต่อศาลแพ่ง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านบาทด้วย ซึ่งคดีนี้นอกจากณัฐพลจะเป็นจำเลยที่ 1 แล้ว ยังมีกุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลยที่ 2 ,นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตบรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3, อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรีเป็นจำเลยที่ 4, ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม และธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 5 ซึ่งความคืบหน้าคดีนี้ ศาลแพ่งได้เริ่มสืบพยานคดีไปแล้ว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ภูเก็ตรวบ ‘เจ มังกร’ ผู้ต้องหาลักทรัพย์ต่อเนื่อง 7 คดี
ตรวจสารเสพติดแรงงานภูเก็ต กว่า 2,500 ราย
ทต.บางเก่า จัดโครงการลดโลกร้อนด้วยมือเรา ปลุกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียวเก็บขยะริมหาดบางเก่า
องคมนตรีตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
ประมงจังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ลงแขกลงคลองจับหปลาหมอคางดำ ณ บ่อบำบัดชะอำ ได้กว่า400กิโล
ARDA ปั้นเครือข่ายผู้บริหารธุรกิจเกษตรยุคใหม่วกส. รุ่น 6 ผนึกกำลังร่วมขับเคลื่อนอนาคตเกษตรไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​