กรณี “มาดามเดียร์” น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐขอใช้เอกสิทธิ์งดออกเสียง “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ 31 ส.ค.-4 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเขียน FB การงดออกเสียงที่เกิดขึ้นว่า “เหตุผลการตัดสินใจลงคะแนนงดออกเสียงให้กับนายอนุทิน เพราะการอภิปรายข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ที่กระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบการจัดหาวัคซีนและความโปร่งใสในกระบวนจัดซื้อ ATK รวมถึงความสามารถในการบริหารงานด้านสาธารณสุขที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลว ซึ่งคำชี้แจงของ นายอนุทิน ที่ตอบคำถามเพื่อนสมาชิกฯ ไม่ได้รับความชัดเจน ไม่สามารถตอบข้อสงสัยของประชาชนได้ นั่นจึงเป็นผลที่ของดออกเสียงในฐานะสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล” น.ส.วทันยาชี้แจง
ก่อนอธิบายเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับญัตติและยกมือไว้วางใจ “เสี่ยโอ๋” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีนมชมพูที่ถูกอภิปราย ” เรื่องเขากระโดง กรณีดังกล่าว ยังไม่มีข้อมูลใหม่และขณะนี้คดีได้อยู่ภายใต้การตรวจสอบของป.ป.ช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งพฤติกรรมเสเพล ที่ถูกอภิปราย ก็ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความผิดได้อย่างชัดเจน นี่คือการแสดงจุดยืนของเดียร์ ในฐานะตัวแทนของประชาชน” น.ส.วทันยากล่าว
ชัดเจนว่าเป็นอีกครั้งที่มาดามเนชั่นโหวตสวนมติพรรคแหกคอกทำตามใจตัวเอง ทั้งๆที่พรรคมีมติเอกฉันท์ให้โหวตเห็นด้วยไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีทั้ง 6 คนของพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนหน้านี้ช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีรอบที่แล้วช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.วทันยาก็เคยนำ “กลุ่มดาวฤกษ์” ที่ประกอบด้วย ส.ส. 5 คนของกทม. ประกอบด้วย 1.นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตน 2.น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ 3.น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ 4.นายศิริพงษ์ รัสมี 5.น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. งดออกเสียงนายศักดิ์สยามมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนั้นระบุเหตุผลว่า การล้มเงื่อนไขการประมูล (TOR)รถไฟฟ้าสายสีส้ม และ การครอบครองที่ดินเขากระโดง เป็นประเด็นสำคัญ สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะสร้างความไม่พอใจให้กับพรรคภูมิใจไทย ถึงขนาดนายอนุทินออกมาซัดกลับไม่ให้เกียรติไม่เห็นหัวพวกเดียวกัน ผิดธรรมเนียมที่พรรคร่วมรัฐบาลเขาทำกัน ร้อนถึง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต้องออกมาขอโทษหย่าศึก และสั่งลงโทษส.ส.แหกคอกทั้ง 6 คน งดปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมาธิการต่างๆ ไปหลายเดือนเพื่อเป็นการลงโทษก่อนเรื่องราวจะยุติเงียบไป
ถัดจากนั้นมาน.ส.วทันยาก็มีเรื่องระหองระแหงแสดงความเห็นใน FB ฟาดงวงฟาดงานายอนุทินพุ่งเป้าไปที่กระทรวงสาธารณสุขมาตลอดโดยเฉพาะในเรื่องของการบริหารจัดการโควิด-19 ผิดพลาด หรือการเรียกร้องถามหาสปิริตจากนายศักดิ์สยาม กรณีถูกระบุว่าเป็นต้นตอคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ-เอกมัย เป็นต้น โดยมีการวิเคราะห์การออกมาแสดงความคิดเห็นของน.ส.วทันยาส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งทางการเมือง อีกส่วนก็มาจากคดีความที่สื่อเครือเนชั่นของนายฉาย บุนนาค ผู้เป็นสามีมีคดีความหลายเรื่องหลายประเด็นฟ้องร้องกับทางพรรคภูมิใจไทย ถึงขนาดให้ส.ส.และสมาชิกพรรค ขึ้่นโรงพักฟ้องร้องสื่อเครือเนชั่นที่เสนอข่าวบิดเบือนหลายกรณีทั่วประเทศ
นอกจากนี้ที่ผ่านมาน.ส.วทันยายังโพสต์ FB หลายเรื่องแสดงความเห็นหลายกรณีสวนทางรัฐบาลตรงข้ามความรู้สึกคนรักชาติปกป้องสถาบัน อาทิ ไม่เห็นด้วยการออกพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ตำหนิการใช้จ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทเบิกจ่ายล่าช้า ซัดรัฐบาลทำงานบนความประมาทนำมาซึ่งความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและความเสียหายถึงชีวิตของประชาชนที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ หรือการออกมาติงการปราบ Fake news เป็นเส้นบางๆ ในการปิดหูปิดตาประชาชน ระบุการบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าไม่แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุนั้น สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่อาจเป็นไปอย่างที่หวัง แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ การที่ผู้บริหารประเทศไม่ได้ยินเสียงที่แท้จริงจากประชาชน ฯลฯ ล่าสุดกรณีน.ส.วทันยาออกมาแสดงความเห็นเรื่อง call out ข่าวว่าพล.อ.ประวิตรต้องเรียกน.ส.วทันยาไปปรามไปดุอย่าไปทำอะไรสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความแตกแยก สดๆร้อนๆ ไม่นานที่ผ่านมาน.ส.วทันยายังเข้าไปเทคโอเวอร์ บริษัท ขอบสนาม จำกัด ที่เป็นสื่อออนไลน์สายกีฬา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเครือเนชั่น ในแบบที่คนรักสถาบันรับไม่ได้ เพราะ “เบลล์ ขอบสนาม” เป็นอีกสื่ออีกคนที่แสดงจุดยืนฝั่งตรงข้ามรัฐบาล และเคลื่อนไหวสนับสนุนแนวคิดม็อบ 3 นิ้วมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามเส้นทางของน.ส.วทันยาในอนาคตนับจากนี้ คงไม่ง่ายและโรยโดยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน ภายหลังดับเบิ้ลโหวตงดออกเสียง 2 ครั้งซ้อนในศึกซักฟอกแบบแหกมติพรรค จนถูกตราหน้าว่าเป็นส.ส.เด็กดื้อผู้แทนแหกคอกของรัฐบาลเรือแป๊ะ ในส่วนของก๊วนดาวฤกษ์หลังเสร็จศึกซักฟอกรอบนี้ก็นับว่าเป็นการยืนยันข่าว “วงแตก -แยกทาง” กันอย่างเป็นทางการหลังจากที่ลือกันมานานว่าเกิดความระหองระแหงในกลุ่ม ที่ทุกคนยืนยันยังศรัทธาในตัวพล.อ.ประยุทธ์ยังสนับสนุนรัฐบาลบริหารประเทศต่อไปซึ่งต่างจากน.ส.วทันยา ล่าสุด 1.นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตน 2.น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ 3.น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ และ 4.นายศิริพงษ์ รัสมี โหวตตามมติพรรคทุกคนไม่มีใครแตกแถวแหกคอกแต่อย่างใด
จะมีเพียงน.ส.ธณิกานต์ เท่านั้นที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าจะมีคำพิพากษา จากกรณี ป.ป.ช. ส่งคำร้องกล่าวหา กระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง จากกรณีการเสียบบัตรแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการระบุชื่อ ยังจับมือใครดมไม่ได้ว่าใคร คือ “ไอ้โม่ง” หรือ “อีแอบ” ที่หยิบบัตรมาเสียบแทนให้กับน.ส.ธณิกานต์ จนทำให้เกิดข่าวฉาวโฉ่ใหญ่โตทั้งสภา ซึ่งคนที่เสียบบัตรแทนกันจะเข้าข่ายกระทำผิดอาญา ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ ม.226 ประกอบ ม.235 เท็จจริงเรื่องนี้ไม่นานคงได้รู้กันว่าใครคือ “มือมืด-มือดี” ที่เสียบบัตรแทนกันจนทำให้ผู้แทนไทยสภาไทยขายขี้หน้าเขาไปทั่ว
ท้ายสุดอนาคตทางการเมืองของน.ส.วทันยาต่อจากนี้ ก็มาจากวิบากกรรมที่เธอตัดสินใจเลือกเอง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นนักการเมืองคลื่นลูกใหม่เป็นส.ส.หญิงมากความสามารถ เคยเป็นอดีตผู้บริหารสปริงนิวส์ เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีชื่อเป็นอดีตนักการเมืองที่ถูกจับตามองว่าเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ เคยมีข่าวลอยลมลุ้นเป็นรัฐมนตรีหญิงอายุน้อย แต่วันนี้เส้นทางการเมืองข้างหน้าดูเหมือนยากที่จะเติบโต เสมือน “โลกกว้างทางแคบ” จะอยู่พรรคพลังประชารัฐต่อไปก็โตลำบากเพราะแหกมติพรรคสวนทางที่ประชุม ก๊วนดาวฤกษ์ก็ฉิ่งหนีเพราะเล่นตีพรรคอัดผู้นำตัวเอง ไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เพราะเกาเหล่าขัดแย้งกัน จะไปสวมแจ๊กเก็ตฟ้าเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็ลำบาก เพราะจุดยืนเขาชัดรักชาติปกป้องสถาบัน แถมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์หลายคนก็ขยาดน.ส.วทันยากลัวเปรี้ยวเกรงล้ำเส้นทำอะไรเลยธงพรรคให้วุ่นวายอีก สุดท้ายท้ายสุดอนาคตมาดามเดียร์ไม่แคล้วเจอคนทั้งวงการลอยแพ ต่อให้เป็นรถสปอร์ตสวยหรูดูดี แต่ถ้ามันมีตำหนิเห็นชัด พวงมาลัยหนักขับขี่ยาก ใครก็ไม่อยากใช้ไม่อยากได้ไปครอบครอง
/////////////////
