ฟิลิปปินส์ ชุมนุมฉลองครบรอบ 38 ปีขับไล่ ปธน.มาร์กอส

ชาวฟิลิปปินส์ชุมนุมฉลองครบรอบ 38 ปีขับไล่ ปธน.มาร์กอส คนพ่อออกจากตำแหน่ง พร้อมประท้วงต่อต้านแก้รัฐธรรมนูญ หวั่นถูกสอดไส้ให้มาร์กอสจูเนียร์ครองอำนาจยาว

ในวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ ชาวฟิลิปปินส์ทั่วเมืองต่างๆ รวมตัวกันฉลองครบรอบ 38 ปีการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ผู้พ่อในปี 2529 ที่ไร้การนองเลือด ในเมืองเกซอนซิตี้ ใกล้กับเมืองหลวงมะนิลา นักเคลื่อนไหวที่แต่งกายด้วยสีเหลือง สีขาว และสีดำ จัดการประท้วงไปตามถนนเอพิฟานิโอ เดลอส ซานโตส (เอดซา) ที่ซึ่งชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนเดินขบวนในปี 2529 เพื่อประท้วงต่อต้านการปกครอง 21 ปีของนายมาร์กอส ผู้พ่อ ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวมากมาย ทั้งการคอร์รัปชั่น การฆ่าปิดปาก และการกดขี่สื่อ

ในตอนเย็นมีการจัดฟรีคอนเสิร์ต ซึ่งมีการเคาท์ดาวน์สู่เวลา21.05 นาฬิกา ช่วงเวลาเดียวกับที่นายมาร์กอสและพวกหนีออกจากทำเนียบประธานาธิบดี ไปยังฮาวายเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2529 อีกทั้งมีการชุมนุมอื่นๆ จัดขึ้นในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้

นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้วง ยังใช้โอกาสเดียวกันนี้ประท้วงต่อต้านแผนการของประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้เป็นลูก หรือบองบอง ซึ่งเป็นผู้นำในปัจจุบัน ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งถูกเรียกขานกันในนาม ชะช่า ที่รัฐบาลอธิบายว่า เกิดขึ้นเนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2530 มีข้อจำกัดหลายประการ ที่ขัดขวางการปฏิรูปทางเศรษฐกิจตามที่ได้สัญญาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการยกเลิกข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์ระบบสาธารณูปโภค สถาบันการศึกษา และบริษัทโฆษณาของต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งบองบองเองก็ประกาศว่า จะไม่แตะการแก้ไขเรื่องนอกเหนือจากเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดีมีความกังวลเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางว่า บองบองและพันธมิตรจะสอดไส้การแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง ซึ่งนายยูซอฟ อิชัค เอรีส์ อารูไกย์ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญเริ่มต้นขึ้น มันจะไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น พวกเขากำลังเสนอให้เลือกตั้งประธานาธิบดีคนเก่าให้กลับมาดำรงตำแหน่งใหม่ได้ และขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจากรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่กำหนดไว้ที่ 6 ปี

การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญต้องได้รับอนุมัติจากเสียงสามในสี่ของสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาวุฒิสภามักขัดขวางการผ่านมติต่างๆ ทำให้ขณะนี้รัฐบาลของบองบองกำลังเสนอให้ทั้งสองสภาลงคะแนนเสียงร่วมกัน ซึ่งจะทำให้เสียงจากสภาผู้แทน 316 ที่นั่ง ที่ประมาณร้อยละ 95 เป็นพันธมิตรกับฝ่ายบริหารชุดปัจจุบัน ได้รับเสียงข้างมากไปอย่างง่ายดาย จากจำนวนวุฒิสมาชิกที่มีเพียง 24 ที่นั่ง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เพชรบูรณ์ อิ่มบุญอิ่มใจ น้ำหนาวร่วมใจบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ
"เขมร" รับปากไทย แก้ปัญหาคอลฯ เตรียมเสนอแผนปฏิบัติการให้ไทยภายใน 1 เดือน ขณะที่เสธทภ.1 ยันไม่มีการใช้กำลัง เข้าบ้านหนองจาน 26 ก.ย.นี้
แม่จันเดือด ยิงกันหน้าสะดวกซื้อ สาหัส 1 ราย คาดปมขัดแย้งเรื่องยาเสพติด
หนุ่มวัย 28 ปี ปีนซ่อมหลังคา พลัดตกกระแทกพื้น ก่อนกระเบื้องหลังคาตกใส่ขอบตา หวิดตาบอด
"ทนายอนันต์ชัย" เปิดหลักฐานการโอนเงิน "พระดังปทุมฯ" โอนให้สีกา ตั้งมูลนิธิฯ ในเยอรมัน
นาโนเทค คิกออฟ "เชียงราย" พื้นที่ต้นแบบ วทน. ยกระดับคุณภาพน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำกก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​